พรีวิวและวิเคราะห์บอล ไทย vs สิงคโปร์  ศึกฟุตบบอลทีมชาตินัดกระชับมิตรฟีฟ่าเดย์คู่ระหว่าง ทีมชาติไทย และ ทีมชาติสิงคโปร์ กลายเป็นเกมที่แฟนบอลอาเซียนให้ความสนใจอย่างมาก เพราะนอกจากจะเป็นการทดสอบทีมของทั้งสองชาติแล้ว ยังเป็นการวัดศักยภาพเชิงแท็กติกของกุนซือใหม่ฝ่ายไทยและกุนซือขัดตาทัพของสิงคโปร์ด้วย เกมนี้แข่งขันในวันพฤหัสบดีที่ 13 พฤศจิกายน เวลา 19.30 น. ที่สนามธรรมศาสตร์ สเตเดี้ยม โดยหลายคนมองว่าจะเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ว่าระยะหลังที่สถิติการเจอกัน ไทย สิงคโปร์ มักออกมาข้างทีมชาติไทยอย่างชัดเจน จะยังคงดำเนินต่อไปหรือไม่ในค่ำคืนนี้

พรีวิวและวิเคราะห์บอล ไทย vs สิงคโปร์ 13/11/2568 | นัดกระชับมิตรฟีฟ่าเดย์ ที่ธรรมศาสตร์ สเตเดี้ยม

ข้อมูลเบื้องต้นของการแข่งขัน ไทย สิงคโปร์ นัดนี้

การแข่งขันนัดนี้อยู่ในช่วงฟีฟ่าเดย์ ทำให้ทั้งทีมชาติไทยและทีมชาติสิงคโปร์สามารถเรียกผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดจากสโมสรต่าง ๆ มาร่วมทัพได้อย่างเต็มที่
สำหรับ ไทย สิงคโปร์ เกมนี้จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่แมตช์อุ่นเครื่องธรรมดา แต่ยังเป็นเวทีให้บรรดานักเตะโชว์ฟอร์มเพื่อตอกย้ำตำแหน่งในทีมชาติของตัวเอง
รวมถึงเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนทัวร์นาเมนต์ทางการระดับทวีปที่รออยู่ข้างหน้า ซึ่งกุนซือทั้งสองฝั่งจะใช้เกมนี้เพื่อทดลองแท็กติกและโครงสร้างทีมอย่างจริงจัง

การลงสนามของทีมชาติไทยในบ้านต่อหน้าแฟนบอลที่สนามธรรมศาสตร์ สเตเดี้ยม ทำให้บรรยากาศของเกมระหว่าง ไทย สิงคโปร์ มีสีสันมากขึ้น
เพราะสนามแห่งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งรังเหย้าที่นักเตะไทยค่อนข้างคุ้นเคย ทั้งในแง่ของสภาพพื้นสนาม การเดินทาง และการสนับสนุนจากกองเชียร์
เมื่อประกอบเข้ากับสถานะของทั้งสองทีมในระดับอาเซียนแล้ว แรงกดดันส่วนใหญ่จึงตกไปอยู่ที่ทีมชาติไทยที่ต้องการผลการแข่งขันที่ดีเพื่อรักษาความเชื่อมั่นของแฟนบอล

สถิติการพบกัน 5 นัดหลังสุด ไทย สิงคโปร์

หากมองย้อนกลับไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สถิติการพบกันระหว่าง ไทย สิงคโปร์ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าทีมชาติไทยทำผลงานได้เหนือกว่าอย่างมาก
ไทยเก็บชัยชนะได้ครบทั้ง 5 นัดหลังสุดในการเจอกันทุกรายการ ไม่ว่าจะเป็นฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก หรือศึกชิงแชมป์อาเซียน
โดยส่วนใหญ่เป็นการเอาชนะคู่แข่งด้วยสกอร์หลายประตู สะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างทั้งด้านคุณภาพของผู้เล่นและการจบสกอร์ในพื้นที่สุดท้ายที่ทีมชาติไทยทำได้อย่างเฉียบคมกว่า

วันที่ คู่แข่งขัน รายการ ผลการแข่งขัน
17/12/24 สิงคโปร์ 2-4 ไทย อาเซียนคัพ ไทยชนะ 4-2
11/06/24 ไทย 3-1 สิงคโปร์ ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ไทยชนะ 3-1
21/11/23 สิงคโปร์ 1-3 ไทย ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ไทยชนะ 3-1
18/12/21 ไทย 2-0 สิงคโปร์ อาเซียนคัพ ไทยชนะ 2-0
25/11/18 ไทย 3-0 สิงคโปร์ อาเซียนคัพ ไทยชนะ 3-0

จากตารางผลงานข้างต้นจะเห็นได้ว่าคู่แข่งอย่างสิงคโปร์ไม่สามารถเอาชนะทีมชาติไทยได้เลยในช่วงหลัง แถมยังเสียประตูให้ทัพช้างศึกจำนวนมากแทบทุกนัด
โดยเฉลี่ยแล้ว ไทย สิงคโปร์ ในระยะหลังมักจบด้วยการที่ไทยยิงได้เกินสองประตูอยู่เสมอ จุดนี้ทำให้แฟนบอลไทยมีความคาดหวังว่าทีมจะยังคงรักษามาตรฐานการเล่นและสถิติอันยอดเยี่ยมเอาไว้ได้
อย่างไรก็ตามฟุตบอลนัดกระชับมิตรย่อมมีพื้นที่ให้เกิดเซอร์ไพรส์อยู่เสมอ จึงไม่อาจประมาทผู้มาเยือนรายนี้ได้เลย

สภาพความพร้อมและอัพเดตขุมกำลังทีมชาติไทย

ก่อนเกม ไทย สิงคโปร์ ครั้งนี้ ทีมชาติไทยมีข่าวดีในแง่ของสภาพร่างกายนักเตะ เมื่อไม่มีผู้เล่นที่ได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติมจากเดิม
แม้จะมีการถอนตัวไปแล้ว 3 รายสำคัญอย่าง ธีรศิลป์ แดงดา, อนันต์ ยอดสังวาลย์ และ สุพรรณ ทองสงค์ แต่ทีมงานสตาฟฟ์ก็ได้เรียกผู้เล่นใหม่เข้ามาทดแทนทันที
นำโดย อิคลาส สันหรน, ปรเมศย์ อาจวิไล และ ชินภัทร์ ลีเอาะ ทำให้โครงสร้างทีมยังคงมีความสมบูรณ์และมีตัวเลือกหลากหลายในการจัดทัพลงสนามสำหรับเกมนี้

การจัดทีมของกุนซือชาวต่างชาติอย่าง ฮัดสัน มีแนวโน้มว่าจะยึดระบบ 4-3-3 หรือปรับยืดหยุ่นเป็น 4-2-3-1 ตามสถานการณ์ในสนาม
โดยผู้รักษาประตูคาดว่าจะเป็น ปฏิวัติ คำไหม ที่ได้รับความไว้วางใจให้ยืนเฝ้าเสา ส่วนแผงแบ็กโฟร์ใช้ นิโคลัส มิคเกลสัน ยืนแบ็กขวา
คู่เซ็นเตอร์แบ็กเป็น ศฤงคาร พรมสุภะ จับคู่กับ ณัฐพงษ์ สายริยา และให้ เควิน ดีรมรัมย์ ยืนทางกราบซ้ายซึ่งเด่นในการเติมเกมรุกและเปิดบอลจากริมเส้น
จุดนี้จะเป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญของรูปแบบการเล่นในเกม ไทย สิงคโปร์ ครั้งนี้

ในแดนกลางคาดว่าบทบาทของ ธีราทร บุญมาทัน จะถูกปรับมาเป็นห้องเครื่องที่คอยเชื่อมเกมจากแนวรับขึ้นไปสู่แนวรุก ร่วมกับ สารัช อยู่เย็น ที่มีจุดเด่นด้านการคุมจังหวะและการจ่ายบอลสั้นแม่นยำ
ส่วนตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์ตัวสูงสุดของทีมยังคงเป็น ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่แฟนบอลคุ้นเคยในฐานะจอมทัพตัวปั้นเกม
เมื่อประกบเข้ากับสามประสานแดนหน้าที่ประกอบไปด้วย สุภโชค สารชาติ, เสกสรรค์ ราตรี และ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย ทำให้โครงสร้างเกมรุกของทีมชาติไทยดูน่ากลัวและมีความหลากหลายอย่างมาก

อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจคือโอกาสในการประเดิมสนามของ จู๊ด เบลล์ กองหน้าลูกครึ่งอังกฤษ-ไทย ที่หลายคนจับตามอง
แม้ในเกม ไทย สิงคโปร์ ครั้งนี้เขาอาจจะออกสตาร์ทรออยู่บนม้านั่งสำรอง แต่หากได้รับโอกาสลงสนามในครึ่งหลัง
สไตล์การเล่นที่แข็งแกร่งในลูกกลางอากาศและการหาพื้นที่ในกรอบเขตโทษของเขาอาจสร้างมิติใหม่ให้กับแนวรุกไทย และกลายเป็นอาวุธเด็ดในช่วงท้ายเกมได้เช่นกัน

จุดเด่นของทีมชาติไทยก่อนดวลสิงคโปร์

เมื่อวิเคราะห์ในภาพรวมแล้ว ทีมชาติไทยยังคงมีจุดเด่นสำคัญหลายด้านที่ทำให้ ไทย สิงคโปร์ กลายเป็นคู่ที่ฝ่ายไทยถือไพ่เหนือกว่า
ทั้งในด้านคุณภาพของผู้เล่นตัวหลักที่เคยผ่านเวทีระดับเอเชียและเจลีกมาแล้วอย่าง ชนาธิป และ ธีราทร รวมถึงแข้งไทยลีกระดับหัวแถว อาทิ สุภโชค และ เควิน
ซึ่งต่างมีสไตล์การเล่นที่เหมาะกับระบบต่อบอลบนพื้นและการเคลื่อนที่เข้าทำที่หลากหลาย ทำให้แผงเกมรุกของทีมชาติไทยมีความอันตรายทั้งจากการเจาะริมเส้นและการต่อบอลทะลุกลาง

อีกด้านหนึ่งคือประสบการณ์ในเกมระดับทีมชาติของผู้เล่นไทยที่ยังเหนือกว่าสิงคโปร์อยู่พอสมควร
หลายคนผ่านสถานการณ์กดดันในนัดสำคัญมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเกมฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก หรือศึกชิงแชมป์อาเซียน
ซึ่งเมื่อประกอบเข้ากับการเล่นในบ้านและเสียงเชียร์จากแฟนบอลแล้ว ยิ่งทำให้ทีมชาติไทยมีศักยภาพมากพอที่จะคุมเกมบุกใส่คู่แข่งได้ตลอดทั้งเก้าสิบนาที
จุดนี้เป็นสิ่งที่กุนซือสิงคโปร์ต้องวางแผนรับมืออย่างรัดกุม

สภาพทีมชาติสิงคโปร์และการเตรียมพร้อมก่อนบุกเยือนไทย

ฝั่งทีมชาติสิงคโปร์ เดินทางมาเล่นเกม ไทย สิงคโปร์ ครั้งนี้ในฐานะทีมอันดับ 155 ของโลก ภายใต้การคุมทัพของ กาวิน ลี
ที่ทำหน้าที่กุนซือชั่วคราวหรือเฮดโค้ชขัดตาทัพ หลังจาก สึโตมุ โอกุระ เทรนเนอร์ชาวญี่ปุ่นตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งด้วยเหตุผลส่วนตัวเมื่อช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
การเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนทำให้ทัพเมอร์ไลออนส์อยู่ในช่วงปรับจูนทีมและสไตล์การเล่นใหม่ ซึ่งอาจเป็นทั้งโอกาสและความเสี่ยงในเวลาเดียวกัน

เป้าหมายหลักของสิงคโปร์ในเกมนี้คือการใช้โอกาสในช่วงฟีฟ่าเดย์ลองทีมและทดสอบผู้เล่น ก่อนเข้าสู่ทัวร์นาเมนต์สำคัญอย่างศึกเอเชียนคัพและรายการระดับทวีปอื่น ๆ
โดยเฉพาะการผสมผสานผู้เล่นประสบการณ์สูงกับนักเตะสายเลือดใหม่ที่ค้าแข้งในต่างแดนและไทยลีก
การดวลกับทีมชาติไทยจึงถือเป็นบททดสอบระดับคุณภาพ เพราะ ไทย สิงคโปร์ เป็นคู่ที่มักใช้วัดระดับมาตรฐานของฟุตบอลอาเซียน ว่าทั้งสองชาติพัฒนาขึ้นไปในทิศทางใดบ้างเมื่อเทียบกับอดีต

แข้งสิงคโปร์ในไทยลีกและบทบาทในเกม ไทย สิงคโปร์

หนึ่งในจุดที่น่าสนใจอย่างมากของทีมชาติสิงคโปร์ชุดนี้ คือการเรียกผู้เล่นที่ค้าแข้งอยู่ในไทยลีกมาติดทีมชาติจำนวนถึง 6 ราย
ประกอบไปด้วยสองพี่น้องชื่อดังตระกูลฟานดี ได้แก่ อิลฮาน ฟานดี จากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ อิกซาน ฟานดี จากราชบุรี เอฟซี
รวมถึงนักเตะอย่าง อร์แดน เอมาวิวี จากบีจี ปทุม ยูไนเต็ด, แฮรีส สจวร์ต จากอุทัยธานี เอฟซี, ไรฮาน สจวร์ต จากทีมพลังกาญจน์
และ เคียวกะ นากามูระ จากทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ซึ่งล้วนคุ้นเคยกับบรรยากาศฟุตบอลไทยเป็นอย่างดี

การมีผู้เล่นสิงคโปร์ในไทยลีกหลายคนช่วยให้ทีมเยือนมีแต้มต่อบางส่วนในเรื่องการปรับตัวกับสภาพอากาศ สนามแข่งขัน และสไตล์การเล่นของฝ่ายตรงข้าม
เมื่อต้องลงเล่นในเกม ไทย สิงคโปร์ ที่สนามธรรมศาสตร์ สเตเดี้ยม นักเตะเหล่านี้จะสามารถสื่อสารกับเพื่อนร่วมทีมได้ว่าควรระวังอะไรเป็นพิเศษ
ทั้งเรื่องคุณภาพของผู้เล่นไทย การเคลื่อนที่ของแนวรุก และจุดแข็งในเกมรุกด้านริมเส้น ซึ่งจะช่วยให้กุนซือชั่วคราวอย่าง กาวิน ลี วางแผนเกมรับได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

11 ตัวจริงที่คาดของทีมชาติไทยและโครงสร้างแท็กติก

สำหรับ 11 ตัวจริงทีมชาติไทยที่คาดว่าจะได้ออกสตาร์ทในเกม ไทย สิงคโปร์ นัดนี้ ภายใต้ระบบ 4-2-3-1 หรือยืดหยุ่นเป็น 4-3-3 มีโครงสร้างที่ค่อนข้างชัดเจน
เริ่มจากตำแหน่งผู้รักษาประตูที่น่าจะเป็น ปฏิวัติ คำไหม ยืนเป็นมือหนึ่ง แผงกองหลังประกอบด้วย นิโคลัส มิคเกลสัน ทางฝั่งขวา
คู่เซ็นเตอร์แบ็กคือ ณัฐพงษ์ สายริยา ร่วมกับ ศฤงคาร พรมสุภะ ส่วนแบ็กซ้ายเป็น เควิน ดีรมรัมย์ ที่มีจุดเด่นด้านสปีดและการเติมเกมรุก
เป็นโครงสร้างแนวรับที่เน้นสมดุลทั้งเกมรับและเกมรุกจากริมเส้น

ตำแหน่ง ผู้เล่นทีมชาติไทย (คาดการณ์)
ผู้รักษาประตู ปฏิวัติ คำไหม
กองหลังขวา นิโคลัส มิคเกลสัน
คู่เซ็นเตอร์แบ็ก ณัฐพงษ์ สายริยา, ศฤงคาร พรมสุภะ
กองหลังซ้าย เควิน ดีรมรัมย์
กองกลางกลาง ธีราทร บุญมาทัน, สารัช อยู่เย็น
กองกลางตัวรุก ชนาธิป สรงกระสินธ์
ปีกขวา สุภโชค สารชาติ
ปีกซ้าย เสกสรรค์ ราตรี
กองหน้าตัวเป้า ธีรศักดิ์ เผยพิมาย

แผงมิดฟิลด์ตัวกลางของไทยจะฝากความหวังไว้กับคู่หูอย่าง ธีราทร บุญมาทัน และ สารัช อยู่เย็น ที่มีคุณสมบัติเหมาะทั้งในเกมครองบอลและการจ่ายบอลตัดไลน์คู่แข่ง
ขณะที่ตำแหน่งหมายเลข 10 คือ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่จะเป็นคนเชื่อมระหว่างแดนกลางกับแนวรุก โดยใช้ความคล่องตัวและวิสัยทัศน์การจ่ายบอลคม ๆ
เพื่อเจาะแนวรับสิงคโปร์ เมื่อผสมกับการวิ่งทำทางของ สุภโชค สารชาติ และ เสกสรรค์ ราตรี รวมถึงการยืนค้ำของ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย
จึงทำให้ระบบการเข้าทำของ ไทย สิงคโปร์ ครั้งนี้มีความน่ากลัวอย่างยิ่งจากทุกมิติ

แท็กติกและจุดที่น่าจับตามองในเกม ไทย สิงคโปร์

ในมุมแท็กติก ทีมชาติไทยคาดว่าจะเน้นการคุมบอลและค่อย ๆ ต่อเกมขึ้นจากแนวรับผ่านแดนกลาง
ธีราทร และ สารัช จะช่วยสร้างสมดุลทั้งเกมรุกและเกมรับ โดยมีชนาธิปเป็นตัวสร้างสรรค์เกมรุกในพื้นที่สุดท้าย
จุดที่น่าสนใจในเกม ไทย สิงคโปร์ คือการวิ่งสอดเข้าเขตโทษของปีกทั้งสองฝั่ง และการเติมเกมของแบ็กอย่าง เควิน ดีรมรัมย์
ที่มักจะโอเวอร์แลปขึ้นสูงเพื่อเปิดบอลด้านข้าง ทำให้แนวรับสิงคโปร์ต้องระวังการเสียพื้นที่ริมเส้นเป็นพิเศษ

ในขณะเดียวกันสิงคโปร์น่าจะเน้นเกมรับแบบรัดกุมและรอจังหวะสวนกลับเร็ว ใช้ความเร็วและความแข็งแกร่งของแนวรุกที่ค้าแข้งในไทยลีกสร้างความปั่นป่วนให้แผงหลังไทย
การเผชิญหน้าของแนวรับไทยกับพี่น้องฟานดีจึงเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญของเกม ไทย สิงคโปร์ นัดนี้
โดยเฉพาะจังหวะลูกกลางอากาศและการเข้าชนในกรอบเขตโทษที่ไทยต้องมีสมาธิและอ่านเกมให้ขาดเพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาดที่ไม่จำเป็น

บทวิเคราะห์แนวโน้มผลการแข่งขัน ไทย สิงคโปร์

เมื่อพิจารณาจากปัจจัยรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นสถิติการพบกัน ฟอร์มการเล่นในช่วงหลัง คุณภาพของตัวผู้เล่น และการเล่นในบ้าน
จะเห็นได้ว่าทีมชาติไทยดูเหนือกว่าสิงคโปร์อยู่พอสมควร ไทยมีแนวโน้มจะเป็นฝ่ายครองบอลและเปิดเกมบุกใส่คู่แข่งได้ตลอดทั้งเกม
ขณะที่สิงคโปร์จำเป็นต้องเล่นอย่างรัดกุม หวังอาศัยความผิดพลาดของแนวรับไทยหรือจังหวะสวนกลับเพื่อสร้างโอกาสทำประตู
ทำให้ภาพรวมของเกม ไทย สิงคโปร์ มีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นการแข่งขันที่ทีมชาติไทยครองเกมส่วนใหญ่

อย่างไรก็ตาม การที่สิงคโปร์มีผู้เล่นที่ค้าแข้งในไทยลีกถึงหกคนย่อมช่วยลดระยะห่างด้านประสบการณ์และความคุ้นเคยกับฟุตบอลไทยลงไปบางส่วน
การอ่านเกมของผู้เล่นเหล่านี้อาจสร้างปัญหาให้แนวรับไทยได้ในบางจังหวะ โดยเฉพาะเมื่อไทยเดินเกมบุกสูงและปล่อยพื้นที่ว่างด้านหลัง
จึงอาจเกิดช่วงเวลาที่เกมเปิดแลกและมีโอกาสลุ้นประตูทั้งสองฝั่ง ทำให้ ไทย สิงคโปร์ ในค่ำคืนนี้มีโอกาสเป็นเกมที่สนุกและเต็มไปด้วยสกอร์ได้เช่นกัน

เวลาแข่งขัน สนาม และข้อมูลสำหรับแฟนบอล

ศึก ไทย สิงคโปร์ นัดนี้จะลงสนามฟาดแข้งกันในวันพฤหัสบดีที่ 13 พฤศจิกายน เวลา 19.30 น. ตามเวลาประเทศไทย
ที่สนามธรรมศาสตร์ สเตเดี้ยม ซึ่งเป็นสนามเหย้าที่ทีมชาติไทยใช้บ่อยครั้งในช่วงหลัง ด้วยความจุที่รองรับแฟนบอลได้จำนวนมาก
พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทำให้บรรยากาศในการเชียร์ทีมชาติในเกมนี้น่าจะเต็มไปด้วยสีสัน
แฟนบอลที่เดินทางไปชมเกมสด ๆ จะได้สัมผัสทั้งบรรยากาศเกมระดับทีมชาติและความเข้มข้นของคู่แข่งในอาเซียนอย่างใกล้ชิด

ในแง่การเดินทาง แฟนบอลสามารถเลือกใช้ทั้งรถส่วนตัวและระบบขนส่งสาธารณะเพื่อไปยังสนามธรรมศาสตร์ สเตเดี้ยม
บริเวณโดยรอบมีจุดจอดรถและพื้นที่รองรับผู้ชมจำนวนหนึ่ง แต่เนื่องจากเกมระหว่าง ไทย สิงคโปร์ มีแนวโน้มจะมีผู้ชมหนาแน่น
จึงควรเผื่อเวลาเดินทางล่วงหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรติดขัด และเพื่อให้ทันชมพิธีการก่อนเริ่มแข่งขัน รวมถึงเก็บบรรยากาศบริเวณหน้าสนามที่มักมีบูทกิจกรรมต่าง ๆ ให้ร่วมสนุก

สรุปภาพรวมก่อนเกม ไทย สิงคโปร์

โดยภาพรวมแล้วเกมนัดกระชับมิตรฟีฟ่าเดย์ระหว่าง ไทย สิงคโปร์ ถือเป็นโอกาสสำคัญของทีมชาติไทยในการย้ำความเหนือชั้นในภูมิภาค
พร้อมทั้งเป็นเวทีทดลองแท็กติกและโรเตชันผู้เล่นใหม่ภายใต้การคุมทีมของ ฮัดสัน ขณะเดียวกันสิงคโปร์ก็ใช้เกมนี้เพื่อทดสอบขุมกำลังและจูนทีมภายใต้การนำของกุนซือขัดตาทัพอย่าง กาวิน ลี
จุดตัดสินของเกมอยู่ที่ว่าทีมชาติไทยจะสามารถรักษามาตรฐานการเล่นและความเฉียบคมในพื้นที่สุดท้ายเอาไว้ได้มากน้อยเพียงใด
และสิงคโปร์จะมีทีเด็ดพอสร้างเซอร์ไพรส์แบ่งแต้ม หรืออย่างน้อยทำให้เกมนี้ไม่ได้ง่ายอย่างที่ใครหลายคนคาดคิดหรือไม่

ไม่ว่าผลการแข่งขันจะออกมาในทิศทางใด เกม ไทย สิงคโปร์ ในครั้งนี้ย่อมเป็นอีกหนึ่งแมตช์ที่ช่วยบอกใบ้แนวโน้มการพัฒนาของทั้งสองชาติในเวทีฟุตบอลอาเซียนและเอเชีย
แฟนบอลจึงไม่ควรพลาดทั้งการติดตามฟอร์มของนักเตะหน้าใหม่ การประสานงานของตัวหลัก รวมถึงการใช้แท็กติกของทั้งสองกุนซือ
เพราะรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ จากเกมนี้อาจกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อผลงานในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ที่กำลังรออยู่ในอนาคตของทั้งทีมชาติไทยและทีมชาติสิงคโปร์