โปรแกรมวัวชนนครตรัง อัปเดตตารางการแข่งขันล่าสุด 4 พฤศจิกายน 2568

โปรแกรมวัวชนนครตรัง อัปเดตตารางการแข่งขันล่าสุด 4 พฤศจิกายน 2568 วันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน 2568 สนามกีฬาชนโค นคร ตรัง เปิดศึกใหญ่ช่วงต้นเดือนด้วยแมตช์เข้มข้น 11 คู่ ผสานทั้งเกมเร็วแรงต้น เกมเชิงละเอียดที่ต้องพึ่งการ หมุน–ตัด–สวน และเกมคุมวงในแบบบดยาวที่วัดกันด้วย แรงปลาย + สมาธิ + วินัย จุดพีกของวันอยู่ที่ คู่ 5 (เงินล้าน 1,000,000) และ คู่ 6 (เงินนอก 1,000,000) ขณะที่แกนกลาง–ปลายรายการอย่าง คู่ 7–9 ก็มีเดิมพันสูงระดับ 600k–400k–300k ติดต่อกัน คอวัวชนจึงได้ลุ้นยาวตั้งแต่ยกแรกจนถึงคู่ปิดสนาม

โปรแกรมวัวชนนครตรัง อัปเดตตารางการแข่งขันล่าสุด 4 พฤศจิกายน 2568

บริบทสนาม & โทนเกมของวัน

สนามนคร ตรัง ขึ้นชื่อเรื่องพื้นสังเวียน แน่น–เรียบ ทำให้ “ภาพเกมสะอาด” เห็นชัดทั้งการ ตั้งเขา–ชนตรง และ หมุน–ตัด–สวน อีกทั้งระบบภาคสนามที่เป็นระเบียบ—โซนพักโค ทางขึ้น–ลงสังเวียน ระบบเสียง และพื้นที่ผู้ชม—ช่วยให้การแข่งขันดำเนินไปอย่างไหลลื่น ผู้ชมตามเกมได้ครบทุกจังหวะ จุดนี้ทำให้การยึดมุมแรก–มุมสองในช่วงเปิดเกมมีความหมายอย่างยิ่ง และเมื่อเข้าสู่ช่วงบ่าย การบริหารแรงปลายกับการรีเซ็ตตำแหน่งเมื่อเสียมุมจะเป็นตัวตัดสินชัยชนะของหลายคู่ที่มีแนวโน้มยืดเยื้อ

---

📅 ตารางโปรแกรม (4 พฤศจิกายน 2568 | เริ่ม 10:00 น.)

---

วิเคราะห์เชิงเทคนิค “คู่ต่อคู่” (ครบ 11 คู่ — ทุกคู่มีตารางประกอบ)

คู่ที่ 1 — ลังสาดมาวิน (น้องลำไย) vs ดุกด้างมงคลชัย (อ้ายทองแท้) — 10,000

ยกเปิดสนามคือการชิง “มุมแรก–มุมสอง” อย่างเข้มข้น น้องลำไยเป็นลังสาดที่สปีดดี ตัดมุมไวและมีวินัยเรื่องการ ไม่ไล่ฟรี ส่วนอ้ายทองแท้เป็นดุกด้างที่บุกจัด เร่งจังหวะถี่และพยายามปิดเกมสั้น หากลังสาดคุมต้นได้ เกมจะไหลไปตามจังหวะสะอาด แต่ถ้าดุกด้างจับช่องได้ก่อน โอกาสจบไวมีสูง จังหวะรีเซ็ตหลังเสียมุมจึงเป็นจุดพลิกของคู่นี้โดยตรง

---

คู่ที่ 2 — ลังสาดเพชรตาชู (ลูกทัด) vs ขาวสปริงทอง — 20,000

เกมนี้คือการดวลกันระหว่าง “ลังสาดตัด–สวนคม” กับ “ขาวเขาคมกดมุมต้น” ลูกทัดมีวินัยสูงในการหักมุมและรีเซ็ตจังหวะ ส่วนขาวสปริงทองเด่นการเปิดแลกคมและการบีบพื้นที่อย่างรวดเร็ว ผู้ชนะจะเป็นฝ่ายที่ “ตัดแล้วซ้ำให้เกิดผล” ต่อเนื่อง หากขาวปิดต้นไม่ลง ลังสาดจะกุมจังหวะปลายได้มากกว่าและค่อย ๆ สะสมแต้มเชิงจนจบยก

---

คู่ที่ 3 — ขาวสุทนเกียรตินำโชค (อ้ายสุทน) vs โหนดมาเซเต้ (อ้ายมึน) — 20,000

ขาวสุทนขึ้นชื่อด้านความคมของเขาและจังหวะเปิดแลกที่แม่นยำ ขณะที่โหนดมาเซเต้เป็นสายบุกที่เดินหน้าอย่างต่อเนื่อง หากขาวไม่ปิดต้นให้ได้ เกมจะค่อย ๆ กลายเป็นการยื้อวงในที่โหนดถนัดกว่า ดังนั้นการ “ครองมุมแรก–มุมสอง” ของขาวคือหัวใจหลัก ส่วนโหนดต้องเน้นรีเซ็ตตำแหน่งหลังโดนตัด เพื่อไม่ให้ถูกบังคับจังหวะนานเกินไป

---

คู่ที่ 4 — โหนดงามวังจั่นน้อย (พี่หลวงจง) vs โหนดหลังขาวลูกรักยอดกตัญญู (ป๊อกเก้า) — 20,000 (เสมอนอก 600k)

โหนดชนโหนดระดับเสมอนอกหนัก เกมนี้วัดกันที่ “แรงปลาย + สมาธิ + การรีเซ็ตหลังเสียมุม” พี่หลวงจงคุมวงในได้หนึบและมีวินัยการซ้ำ ส่วนป๊อกเก้ามีความละเมียดในการหลบ–สวนและถอดจังหวะได้ดี หากเกมยืด ใครตั้งหลักใหม่ได้เร็วกว่าและไม่ไล่ฟรีจะเป็นฝ่ายคุมยกช่วงสำคัญ สะท้อนคุณภาพการเตรียมทีมทั้งสองฝ่ายอย่างแท้จริง

---

คู่ที่ 5 — โหนดวูคอง vs โหนดพังพอนดำ — 1,000,000

คู่เงินล้านที่แฟนโคใต้จับตา วูคองเป็นโหนดคุมวงในหนักแน่น บีบพื้นที่แบบ “ไม่ปล่อยให้หายใจ” ส่วนพังพอนดำมีจุดเด่นด้านความเร็วและการเปิดแลกที่ดุดัน หากพังพอนดำปิดต้นไม่ได้ เกมจะเอนเข้าพื้นที่ของวูคองที่ถนัดการยืดและย้ำซ้ำจนคู่ต่อสู้หมดแรง เรื่อง “วินัยไม่ไล่ฟรี” และการบริหารแรงปลายจึงสำคัญที่สุดของคู่นี้

---

คู่ที่ 6 — ขาวงามอรินทราช เสี่ยเท่ห์ vs แดงงามวาตูซี่ — 20,000 (เสมอนอก 1,000,000)

แม้รางวัลสนามไม่สูง แต่เสมอนอกระดับล้านทำให้แมตช์นี้ดุเดือด ขาวอรินทราชขึ้นชื่อเรื่องเขาคมและการ “ปิดต้นคมชัด” ส่วนแดงวาตูซี่พลังบุกดี บี้ตรงและพยายามลากเกมให้ยืดเพื่อกดคู่ต่อสู้ให้หมดแรง ช่วง 1–2 นาทีแรกอาจเป็นตัวตัดสิน หากขาวปิดต้นไม่ได้ โอกาสกลับฝั่งของแดงจะเพิ่มขึ้นทุกวินาที

---

คู่ที่ 7 — ดุกด้างก้องชัย vs โหนดใจเพชรพิพิธชัย (อ้ายหมูเด้ง) — 20,000 (เสมอนอก 600k)

ก้องชัยเป็นดุกด้างสายบู๊ เปิดแรงและเร่งจังหวะถี่ ขณะที่หมูเด้งเป็นโหนดตั้งรับเหนียว หลบ–สวนได้เฉียบและชอบลากเกมให้ถึงช่วงวัดแรงปลาย ถ้าดุกด้างไม่ปิดต้น ความนิ่งของโหนดจะเริ่มคุมเกมมากขึ้น จังหวะรีเซ็ตหลังเสียมุมคือสิ่งที่ทั้งสองทีมต้องทำให้ดีที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงเสียทรงซ้ำซ้อน

---

คู่ที่ 8 — แดงบุญยวีลูกศรีวิชัย (ไอ้ดอก) vs โหนดงามไททศสมบูรณ์ทรัพย์ (ส้มจี๊ด) — 20,000 (เสมอนอก 400k)

ไอ้ดอกเป็นแดงสปีดดี เปิดไวและหามุมเข้าทำต่อเนื่อง ส่วนส้มจี๊ดเป็นโหนดเชิงสูง เล่นสะอาดและไม่ไล่ฟรี อย่างไรก็ตาม หากแดงพลาดจังหวะเปิดหรือเร่งเกินจนเสียตำแหน่ง โหนดจะสวนกลับได้เจ็บกว่าและคุมจังหวะปลายได้ดีกว่า ความแม่นของการ “ตัดแล้วซ้ำ” จึงเป็นตัววัดผลสำคัญ

---

คู่ที่ 9 — ลังสาดยอดวิชาวันมีชัย (จอมพลเล็ก) vs โหนดท้องลายน้อยร้อยวิชาดาราเมืองตรัง (100เมีย) — 20,000 (เสมอนอก 300k)

คู่นี้เป็นเกมเชิงที่สวยงาม จอมพลเล็กมีวินัยในการตัดมุมและการคุมระยะ ขณะที่ 100เมียเล่นแบบตามน้ำ หลบ–สวนแม่น พยายามยืดให้คู่แข่งหมดแรงและพลาดจังหวะสำคัญ หากลังสาดไม่สามารถปิดช่วงต้น–กลางได้ โหนดจะค่อย ๆ ครองพื้นที่และเก็บแต้มเชิงในช่วงปลายยก

---

คู่ที่ 10 — ลายเพิ่มพูนทรัพย์ (หยกนำชัย) vs ลังสาดวันชัยชนะ — 20,000 (เสมอนอก 200k)

ลายเพิ่มพูนทรัพย์เป็นสายเร่งต้น เปิดไวและเน้นปิดเกมสั้น ส่วนลังสาดวันชัยชนะเป็นมวยสมดุลที่คุมจังหวะได้ดี หากลายไม่ปิดต้นให้ได้ ความนิ่งของลังสาดจะค่อย ๆ ครอบเกมและทำให้ลายเริ่มหมดแรงเร็วกว่า จังหวะ “ตัดแล้วซ้ำ” ของลังสาดจะมีน้ำหนักมากในช่วงท้าย

---

คู่ที่ 11 — ลังสาดยอดเพชรเอก vs ขาวอัศวินเพชรมาเฟียร์อันดามัน — 40,000 (เสมอนอก 200k)

คู่ปิดสนามเน้น “ความสะอาดของจังหวะและการครองมุมแรก” ลังสาดยอดเพชรเอกมีเชิงจัดและสามารถถอดจังหวะคู่ต่อสู้ได้ดี ส่วนขาวอัศวินฯ มีความคมของเขาและการเปิดแลกที่แม่นยำ หากฝ่ายใดเร่งเกินจนเสียตำแหน่งจะเสียแรงฟรีและเปิดช่องสวนให้คู่ต่อสู้ทันที เกมมีโอกาสยืดยาวถ้าทั้งสองยืนระยะได้ดี

---

สรุปภาพรวม & กลยุทธ์ของวัน

ตลอดทั้งวันจะเห็นชัดว่าการ “คุมระยะ–ไม่ไล่ฟรี”, “ตัดมุมแล้วซ้ำ”, และ “รีเซ็ตไวเมื่อเสียมุม” คือปัจจัยที่ทำให้ทีมหนึ่ง “ประหยัดแรงแต่ได้แต้ม” มากกว่าคู่ต่อสู้ โดยเฉพาะคู่เงินสูงช่วงบ่ายอย่าง คู่ 5–6 ที่แนวโน้มยืดยาว วินัยและสมาธิจะชี้ชะตา ส่วนแกนกลางอย่าง คู่ 7–9 เป็นเวทีของทีมเชิงละเอียดที่จะฉกฉวยจังหวะพลาดเพียงเสี้ยววินาทีแล้วพลิกเกมทันที หากคุณกำลังวางแผนเดินทาง แนะนำให้มาถึงก่อนเวลา เพื่อเลือกมุมชมถนัดและไม่พลาดสีสันตั้งแต่คู่เปิดสนาม