ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 7 ของฤดูกาลล่าสุด “ไฮไลท์ฟุตบอล เบรนท์ฟอร์ด vs แมนฯ ซิตี้” กลายเป็นอีกเกมที่แฟนบอลทั่วโลกจับตา เมื่อทีมแชมป์เก่าอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ต้องออกไปเยือน เบรนท์ฟอร์ด ทีมจอมแกร่งในบ้าน ที่เพิ่งสร้างผลงานสุดช็อกด้วยการถล่ม แมนฯ ยูไนเต็ด 3-1 ในเกมก่อนหน้า การพบกันครั้งนี้ไม่เพียงมีเดิมพันเป็นสามคะแนนเท่านั้น แต่ยังเป็นเกมที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มีโอกาสสร้างสถิติสำคัญในพรีเมียร์ลีก กับการคว้าชัยชนะนัดที่ 250 ในลีกสูงสุดอังกฤษอีกด้วย

แม้เกมนี้จะเต็มไปด้วยความตึงเครียดและการต่อสู้เชิงแทคติกจากทั้งสองฝ่าย แต่สุดท้าย “เรือใบสีฟ้า” ก็ยังคงยืนหยัดเป็นผู้ชนะได้อีกครั้ง จากประตูสุดเฉียบของ “เออร์ลิ่ง ฮาลันด์” ดาวยิงตัวเก่งชาวนอร์เวย์ ที่ซัดประตูโทนตั้งแต่ช่วงต้นเกม ส่งให้ แมนฯ ซิตี้ คว้าสามคะแนนเต็มกลับบ้าน และขยับขึ้นไปรั้งอันดับ 5 ของตารางคะแนนได้อย่างสวยงาม

ไฮไลท์ฟุตบอล เบรนท์ฟอร์ด vs แมนฯ ซิตี้

 

ยิ่งเล่น ยิ่งได้ลุ้น เดิมพันขั้นต่ำ 20 บาท
U-QUIZ ทายผลลุ้น ucoin ทายถูกครบ3ข้อ รับฟรี20 ucoin (เล่นได้ 3 รอบต่อสัปดาห์)”

โปรแกรมฟุตบอล วันที่ 2 ตุลาคม 2568

ภาพรวมก่อนเกม : เจ้าบ้านคึกคัก ส่วนทีมเยือนหวังสถิติใหม่

เบรนท์ฟอร์ด ของ คีธ แอนดรูว์ส เข้าสู่เกมนี้ด้วยความมั่นใจ หลังเพิ่งเปิดบ้านถล่ม แมนฯ ยูไนเต็ด มาอย่างยอดเยี่ยม 3-1 สัปดาห์ก่อน กุนซือเลือดไอริชยังคงใช้แผนกองหลัง 5 คนเหมือนเดิมเพื่อรับมือเกมรุกดุดันของ แมนฯ ซิตี้ โดยมี ควีวิน เคลเลเฮอร์ นายทวารชาวไอริช เฝ้าเสา และแนวรับนำโดย คริสตอฟเฟอร์ อาเยอร์, เนธาน คอลลินส์ และ เซ็ปป์ ฟาน เดน เบิร์ก

ขณะที่แนวรุกฝากความหวังไว้กับ เควิน ชาเดอ และ อีกอร์ ติอาโก้ สองกองหน้าที่กำลังมั่นใจเต็มเปี่ยม ส่วนแดนกลางมีทั้ง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เยกอร์ ยาร์โมลุค และ มิคเคล ดัมส์การ์ด ที่พร้อมต่อสู้ในแดนกลางกับคู่แข่งระดับโลก

ทางฝั่ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า แม้จะเพิ่งผ่านเกมหนักกลางสัปดาห์ แต่ยังคงจัดทีมชุดแข็งเต็มพิกัด มี จานลุยจิ ดอนนารุมม่า นายด่านมือหนึ่งคนใหม่ยืนเฝ้าเสา แนวรับประกอบด้วย รูเบน ดิอาส จับคู่กับ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล ส่วนแผงมิดฟิลด์ใช้ โรดรี้ เป็นตัวคุมจังหวะ โดยมี ทิจจานี่ ไรน์เดอร์ส, ฟิล โฟเด้น และ ออสการ์ บ็อบบ์ คอยทำเกมรุกสนับสนุน เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ดาวยิงตัวเป้า

ครึ่งแรก : ฮาลันด์ซัดเร็ว เรือใบขึ้นนำอย่างเฉียบขาด

เสียงนกหวีดเริ่มเกมดังขึ้นได้เพียง 9 นาที “เรือใบสีฟ้า” ก็โชว์ความเฉียบคมทันที ยอสโก้ กวาร์ดิโอล เปิดบอลยาวอย่างแม่นยำจากแดนหลังให้ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ เบียดเอาชนะ เซ็ปป์ ฟาน เดน เบิร์ก ก่อนจะซัดด้วยซ้ายส่งบอลเสียบเสาอย่างสวยงามให้ แมนฯ ซิตี้ ขึ้นนำ 1-0 และเป็นประตูที่ 9 ของเจ้าตัวในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ยังคงนำเป็นดาวซัลโวต่อไป

หลังจากได้ประตูนำ แมนฯ ซิตี้ ยังคงครองเกมบุกได้ต่อเนื่อง นาทีที่ 19 ฟิล โฟเด้น ได้โอกาสยิงในกรอบเขตโทษ แต่ ควีวิน เคลเลเฮอร์ นายทวารเจ้าบ้านยังโชว์ฟอร์มเซฟไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม

อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 20 กลับเกิดข่าวร้ายสำหรับทีมเยือน เมื่อ โรดรี้ ห้องเครื่องตัวเก่งได้รับบาดเจ็บกล้ามเนื้อจนเล่นต่อไม่ไหว เป๊ป จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนเอา นิโก้ กอนซาเลซ ลงมาแทน ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนเล็ก ๆ ที่ทำให้จังหวะการครองบอลของทีมเยือนลดลงเล็กน้อย

เบรนท์ฟอร์ด พยายามตั้งเกมสวนกลับ นาทีที่ 39 ทิจจานี่ ไรน์เดอร์ส วอลเลย์เต็มข้อ แต่ยังไม่ผ่านมือ เคลเลเฮอร์ ที่บินปัดออกไปได้อีกครั้ง ทำให้จบครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังคงนำอยู่ 1-0

ครึ่งหลัง : เจ้าบ้านพยายามบุก แต่ ดอนนารุมม่า ปิดประตูแน่น

กลับมาครึ่งหลัง เบรนท์ฟอร์ดพยายามเดินหน้าบุกหวังทวงประตูคืน นาทีที่ 48 เป็นโอกาสทองของเจ้าถิ่น เมื่อ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล โหม่งพลาด บอลไปเข้าทางของ อีกอร์ ติอาโก้ หลุดเดี่ยวเข้าไปยิง แต่ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ออกมาบล็อกไว้ได้อย่างเหลือเชื่อ ป้องกันไม่ให้ทีมเสียประตู

จากนั้นเกมเริ่มเปิดมากขึ้น เบรนท์ฟอร์ด พยายามเล่นลูกครอสจากริมเส้น นาทีที่ 58 เควิน ชาเดอ เปิดบอลให้ ไมเคิ่ล คาโยเด ได้ขึ้นโขก แต่บอลหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย

ขณะที่ แมนฯ ซิตี้ เองแม้จะครองบอลได้มากกว่า แต่ก็เน้นการคุมจังหวะและครองพื้นที่เพื่อไม่ให้คู่แข่งสวนกลับได้ง่าย เกมค่อนข้างอึดอัดและขาดความคมในพื้นที่สุดท้าย กระทั่งเข้าสู่ช่วงท้ายเกม นาทีที่ 90 เควิน ชาเดอ วิ่งเข้ามาสกัดบอลจากจังหวะที่ ดอนนารุมม่า จะเปิดบอล แต่บอลเด้งออกหลังเป็นลูกเตะมุม และไม่มีจังหวะอันตรายเพิ่มเติม

สุดท้ายเสียงนกหวีดหมดเวลาการแข่งขันดังขึ้น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกมาเฉือน เบรนท์ฟอร์ด 1-0 เก็บสามแต้มล้ำค่าได้สำเร็จ

วิเคราะห์เกม : ซิตี้คุมเกมเหนือกว่า แม้เจอเกมรับแน่น

เกมนี้ถือเป็นอีกนัดที่แสดงให้เห็นถึงความเฉียบคมและวินัยเกมรับของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า แม้จะไม่ได้มีโอกาสมากมาย แต่ทุกจังหวะสำคัญถูกเปลี่ยนเป็นประตูได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ที่ยังคงรักษาฟอร์มสุดยอดต่อเนื่อง เขาทำประตูได้ในทุกลักษณะของเกม ทั้งการฉีกแนวรับและจบสกอร์ในจังหวะเดียว

ส่วนเกมรับของ แมนฯ ซิตี้ ก็ยังคงแข็งแกร่ง รูเบน ดิอาส กับ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล ช่วยกันป้องกันลูกกลางอากาศได้ดี แม้จะมีข้อผิดพลาดเล็กน้อยในครึ่งหลัง แต่ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ก็พิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นนายทวารระดับโลกจริง ๆ ด้วยการเซฟสำคัญหลายครั้ง

มุมมองจากผู้จัดการทีม

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า : “ชัยชนะที่มีคุณค่าและเต็มไปด้วยความหมาย”

กุนซือชาวสเปนเผยหลังเกมว่า “นี่คือชัยชนะที่สำคัญมาก เพราะไม่ใช่แค่สามคะแนน แต่ยังเป็นเกมที่เราแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความอดทน เราเริ่มต้นได้ดี ยิงได้เร็ว และแม้จะต้องเสีย โรดรี้ ไปเพราะอาการบาดเจ็บ แต่ทีมก็ยังคงรักษาระเบียบเกมไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม”

คีธ แอนดรูว์ส : “เราทำได้ดี แต่ยังขาดความเฉียบคม”

ฝั่งกุนซือเบรนท์ฟอร์ดกล่าวว่า “ผมภูมิใจกับนักเตะทุกคน เราต่อสู้ได้ดี และสร้างโอกาสหลายครั้ง แต่สุดท้ายความแตกต่างอยู่ที่ความเฉียบคมในจังหวะสุดท้าย แมนฯ ซิตี้ คือทีมที่หากคุณพลาดแม้เพียงนิดเดียว พวกเขาจะลงโทษคุณทันที”

สถิติหลังเกม

รายชื่อผู้เล่นตัวจริง

เบรนท์ฟอร์ด (5-3-2)

ควีวิน เคลเลเฮอร์ (GK), ไมเคิ่ล คาโยเด, คริสตอฟเฟอร์ อาเยอร์, เนธาน คอลลินส์, เซ็ปป์ ฟาน เดน เบิร์ก, อารอน ฮิคกี้ – จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เยกอร์ ยาร์โมลุค, มิคเคล ดัมส์การ์ด – เควิน ชาเดอ, อีกอร์ ติอาโก้

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (4-1-4-1)

จานลุยจิ ดอนนารุมม่า (GK), มาเธอุส นูเนส, รูเบน ดิอาส, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล, นิโก้ โอไรลลี่ – โรดรี้ (นิโก้ กอนซาเลซ น.20) – ซาวินโญ่, ฟิล โฟเด้น, ทิจจานี่ ไรน์เดอร์ส, ออสการ์ บ็อบบ์ – เออร์ลิ่ง ฮาลันด์

บทสรุป : ฮาลันด์ยังร้อนแรง เป๊ปสร้างตำนานต่อ

“ไฮไลท์ฟุตบอล เบรนท์ฟอร์ด vs แมนฯ ซิตี้” นัดนี้สะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพของทีมระดับแชมป์อย่างแท้จริง แม้จะไม่ใช่เกมที่เล่นได้โดดเด่นทุกนาที แต่ความแน่นอนและความเฉียบคมในจังหวะสำคัญคือสิ่งที่สร้างความแตกต่าง ฮาลันด์ ยังคงเป็นอาวุธร้ายที่คู่แข่งทุกทีมต้องจับตา ส่วน เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็สร้างสถิติใหม่ด้วยการเก็บชัยชนะในพรีเมียร์ลีกครบ 250 นัด ซึ่งนับว่าเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร

สำหรับ เบรนท์ฟอร์ด แม้จะแพ้ในเกมนี้ แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความเหนียวแน่นในเกมรับ หากพวกเขารักษามาตรฐานนี้ไว้ได้ ตลอดฤดูกาลยังมีโอกาสอยู่รอดและสร้างผลงานที่ดีต่อเนื่องแน่นอน

สรุปคะแนนหลังจบเกม: