มวยวันนี้ ศึกดาวรุ่ง น. สงวนพงษ์ 5/09/68 ศึกดาวรุ่ง น. สงวนพงษ์ ถือเป็นอีกหนึ่งเวทีสำคัญที่แฟนมวยต่างตั้งตารอ เพราะเต็มไปด้วยนักมวยดาวรุ่งพุ่งแรงที่กำลังสร้างชื่อ รวมไปถึงการเจอกันของนักชกรุ่นเล็กที่โชว์ฟอร์มดุไม่แพ้ใคร รายการนี้มีหลากหลายคู่ที่น่าสนใจ แต่ในบทความนี้เราจะเลือกมาวิเคราะห์ 5 คู่ใหญ่ที่แฟนมวยห้ามพลาด โดยจะเจาะลึกทั้งผลการชั่งน้ำหนัก ความพร้อมของร่างกาย และแนวทางการชกที่คาดว่าจะเกิดขึ้น

มวยวันนี้ ศึกดาวรุ่ง น. สงวนพงษ์ 5/09/68

มวยวันนี้ ศึกดาวรุ่ง น. สงวนพงษ์ 5/09/68

โปรแกรมการแข่งขัน ศึกดาวรุ่ง น. สงวนพงษ์
วันศุกร์ที่ 5 กันยายน 2568
ณ เวทีมวยตะวันนา เวลา 16:00 น.
อัพเดตข่าวสาร ตารางมวย พร้อมลิ้งก์ดูมวยสด ที่นี่

คู่ที่ มุมแดง พิกัด ชั่งได้ มุมน้ำเงิน พิกัด ชั่งได้
1 กัปตัน โค้ชณัฐชานันท์ 31.5 กก. 31.3 (ขาด 0.2) จ้าวนรา กอล์ฟพระเครื่องหาดใหญ่ 31.5 กก. ตามพิกัด
2 บัวขาว บูมเด็กเซียน 30 กก. 29.9 (ขาด 0.1) โบวี่ ห่วงซื่อกรุ๊ป 30 กก. 30.1 (เกิน 0.1)
3 ฟ้าลิขิต ศิษย์วัดสระแก้ว 28 กก. 28.5 (เกิน 0.5) รุกกี้ เกียรติบุญส่ง 29 กก. 28.7 (ขาด 0.3)
4 นาสีทอง อ. อู๊ดอุดร 33 กก. 33.6 (เกิน 0.6) เพชรสายชล วันของโอม WKO 33 กก. 32.8 (ขาด 0.2)
5 เพชรดำ เสี่ยแต็กน้ำแข็งหลอด 29 กก. 29.7 (เกิน 0.7) จ้าวซัน กอล์ฟพระเครื่องหาดใหญ่ 29 กก. 28.8 (ขาด 0.2)
6 หยกเพชร ส. เจริญทรัพย์ 43 กก. 42.9 (ขาด 0.1) แก่นเงิน ปุ๋ยตราไข่มุก 43 กก. 43.5 (เกิน 0.5)
7 ดินเนื้อเงิน วันของโอม WKO 37.5 กก. 37.6 (เกิน 0.1) หยกนพเก้า ผู้กองโอ่ง ตม. 37.5 กก. 37.3 (ขาด 0.2)
8 ปีนเกลียว ส. เดชะพันธ์ 39 กก. ตามพิกัด ยอดสิงห์ ส. ราชภูมิ 39 กก. ตามพิกัด
9 เพชรค้ำคูณ อ. อู๊ดอุดร 115 ปอนด์ ตามพิกัด มงคลชัย ศิษย์อุดมชัย 115 ปอนด์ ตามพิกัด

คู่ที่ 1 กัปตัน โค้ชณัฐชานันท์ vs จ้าวนรา กอล์ฟพระเครื่องหาดใหญ่

ในพิกัด 31.5 กิโลกรัม กัปตัน โค้ชณัฐชานันท์ ชั่งได้ 31.3 กก. ขาดเล็กน้อย 0.2 กก. แสดงให้เห็นถึงการเตรียมตัวที่ดี มีความฟิตพร้อมในเชิงร่างกายและความเร็ว ส่วนคู่ชกอย่างจ้าวนรา กอล์ฟพระเครื่องหาดใหญ่ สามารถชั่งได้ตรงตามพิกัดพอดี ถือเป็นการเตรียมตัวที่สมบูรณ์แบบ จุดเด่นของไฟต์นี้คือการปะทะระหว่างนักมวยที่คล่องตัวกับนักมวยที่คุมพิกัดได้เป๊ะ คาดว่าจะเป็นการชกที่ต้องอาศัยทั้งความเร็วและการวางแผนเชิงมวยอย่างละเอียด


คู่ที่ 2 ฟ้าลิขิต ศิษย์วัดสระแก้ว vs รุกกี้ เกียรติบุญส่ง

อีกหนึ่งคู่เดือดในพิกัดเล็ก ฟ้าลิขิต ศิษย์วัดสระแก้ว ขึ้นชั่งได้ 28.5 กก. เกินไปเล็กน้อย 0.5 กก. ซึ่งอาจส่งผลต่อความเร็วในการเคลื่อนตัว แต่ในทางกลับกันจะทำให้มีพละกำลังเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ด้านรุกกี้ เกียรติบุญส่ง พิกัด 29 กก. แต่ชั่งได้เพียง 28.7 กก. ขาดไป 0.3 กก. ทำให้มีความได้เปรียบในด้านความว่องไว คู่ชกคู่นี้ถือว่าน่าจับตามองอย่างมาก เพราะเป็นการเจอกันของนักมวยที่มีสไตล์ต่างกันอย่างชัดเจน พละกำลังปะทะความเร็ว จึงทำให้การต่อสู้ยิ่งน่าตื่นเต้นและเต็มไปด้วยกลยุทธ์


คู่ที่ 3 นาสีทอง อ. อู๊ดอุดร vs เพชรสายชล วันของโอม WKO

ในพิกัด 33 กก. นาสีทอง อ. อู๊ดอุดร ชั่งได้เกินพิกัดเล็กน้อย 0.6 กก. ซึ่งอาจสะท้อนถึงพลังและความอึดที่มากกว่า แต่ก็ต้องแลกมากับความเร็วที่ลดลง ส่วนเพชรสายชล วันของโอม WKO ชั่งได้ 32.8 กก. ขาดไป 0.2 กก. ถือว่าได้เปรียบด้านความคล่องตัว คู่ชกคู่นี้ถือเป็นการวัดกันระหว่าง “พละกำลัง” และ “ความเร็ว” ที่น่าจับตามอง โดยแฟนมวยเชื่อว่าทั้งสองจะใส่กันไม่ยั้งตั้งแต่ยกแรกเพื่อสร้างความได้เปรียบ


คู่ที่ 4 หยกเพชร ส. เจริญทรัพย์ vs แก่นเงิน ปุ๋ยตราไข่มุก

พิกัด 43 กก. เป็นอีกคู่ที่แฟนมวยให้ความสนใจ หยกเพชร ส. เจริญทรัพย์ ชั่งได้ 42.9 กก. ขาดไป 0.1 กก. ทำให้ได้เปรียบในเรื่องความเร็วและความว่องไว ส่วนแก่นเงิน ปุ๋ยตราไข่มุก ชั่งได้ 43.5 กก. เกิน 0.5 กก. ทำให้มีพละกำลังมากกว่าและน่าจะได้เปรียบในช่วงชุลมุนใกล้ชิด ความแตกต่างเล็กน้อยนี้อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ตัดสินผู้ชนะ ไฟต์นี้จึงเป็นอีกหนึ่งคู่ที่แฟนมวยต้องไม่พลาด เพราะทั้งสองต่างก็มีจุดแข็งที่ชัดเจน


คู่เอก เพชรค้ำคูณ อ. อู๊ดอุดร vs มงคลชัย ศิษย์อุดมชัย

พิกัด 115 ปอนด์ เป็นคู่ใหญ่ปิดท้ายของรายการ เพชรค้ำคูณ อ. อู๊ดอุดร และ มงคลชัย ศิษย์อุดมชัย ต่างชั่งได้ตามพิกัดพอดีทั้งคู่ แสดงให้เห็นถึงการเตรียมตัวที่สมบูรณ์และความฟิตที่ดีเยี่ยม ไฟต์นี้จึงเป็นการชกที่มีความสูสีสูง เน้นการใช้เชิงมวยและจังหวะการออกอาวุธที่แม่นยำเป็นหลัก เพราะทั้งสองฝ่ายไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบด้านร่างกายเลยแม้แต่น้อย การเจอกันครั้งนี้ถือเป็นไฮไลท์ของ ศึกดาวรุ่ง น. สงวนพงษ์ อย่างแท้จริง


สรุปความมันส์ในศึกดาวรุ่ง น. สงวนพงษ์

สำหรับ ศึกดาวรุ่ง น. สงวนพงษ์ ที่เลือกมาวิเคราะห์ 5 คู่ใหญ่ จะเห็นได้ว่ามีทั้งคู่ที่ขาดและเกินพิกัดเพียงเล็กน้อย ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อฟอร์มบนเวที บางคู่จะได้เปรียบเรื่องพละกำลัง ขณะที่บางคู่เน้นความเร็วและความคล่องตัว แต่สิ่งที่เหมือนกันคือทุกคู่ต่างมีความสูสีและน่าติดตาม สำหรับแฟนมวยแล้วนี่คือเวทีที่ไม่ควรพลาด เพราะทุกการต่อสู้เต็มไปด้วยความดุเดือดและศักดิ์ศรี