พบกับความมันส์ของ มวยวันนี้ กับรายการ ศึกดาวรุ่งเกียรติจำรูญ ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 23 มิถุนายน 2568 (23/06/68) โดยขนทัพนักมวยเยาวชนสายแกร่งจากหลากหลายค่ายดังมาประชันฝีมือกันอย่างดุเดือดบนสังเวียนที่กำลังได้รับความสนใจมากที่สุดในเวลานี้ รายการนี้ได้รับการจับตามองจากแฟนมวยทั่วประเทศ เพราะเต็มไปด้วยดาวรุ่งที่น่าจับตาและมีแนวโน้มก้าวขึ้นเป็นยอดมวยในอนาคตอันใกล้

มวยวันนี้ ศึกดาวรุ่งเกียรติจำรูญ 23/06/68

มวยวันนี้ ศึกดาวรุ่งเกียรติจำรูญ 23/06/68

โปรแกรมการแข่งขัน
ศึกดาวรุ่งเกียรติจำรูญ
วันจันทร์ ที่ 23 มิถุนายน 2568
เวทีมวยปุมธานีบ๊อกซิ่งสเตเดี้ยม เวลา 19:30 น.

อัพเดตข่าวสาร ตารางมวย พร้อมลิ้งก์ดูมวยสด ที่นี่

คู่ที่ ฝ่ายแดง พิกัด (กก./ปอนด์) ฝ่ายน้ำเงิน พิกัด (กก./ปอนด์)
1 สิงห์ดำ ลูกพ่อตาทะเลหอย 23.0 กก. ทองพะเนียด ศิษย์อบต.จ้อน 23.0 กก.
2 เพชรโชกุน เกียรติจำรูญ 24.0 กก. เพชรเอก เกียรติเข็มทอง 24.0 กก.
3 ตะคร้อเล็ก ต.หมอศรี 26.0 กก. กิตติกวิน ส.กิจรุ่งโรจน์ 26.0 กก.
4 ซุปเปอร์นาย ส.ก.เอกวิน 22.0 กก. เพชรเนวิน เมฆดำมวยไทย 22.0 กก.
5 เพชรอาเซียน เกียรติจำรูญ 25.5 กก. ขุมทรัพย์ ส.สุภารัตน์ 25.5 กก.
6 เก้าแต้ม น.นาคสุวรรณ 27.0 กก. บัวขาวเล็ก ต.หมอศรี 27.0 กก.
7 ยอดภูผา หนองบัวยิมส์ 42.5 ปอนด์ เพชรชุมพวง ต.ยั่งยืน 42.5 ปอนด์
8 ธนูทอง ลูกพ่อตาทะเลหอย 27.0 กก. ขวัญสุพรรณ ศิษย์อาจารย์ต่าย 27.0 กก.

รายชื่อคู่ชกในศึกดาวรุ่งเกียรติจำรูญ

การจัดคู่ชกในศึกนี้ถูกวางไว้อย่างเหมาะสม ทั้งในแง่ของน้ำหนัก พิกัด และประสบการณ์ของนักมวย เพื่อให้แฟนมวยได้ชมการแข่งขันที่สนุกตื่นเต้นสมศักดิ์ศรี

คู่ที่ 1: สิงห์ดำ ปะทะ ทองพะเนียด (พิกัด 23.0 กก.)

สิงห์ดำ ลูกพ่อตาทะเลหอย มวยแดงดาวรุ่งที่มีพลังหมัดจัดจ้าน มั่นใจในการเดินหน้าลุย ขึ้นเวทีครั้งนี้ต้องพบกับ ทองพะเนียด ศิษย์อบต.จ้อน มวยน้ำเงินจอมแกร่งจากสายล่างที่มีความทนทานและเชิงมวยเหนียวแน่น ทั้งสองต่างมีพิกัดอยู่ที่ 23.0 กิโลกรัม จึงเชื่อได้ว่าเป็นการชกที่สมน้ำสมเนื้อและมีโอกาสชนะเท่าเทียมกัน

คู่ที่ 2: เพชรโชกุน ปะทะ เพชรเอก (พิกัด 24.0 กก.)

ศึกสองเพชร! เพชรโชกุน เกียรติจำรูญ ฝ่ายแดง เจ้าถิ่นผู้มากด้วยเทคนิคและความมั่นใจ เจอกับ เพชรเอก เกียรติเข็มทอง มวยน้ำเงินจากค่ายคู่แข่งที่ขึ้นชื่อเรื่องฝีมือและไหวพริบในการป้องกันตัว การชกในพิกัด 24.0 กิโลกรัมครั้งนี้จะเป็นอีกหนึ่งคู่ที่แฟนมวยห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง

คู่ที่ 3: ตะคร้อเล็ก ปะทะ กิตติกวิน (พิกัด 26.0 กก.)

หนึ่งในคู่ที่ได้รับการจับตามองมากที่สุดในรายการ มวยวันนี้ ศึกดาวรุ่งเกียรติจำรูญ 23/06/68 คือการพบกันของ ตะคร้อเล็ก ต.หมอศรี กับ กิตติกวิน ส.กิจรุ่งโรจน์ ทั้งสองเป็นนักมวยสไตล์บู๊เดินหน้าแลกหมัดแบบไม่มีถอย ซึ่งมีน้ำหนักเท่ากันที่ 26.0 กิโลกรัม ถือเป็นคู่ที่มีโอกาสเกิดน็อกเอาต์สูง

คู่ที่ 4: ซุปเปอร์นาย ปะทะ เพชรเนวิน (พิกัด 22.0 กก.)

มวยเล็กแต่มากด้วยความเร็ว! ซุปเปอร์นาย ส.ก.เอกวิน ขึ้นเวทีในพิกัด 22.0 กก. พร้อมเจอกับ เพชรเนวิน เมฆดำมวยไทย ที่มีสายเลือดมวยเต็มตัว การชกในรุ่นเล็กแบบนี้มักเต็มไปด้วยจังหวะเร็ว พลิกเกมไว ใครพลาดเพียงเล็กน้อยอาจเปลี่ยนผลได้ทันที

คู่ที่ 5: เพชรอาเซียน ปะทะ ขุมทรัพย์ (พิกัด 25.5 กก.)

คู่นี้คือการเจอกันของมวยครบเครื่องจากสองสาย เพชรอาเซียน เกียรติจำรูญ ผู้มากด้วยประสบการณ์ในรายการดัง และ ขุมทรัพย์ ส.สุภารัตน์ ที่มีฝีมือไม่ธรรมดาในพิกัด 25.5 กิโลกรัม ทั้งคู่มีสถิติการชกใกล้เคียงกัน ทำให้คู่นี้ถูกยกให้เป็นอีกคู่ที่สูสีที่สุดของค่ำคืนนี้

คู่ที่ 6: เก้าแต้ม ปะทะ บัวขาวเล็ก (พิกัด 27.0 กก.)

นักมวยระดับแนวหน้าของเยาวชนไทย เก้าแต้ม น.นาคสุวรรณ ต้องพบกับคู่แข่งจากค่ายดัง บัวขาวเล็ก ต.หมอศรี ทั้งสองขึ้นชกในพิกัด 27.0 กก. ซึ่งเป็นน้ำหนักที่กำลังน่าดูเพราะมวยในพิกัดนี้มักมีพละกำลังและความเร็วที่สมดุล น่าจะเป็นคู่ที่ออกอาวุธกันได้อย่างจุใจ

คู่ที่ 7: ยอดภูผา ปะทะ เพชรชุมพวง (พิกัด 42.5 ปอนด์)

เปลี่ยนบรรยากาศมาที่พิกัด 42.5 ปอนด์กับการพบกันของ ยอดภูผา หนองบัวยิมส์ และ เพชรชุมพวง ต.ยั่งยืน คู่ชกน้ำหนักเบาที่โดดเด่นในเรื่องเทคนิคและสปีดเกม ถือเป็นหนึ่งในคู่ที่แฟนมวยต่างจังหวัดรอติดตามกันอย่างใจจดใจจ่อ

คู่ที่ 8: ธนูทอง ปะทะ ขวัญสุพรรณ (พิกัด 27.0 กก.)

ปิดท้ายค่ำคืนนี้ด้วยการดวลหมัดของ ธนูทอง ลูกพ่อตาทะเลหอย กับ ขวัญสุพรรณ ศิษย์อาจารย์ต่าย ทั้งคู่ต่างก็ขึ้นชกในพิกัด 27.0 กิโลกรัม ซึ่งเป็นน้ำหนักมาตรฐานที่เปิดโอกาสให้นักชกโชว์ฝีมือได้เต็มที่ มีโอกาสเกิดเกมเร็ว หรือพลิกล็อกในช่วงท้าย

บทสรุป: ศึกดาวรุ่งเกียรติจำรูญ ที่แฟนมวยห้ามพลาด

ในรายการ มวยวันนี้ นับเป็นรายการที่รวมดาวรุ่งพุ่งแรงจากทั่วประเทศไว้ในเวทีเดียว แฟนมวยจะได้เห็นพัฒนาการของนักชกรุ่นใหม่ ความหลากหลายของสไตล์การชก และความมันส์ที่ไม่มีสะดุด ใครที่กำลังติดตามวงการมวยไทยในระดับเยาวชนและนักชกอนาคตไกล รายการนี้คือเวทีสำคัญที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง