มวยวันนี้ ศึกดาวรุ่ง น.สงวนพงศ์ 19/09/68 ที่จัดขึ้นในวันศุกร์นี้ตั้งแต่เวลา 16.00 น. รายการนี้ถือว่าเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้ดาวรุ่งฝีมือดีได้แสดงศักยภาพ พร้อมทั้งมีนักชกรุ่นเล็กและรุ่นใหญ่ผสมผสานกันอย่างลงตัว โดยผลการชั่งน้ำหนักได้เสร็จสิ้นลงอย่างสมบูรณ์ ทุกคู่พร้อมเต็มร้อยที่จะขึ้นเวทีวัดฝีมือ ท่ามกลางสายตาแฟนมวยที่รอชมความดุเดือด

มวยวันนี้ ศึกดาวรุ่ง น.สงวนพงศ์ 19/09/68

มวยวันนี้ ศึกดาวรุ่ง น.สงวนพงศ์ 19/09/68

โปรแกรมการแข่งขันศึกดาวรุ่ง น.สงวนพงศ์
วันศุกร์ที่ 19 กันยายน 2568
ณ เวิร์ลสยามสเตเดี้ยม ตะวันนา บางกะปิ มวยเริ่มชกตั้งแต่เวลา 16.00 น.
อัพเดตข่าวสาร ตารางมวย พร้อมลิ้งก์ดูมวยสด ที่นี

คู่ที่ ฝ่ายแดง พิกัด ชั่งได้ ฝ่ายน้ำเงิน พิกัด ชั่งได้
1 ศรนารายณ์ ธนูเพชรมวยไทย 24.0 กก. ลด 0.4 ปังปอนด์ PSR.มวยไทย 24.0 กก. ตามพิกัด
2 จอร์จ สิงห์มาวิน 37.5 กก. ขาด 0.4 หยก หยกขาวมวยไทย 37.5 กก. ขาด 0.3
3 เสือกีต้าร์ มวยหูทวีศักดิ์เล็ก 25.5 กก. ลด 0.3 หนุ่มชัยวัฒน์ ร.ร.กีฬากรุงเทพ 25.5 กก. ลด 0.5
4 มังกรดอย พยัคฆ์ภูหลวง 38.0 กก. ตามพิกัด สิงห์พิชิต สก.เอกกวิน 38.0 กก. ตามพิกัด
5 เพชรทอง ส.จารุวรรณ 39.5 กก. ลด 1.3 ชูชนะ ระนองมวยไทย 39.5 กก. ขาด 0.3
6 สิงห์มุกดา อ.อู๊ดอุดร 111.0 ปอนด์ ตามพิกัด กิ่งไผ่ สวนไผ่นายยิ้ม 111.0 ปอนด์ ขาด 0.6
7 ภูสมิง พยัคฆ์ภูหลวง 40.5 กก. ลด 0.2 แคนย่อน ระนองมวยไทย 40.5 กก. ขาด 0.2
8 ไก่ชน สจ.โหน่งชลบุรี 32.0 กก. ขาด 0.1 เพชรเงิน ส.จารุวรรณ 32.0 กก. ตามพิกัด
9 เพชรยะลา ต.บัวมาศ 47.0 กก. ขาด 0.2 คฑาเงิน ชลบุรีไฟต์ยิม 47.0 กก. ตามพิกัด
10 มงคลเพชร บางแสนไฟท์คลับ 38.0 กก. ลด 0.9 ประกายกาญจน์ รร.บ้านกุดแหย่ 38.0 กก. ลด 1.0
11 สายลม สวนอาหารปีกไม้ 117.0 ปอนด์ ลด 1.0 พยัคฆ์ขาว มวยหูทวีศักดิ์เล็ก 117.0 ปอนด์ ลด 0.6

 

คู่เปิดหัว: ศรนารายณ์ ธนูเพชรมวยไทย vs ปังปอนด์ PSR.มวยไทย

ในพิกัด 24.0 กิโลกรัม คู่แรกเริ่มด้วย ศรนารายณ์ ธนูเพชรมวยไทย ฝ่ายแดง ที่ต้องลดไป 0.4 กิโลกรัม แสดงถึงการคุมร่างกายที่เข้มงวดและยังคงความฟิต ขณะที่ ปังปอนด์ PSR.มวยไทย ฝ่ายน้ำเงิน ชั่งได้ตามพิกัดพอดี ร่างกายสมบูรณ์แบบ การเจอกันครั้งนี้ถือว่าน่าสนใจ เพราะศรนารายณ์ขึ้นชื่อเรื่องการออกแข้งที่แม่นยำและความรวดเร็ว ส่วนปังปอนด์มีสไตล์ตั้งรับเหนียวแน่นและจังหวะสวนกลับเฉียบคม ทำให้ไฟต์เปิดหัวมีโอกาสลุกเป็นไฟตั้งแต่ต้นเกม


คู่ที่ 2: จอร์จ สิงห์มาวิน vs หยก หยกขาวมวยไทย

พิกัด 37.5 กิโลกรัม จอร์จ สิงห์มาวิน ฝ่ายแดง ชั่งได้ขาด 0.4 กิโลกรัม ขณะที่ หยก หยกขาวมวยไทย ฝ่ายน้ำเงิน ขาดไป 0.3 กิโลกรัม ถือว่าใกล้เคียงกันทั้งคู่ จุดเด่นของไฟต์นี้คือเป็นการเจอกันของนักมวยรุ่นเยาว์ที่ต่างก็มีความเร็วและความสดเป็นอาวุธหลัก จอร์จเป็นมวยสายบู๊ ชอบเดินเข้าหาและออกอาวุธต่อเนื่อง ส่วนหยกเป็นมวยชั้นเชิง เน้นความแม่นยำและเล่นเกมรัดกุม การพบกันครั้งนี้จึงอาจเป็นการวัดกันว่าใครจะคุมจังหวะได้เหนือกว่ากัน


คู่ที่ 3: เสือกีต้าร์ มวยหูทวีศักดิ์เล็ก vs หนุ่มชัยวัฒน์ ร.ร.กีฬากรุงเทพ

พิกัด 25.5 กิโลกรัม เสือกีต้าร์ มวยหูทวีศักดิ์เล็ก ฝ่ายแดง ลดไป 0.3 กิโลกรัม ส่วน หนุ่มชัยวัฒน์ ร.ร.กีฬากรุงเทพ ฝ่ายน้ำเงิน ต้องลดมากกว่าเล็กน้อยที่ 0.5 กิโลกรัม ถือว่าเป็นการเจอกันของสองดาวรุ่งที่มีไฟแรงเต็มที่ จุดแข็งของเสือกีต้าร์คือความดุดันและการออกหมัดที่หนัก ส่วนหนุ่มชัยวัฒน์มีจุดเด่นที่การป้องกันและการใช้หมัดสวนกลับได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไฟต์นี้คาดว่าจะเป็นการแลกกันแบบหมัดต่อหมัดที่แฟนมวยต้องลุ้นกันทุกวินาที


คู่ที่ 4: มังกรดอย พยัคฆ์ภูหลวง vs สิงห์พิชิต สก.เอกกวิน

พิกัด 38.0 กิโลกรัม ทั้งสองฝ่ายชั่งได้ตามพิกัดพอดี มังกรดอย พยัคฆ์ภูหลวง ฝ่ายแดง และ สิงห์พิชิต สก.เอกกวิน ฝ่ายน้ำเงิน ต่างก็มีความพร้อมเต็มร้อย จุดเด่นของไฟต์นี้คือการเจอกันของสองนักชกที่มีสไตล์การออกอาวุธครบเครื่อง ทั้งแข้ง หมัด เข่า ศอก ต่างฝ่ายต่างไม่มีข้อได้เปรียบเรื่องน้ำหนัก การปะทะกันจึงน่าจะออกมาอย่างสูสีและดุเดือดตลอดทั้งยก


คู่ที่ 5: เพชรทอง ส.จารุวรรณ vs ชูชนะ ระนองมวยไทย

พิกัด 39.5 กิโลกรัม เพชรทอง ส.จารุวรรณ ฝ่ายแดง ต้องลดน้ำหนักถึง 1.3 กิโลกรัม ซึ่งอาจกระทบต่อสภาพร่างกายในช่วงท้าย ส่วน ชูชนะ ระนองมวยไทย ฝ่ายน้ำเงิน ชั่งได้ขาดเพียง 0.3 กิโลกรัม ทำให้ได้ความสดเป็นจุดแข็ง การเจอกันครั้งนี้ถือว่าน่าสนใจ เพราะเพชรทองมีสไตล์การชกที่หนักแน่น เน้นการออกแข้งและหมัดดุดัน ขณะที่ชูชนะเน้นการเคลื่อนไหวคล่องแคล่วและจังหวะสวน การวัดกันครั้งนี้จึงอาจตัดสินด้วยความอึดและแรงปลาย


คู่ที่ 6: สิงห์มุกดา อ.อู๊ดอุดร vs กิ่งไผ่ สวนไผ่นายยิ้ม

พิกัด 111 ปอนด์ สิงห์มุกดา อ.อู๊ดอุดร ฝ่ายแดง ชั่งได้ตามพิกัด ขณะที่ กิ่งไผ่ สวนไผ่นายยิ้ม ฝ่ายน้ำเงิน ขาดไป 0.6 ปอนด์ จุดเด่นคือสิงห์มุกดาเป็นมวยที่มีลูกบู๊ครบเครื่อง ออกอาวุธต่อเนื่องและมีความอึดสูง ส่วนกิ่งไผ่แม้จะขาดน้ำหนัก แต่มีความเร็วและการเคลื่อนไหวที่ดี การเจอกันครั้งนี้จึงอาจเป็นไฟต์ที่แฟนมวยได้เห็นการดวลแบบเดินหน้าแลกทุกลูก


คู่ที่ 7: ภูสมิง พยัคฆ์ภูหลวง vs แคนย่อน ระนองมวยไทย

พิกัด 40.5 กิโลกรัม ภูสมิง พยัคฆ์ภูหลวง ฝ่ายแดง ลดไป 0.2 กิโลกรัม ส่วน แคนย่อน ระนองมวยไทย ฝ่ายน้ำเงิน ขาดไป 0.2 กิโลกรัม ถือว่าใกล้เคียงกันมาก จุดที่น่าสนใจคือภูสมิงมีจุดเด่นที่แข้งหนักและจังหวะการออกอาวุธที่รุนแรง ขณะที่แคนย่อนเป็นมวยฝีมือ อ่านเกมขาดและสวนกลับแม่นยำ ไฟต์นี้ถือว่าเป็นการวัดกันที่ความเฉียบคมและการควบคุมจังหวะเป็นหลัก


คู่ที่ 8: ไก่ชน สจ.โหน่งชลบุรี vs เพชรเงิน ส.จารุวรรณ

ในพิกัด 32.0 กิโลกรัม ไก่ชน สจ.โหน่งชลบุรี ฝ่ายแดง ขาดไป 0.1 กิโลกรัม ขณะที่ เพชรเงิน ส.จารุวรรณ ฝ่ายน้ำเงิน ชั่งได้ตามพิกัด จุดเด่นคือไก่ชนมีสไตล์การชกที่รวดเร็วและกล้าแลก ส่วนเพชรเงินมีการป้องกันและการออกแข้งที่แม่นยำ การเจอกันครั้งนี้อาจตัดสินกันที่ความนิ่งและการออกอาวุธอย่างมีประสิทธิภาพ


คู่ที่ 9: เพชรยะลา ต.บัวมาศ vs คฑาเงิน ชลบุรีไฟต์ยิม

พิกัด 47.0 กิโลกรัม เพชรยะลา ต.บัวมาศ ฝ่ายแดง ขาดไป 0.2 กิโลกรัม ส่วน คฑาเงิน ชลบุรีไฟต์ยิม ฝ่ายน้ำเงิน ชั่งได้ตามพิกัด ความพร้อมของทั้งสองถือว่าสูสีกัน จุดเด่นของไฟต์นี้คือเพชรยะลาเป็นมวยบู๊ เน้นการบุกเข้าหา ขณะที่คฑาเงินมีฝีมือแพรวพราว เน้นการใช้เหลี่ยมและจังหวะสวนกลับ การปะทะครั้งนี้จึงเป็นการวัดกันระหว่างพลังกับฝีมือที่แฟนมวยห้ามพลาด


คู่ที่ 10: มงคลเพชร บางแสนไฟท์คลับ vs ประกายกาญจน์ รร.บ้านกุดแหย่

ในพิกัด 38.0 กิโลกรัม มงคลเพชร บางแสนไฟท์คลับ ฝ่ายแดง ลดไป 0.9 กิโลกรัม ส่วน ประกายกาญจน์ รร.บ้านกุดแหย่ ฝ่ายน้ำเงิน ลดมากกว่าที่ 1.0 กิโลกรัม จุดน่าสนใจคือทั้งคู่ต้องลดน้ำหนักใกล้เคียงกัน ทำให้ความฟิตอาจถูกทดสอบหนัก มงคลเพชรมีสไตล์บู๊เดินหน้า ส่วนประกายกาญจน์เป็นมวยที่เน้นลูกเตะและการป้องกันเหนียวแน่น ไฟต์นี้อาจกลายเป็นการแลกที่แฟนมวยต้องลุ้นจนยกสุดท้าย


คู่ที่ 11: สายลม สวนอาหารปีกไม้ vs พยัคฆ์ขาว มวยหูทวีศักดิ์เล็ก

ปิดท้ายในพิกัด 117 ปอนด์ สายลม สวนอาหารปีกไม้ ฝ่ายแดง ลดไป 1.0 ปอนด์ ขณะที่ พยัคฆ์ขาว มวยหูทวีศักดิ์เล็ก ฝ่ายน้ำเงิน ลดไป 0.6 ปอนด์ ทั้งคู่ต่างมีความฟิตเต็มที่ จุดเด่นคือสายลมมีลูกหมัดที่อันตรายและลูกบู๊ดุดัน ส่วนพยัคฆ์ขาวมีสไตล์การชกครบเครื่อง ทั้งหมัดและแข้งที่แม่นยำ ถือว่าเป็นการปิดท้ายที่แฟนมวยจะได้ชมความมันส์อย่างแน่นอน


บทสรุป ศึกดาวรุ่ง น.สงวนพงศ์ มวยวันนี้ 19/09/68

จากผลการชั่งน้ำหนัก นักมวยทุกคู่ผ่านเกณฑ์และพร้อมขึ้นสังเวียน ศึกดาวรุ่ง น.สงวนพงศ์ มวยวันนี้ 19/09/68 จึงเป็นอีกหนึ่งรายการที่แฟนมวยไม่ควรพลาด แต่ละคู่มีความสูสีและจุดเด่นแตกต่างกัน ตั้งแต่คู่เล็กไปจนถึงคู่ใหญ่ ทั้งหมดสะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจและความมุ่งมั่นของนักมวยดาวรุ่งที่พร้อมสร้างชื่อเสียงและก้าวสู่เวทีใหญ่ต่อไป