มวยวันนี้ ศึกมวยดีวิถีไทย 05/10/68 จะจัดขึ้น ณ เวทีมวยกองทัพอากาศ (ธูปะเตมีย์) ซึ่งเป็นสนามที่คุ้นเคยสำหรับแฟนมวยบ้านเรา โดยจะเริ่มชกตั้งแต่เวลา 12.15 น. เป็นต้นไป รายการในวันนี้มีทั้งหมด 6 คู่ แม้จำนวนคู่จะไม่มากเมื่อเทียบกับบางศึกใหญ่ แต่คุณภาพของคู่มวยและความสมดุลของพิกัดน้ำหนัก ทำให้แต่ละไฟต์มีลุ้นและเข้มข้นไม่แพ้กัน

มวยวันนี้ ศึกมวยดีวิถีไทย 05/10/68

มวยวันนี้ ศึกมวยดีวิถีไทย 05/10/68

🕕 เริ่มชกตั้งแต่เวลา 12.15 น. เป็นต้นไป
📌 รวมทั้งหมด 6 คู่มวย ตั้งแต่มวยเยาวชนยันมวยพิกัดใหญ่

อัพเดตข่าวสาร ตารางมวย พร้อมลิ้งก์ดูมวยสด ที่นี่

คู่ที่ นักมุมแดง นักมุมน้ำเงิน พิกัด (ปอนด์) น้ำหนักชั่งได้แดง น้ำหนักชั่งได้น้ำเงิน
1 งาทอง เพชรบ้านบึง คมเกียรติ ส.วิชิตชัย 100 100 100
2 เพชรพยัคฆ์ พุฒิประชาชื่น เพชรดำ สิงห์ศาลายา 114 112 (–2.0) 113 (–1.0)
3 แบงค์ไทย ศิษย์สั่งปราบ เพชรสีคิ้ว ก.กัมปนาท 139 138.3 (–0.7) 139
4 พงษ์ศิริ สจ.วิชิตแปดริ้ว กานต์ชัย จิตรเมืองนนท์ 100 100 100
5 พยัคฆ์ พยัคฆ์ลำพอง ฟ้าเพชร เพชรบ้านบึง 100 100 100
6 เพชรพยัคฆ์ขาว สจ.วิชิตแปดริ้ว เพชรบ้านไร่ ส.เฮงเจริญ 100 100 100

หมายเหตุ: ค่าที่ใส่ “–2.0”, “–1.0” คือ “ลดน้ำหนัก” จากพิกัด

นักมวยในแต่ละคู่ต่างผ่านการฟิตซ้อมและควบคุมน้ำหนักอย่างเข้มข้น หลายคนชั่งได้ตรงตามพิกัด หรือขาดเพียงเล็กน้อย แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจและความพร้อม ทุกคู่จึงมีจังหวะพลิกและโอกาสสำหรับนักชกที่มีแผนการชกดี นี่คือศึกที่แฟนมวยไม่ควรพลาด เพราะการคาดเดาผลชกแทบไม่มี “ตัวเต็งแน่นอน” ทุกไฟต์สามารถพลิกได้


วิเคราะห์คู่มวยทีละคู่

คู่ที่ 1 – งาทอง vs คมเกียรติ

นักมุมแดง พิกัด น้ำหนักชั่งได้ นักมุมน้ำเงิน น้ำหนักชั่งได้
งาทอง เพชรบ้านบึง 100 ตามพิกัด คมเกียรติ ส.วิชิตชัย ตามพิกัด

งาทองและคมเกียรติต่างชั่งน้ำหนักได้ตรงตามพิกัดเป๊ะ ทั้งคู่จึงมีความพร้อมด้านร่างกายไม่ต่างกัน จุดที่น่าจับตาคือสไตล์การชก: งาทองอาจเป็นฝ่ายตั้งเกมบุก หากเขาใช้ความเร็วประกอบการออกแข้งได้ดี ขณะที่คมเกียรติอาจเลือกเดินเชิงตั้งรับ รอสวนจังหวะ หากเคลื่อนที่และคุมระยะได้ดี มีโอกาสสวนคืนได้


คู่ที่ 2 – เพชรพยัคฆ์ vs เพชรดำ

นักมุมแดง พิกัด น้ำหนักชั่งได้ นักมุมน้ำเงิน น้ำหนักชั่งได้
เพชรพยัคฆ์ พุฒิประชาชื่น 114 112 (–2.0) เพชรดำ สิงห์ศาลายา 113 (–1.0)

เพชรพยัคฆ์ลดถึง 2 ปอนด์ ขณะที่เพชรดำลดเพียง 1 ปอนด์ จึงดูเหมือนเพชรดำมีความสมดุลร่างกายที่ดีกว่า แต่เพชรพยัคฆ์อาจได้เปรียบในความรวดเร็ว หากเขาไม่หมดแรงก่อนยกชิงชัย เกมนี้น่าจะออกมาเป็นไฟต์กลางระยะ มีการแลกหมัดแลกแข้งกันหลายจังหวะ


คู่ที่ 3 – แบงค์ไทย vs เพชรสีคิ้ว

นักมุมแดง พิกัด น้ำหนักชั่งได้ นักมุมน้ำเงิน น้ำหนักชั่งได้
แบงค์ไทย ศิษย์สั่งปราบ 139 138.3 (–0.7) เพชรสีคิ้ว ก.กัมปนาท 139

แบงค์ไทยลดน้ำหนักมาเล็กน้อย แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย ขณะที่เพชรสีคิ้วชั่งได้ตรงพิกัด เกมนี้อาจเป็นการปะทะที่ใช้พละกำลังและหมัดหนักเป็นตัวตัดสิน หากแบงค์ไทยใช้จังหวะเลี้ยงเกมได้ดี เขาอาจพลาดพลิกเอาชนะได้


คู่ที่ 4 – พงษ์ศิริ vs กานต์ชัย

นักมุมแดง พิกัด น้ำหนักชั่งได้ นักมุมน้ำเงิน น้ำหนักชั่งได้
พงษ์ศิริ สจ.วิชิตแปดริ้ว 100 100 กานต์ชัย จิตรเมืองนนท์ 100

คู่เล็กที่ทั้งคู่ชั่งได้ตรงพิกัดเต็ม เกมนี้อาจเป็นเกมที่เน้นเทคนิคมากกว่าแรงบู๊ เนื่องจากไม่มีฝ่ายใดเสียเปรียบในเรื่องร่างกาย จุดสำคัญคือการเดินเชิงและจังหวะการเข้าทำ ฝ่ายที่มีความแม่นยำในการออกหมัด-แข้งได้ดีกว่าจะได้เปรียบ


คู่ที่ 5 – พยัคฆ์ลำพอง vs ฟ้าเพชร

นักมุมแดง พิกัด น้ำหนักชั่งได้ นักมุมน้ำเงิน น้ำหนักชั่งได้
พยัคฆ์ พยัคฆ์ลำพอง 100 100 ฟ้าเพชร เพชรบ้านบึง 100

ทั้งสองชั่งได้ตามพิกัด แบบไม่มีการลดน้ำหนัก การชกของทั้งคู่น่าจะเป็นเกมกลางระยะและสลับออกอาวุธบ่อยครั้ง ใครมีสภาพร่างกายและความแม่นยำดีกว่าจะได้เปรียบ


คู่ที่ 6 – เพชรพยัคฆ์ขาว vs เพชรบ้านไร่

นักมุมแดง พิกัด น้ำหนักชั่งได้ นักมุมน้ำเงิน น้ำหนักชั่งได้
เพชรพยัคฆ์ขาว สจ.วิชิตแปดริ้ว 100 100 เพชรบ้านไร่ ส.เฮงเจริญ 100

เป็นอีกคู่ที่ไม่มีฝ่ายใดลดน้ำหนักแสดงถึงความพร้อมที่ใกล้เคียงกัน เกมนี้น่าจะเป็นการประลองเชิงและใช้จังหวะมากกว่าการบุกหนัก เป้าหมายคือใครออกอาวุธได้แม่นยำในจังหวะสำคัญ


ไฮไลต์และจุดที่น่าจับตา

  • คู่ที่ 2 (เพชรพยัคฆ์ vs เพชรดำ) เป็นคู่ที่มีการลดน้ำหนักต่างกันมาก จุดพลิกอาจอยู่ที่แรงปลายในยกชิงชัย

  • คู่ที่ 3 (แบงค์ไทย vs เพชรสีคิ้ว) ถือเป็นไฟต์ใหญ่ในพิกัด 139 ปอนด์ที่อันตรายทั้งสองฝั่ง

  • คู่ที่ 4 และคู่ที่ 6 นั้นมีความสมดุลร่างกายสูง จึงเป็นคู่ที่แฟนมวยนิยมลุ้นคะแนน

  • เกมกลางรายการอาจเป็นเวทีโชว์เทคนิคและการวางจังหวะ


บทสรุป

ศึกมวยดีวิถีไทย มวยวันนี้ 5 ตุลาคม 2568 คือเวทีคุณภาพที่แม้จะจัดเพียง 6 คู่ แต่เต็มไปด้วยการชกที่สมดุลและน่าติดตาม ข้อได้เปรียบไม่ได้อยู่เพียงที่พละกำลัง แต่รวมถึงเทคนิค, ความแม่นยำ, จังหวะ และสภาพร่างกายหลังการชั่งน้ำหนัก ทุกคู่ต่างมีโอกาสพลิก หากแฟนมวยไม่อยากพลาด ไฮไลต์และผลชกหลังการแข่งขันผมแนะนำให้ติดตามสดตั้งแต่ต้นจนจบครับ