มวยวันนี้ ศึกมวยไทยพันธมิตร 15/09/68 กลับมาอีกครั้ง พร้อมคู่มวยทั้งหมด 9 คู่ที่ผ่านการชั่งน้ำหนักเรียบร้อยแล้ว การชั่งน้ำหนักถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการตัดสินผลแพ้ชนะ เพราะเป็นตัวบ่งบอกถึงความฟิต ความพร้อม และการจัดการร่างกายก่อนขึ้นเวที วันนี้เราจะมาวิเคราะห์คู่มวยทุกคู่แบบละเอียด เพื่อช่วยให้แฟนมวยได้เห็นภาพรวมก่อนการต่อสู้จริง
มวยวันนี้ ศึกมวยไทยพันธมิตร 15/09/68
โปรแกรมการแข่งขันศึกมวยไทยพันธมิตร
วันจันทร์ที่ 15 กันยายน 2568
ณ เวทีมวยเวิล์ด สยาม สเตเดี้ยม เริ่มชกตั้งแต่เวลา 20.30 น.
อัพเดตข่าวสาร ตารางมวย พร้อมลิ้งก์ดูมวยสด ที่นี่
คู่ที่ | ฝ่ายแดง | พิกัด | ชั่งได้ | ฝ่ายน้ำเงิน | พิกัด | ชั่งได้ |
---|---|---|---|---|---|---|
1 | จ้าวเสือใหญ่ ช.ชนะการโยธา | 116.0 ปอนด์ | ลด 0.4 ปอนด์ | จักรกริช ส.ศักดิ์อุบล | 116.0 ปอนด์ | ลด 0.4 ปอนด์ |
2 | จ้าววายุ ช.เกตุวีณา | 114.0 ปอนด์ | ลด 0.8 ปอนด์ | แสงพระจันทร์ พระจันทร์ฉายนภัคมวยไทยยิม | 114.0 ปอนด์ | ตามพิกัด |
3 | กรุงไทย ทีเด็ด 99 | 120.0 ปอนด์ | ลด 3.6 ปอนด์ | ดาวิด อาหมิงมวยไทย | 120.0 ปอนด์ | ลด 0.4 ปอนด์ |
4 | โชคดี แม็กจันดี | 115.0 ปอนด์ | ลด 0.8 ปอนด์ | ฤทธิ์เสธตู่ แก้วสัมฤทธิ์ | 115.0 ปอนด์ | ลด 0.2 ปอนด์ |
5 | อัสรี่ พานทองยิม | 120.0 ปอนด์ | ลด 1.0 ปอนด์ | เพชรนาคา พันซ์อิทยิม | 120.0 ปอนด์ | ขาด 0.4 ปอนด์ |
6 | ไฟมังกร ช.ห้าพยัคฆ์ | 37.0 กก. | ขาด 0.3 กก. | เสือพยัคฆ์ ช.ชนะชัย | 37.0 กก. | ขาด 0.1 กก. |
7 | พลอยเงิน ธ.เมืองเสมา | 100.0 ปอนด์ | ขาด 0.2 ปอนด์ | ยอดคลาสสิค ไรซิ่งมวยไทย | 100.0 ปอนด์ | ขาด 0.4 ปอนด์ |
8 | เดชพยัคฆ์ ช.ห้าพยัคฆ์ | 37.0 กก. | ลด 0.1 กก. | เดอะเล็ก รีโวลูชั่นมวยไทยภูเก็ต | 37.0 กก. | ลด 0.3 กก. |
9 | เพชรต่วนเป๋ ช.ห้าพยัคฆ์ | 109.0 ปอนด์ | ลด 1.0 ปอนด์ | หยกเพชร ฉ.อจลบุญ | 110.0 ปอนด์ | ตามพิกัด |
คู่ที่ 1: จ้าวเสือใหญ่ ช.ชนะการโยธา vs จักรกริช ส.ศักดิ์อุบล
คู่เปิดหัวเริ่มต้นด้วยความสมดุล เพราะทั้งจ้าวเสือใหญ่และจักรกริชต่างชั่งได้ลดเท่ากัน 0.4 ปอนด์จากพิกัด 116.0 ปอนด์ ทำให้ไม่มีฝ่ายไหนเสียเปรียบมากไปกว่ากัน
ความท้าทายของทั้งคู่คือการฟื้นตัวจากการลดน้ำหนัก แม้จะไม่มากนัก แต่การลดเท่ากันทำให้เป็นเกมที่ขึ้นอยู่กับเชิงมวยและการออกอาวุธมากกว่าแรงกดดันด้านร่างกาย เกมนี้จึงน่าจะเป็นการแลกหมัดที่สนุกและใกล้เคียงกันทุกยก
คู่ที่ 2: จ้าววายุ ช.เกตุวีณา vs แสงพระจันทร์ พระจันทร์ฉายนภัคมวยไทยยิม
จ้าววายุ ฝ่ายแดง ต้องลด 0.8 ปอนด์จากพิกัด 114.0 ปอนด์ ขณะที่แสงพระจันทร์ ฝ่ายน้ำเงิน ชั่งได้ตามพิกัดพอดี ถือว่าฝ่ายน้ำเงินมีความพร้อมด้านร่างกายมากกว่าเล็กน้อย
การที่แสงพระจันทร์ไม่ต้องลดน้ำหนัก ช่วยให้มีพละกำลังเต็มร้อยในการขึ้นชก ส่วนจ้าววายุแม้จะเสียเปรียบเล็กน้อยจากการลด แต่หากฟื้นตัวได้ดี ความเร็วและจังหวะก็ยังเป็นอาวุธที่ทำให้สูสีได้ คู่นี้จึงขึ้นอยู่กับว่าใครจะสามารถใช้จุดแข็งของตัวเองได้คมชัดกว่ากัน
คู่ที่ 3: กรุงไทย ทีเด็ด 99 vs ดาวิด อาหมิงมวยไทย
กรุงไทย ฝ่ายแดง ต้องลดมากถึง 3.6 ปอนด์จากพิกัด 120.0 ปอนด์ ถือว่าหนักพอสมควร ขณะที่ดาวิด ฝ่ายน้ำเงิน ลดเพียง 0.4 ปอนด์เท่านั้น
ความแตกต่างนี้สะท้อนให้เห็นว่าฝ่ายแดงอาจเผชิญความเหนื่อยล้าหรือเสียแรงปลายจากการลดน้ำหนักมากเกินไป ในทางกลับกัน ฝ่ายน้ำเงินยังคงรักษาพลังไว้ได้มากกว่า หากกรุงไทยไม่สามารถฟื้นตัวได้เต็มร้อย ดาวิดอาจได้เปรียบอย่างชัดเจนในช่วงท้ายเกม
คู่ที่ 4: โชคดี แม็กจันดี vs ฤทธิ์เสธตู่ แก้วสัมฤทธิ์
โชคดี ฝ่ายแดง ลด 0.8 ปอนด์ ส่วนฤทธิ์เสธตู่ ฝ่ายน้ำเงิน ลด 0.2 ปอนด์จากพิกัด 115.0 ปอนด์ แม้จะต่างกันเล็กน้อย แต่แสดงให้เห็นถึงความพร้อมที่ต่างกัน
ฝ่ายน้ำเงินลดน้อยกว่า ทำให้ร่างกายฟื้นตัวได้ง่ายกว่า แต่โชคดีเองก็เป็นนักมวยที่มีประสบการณ์สูง และแม้จะลดมากกว่า แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ที่จัดการได้ เกมนี้จึงอาจเป็นการต่อสู้ที่เน้นความเร็วและจังหวะการเข้าทำ ใครพลาดเพียงเล็กน้อยก็อาจเสียคะแนนสำคัญได้
คู่ที่ 5: อัสรี่ พานทองยิม vs เพชรนาคา พันซ์อิทยิม
อัสรี่ ฝ่ายแดง ลด 1.0 ปอนด์จากพิกัด 120.0 ปอนด์ ขณะที่เพชรนาคา ฝ่ายน้ำเงิน ชั่งได้ขาด 0.4 ปอนด์ ความต่างนี้สะท้อนให้เห็นถึงสไตล์ที่แตกต่างกัน
ฝ่ายแดงอาจมีข้อได้เปรียบเรื่องพลังและแรงปะทะ ส่วนฝ่ายน้ำเงินที่ชั่งขาดจะมีความคล่องตัวมากกว่า การแข่งขันคู่นี้จึงน่าจะเป็นการปะทะกันของความหนักหน่วงและความเร็ว ซึ่งเป็นจุดที่แฟนมวยห้ามกระพริบตา
คู่ที่ 6: ไฟมังกร ช.ห้าพยัคฆ์ vs เสือพยัคฆ์ ช.ชนะชัย
ไฟมังกร ฝ่ายแดง ชั่งได้ขาด 0.3 กก. จากพิกัด 37.0 กก. ส่วนเสือพยัคฆ์ ฝ่ายน้ำเงิน ขาดเพียง 0.1 กก. ทั้งคู่ต่างชั่งขาดเหมือนกัน ทำให้ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบมากนัก
สิ่งที่น่าสนใจคือทั้งสองเป็นนักชกสายบู๊ เกมการชกจึงอาจดุเดือดตั้งแต่ต้นยก ความต่างเล็กน้อยของน้ำหนักแทบไม่ส่งผลกับรูปเกมมากนัก แต่จะเป็นการวัดกันที่ความเร็วและความแม่นยำแทน
คู่ที่ 7: พลอยเงิน ธ.เมืองเสมา vs ยอดคลาสสิค ไรซิ่งมวยไทย
พลอยเงิน ฝ่ายแดง ชั่งได้ขาด 0.2 ปอนด์ ขณะที่ยอดคลาสสิค ฝ่ายน้ำเงิน ชั่งขาด 0.4 ปอนด์ ความต่างเพียงเล็กน้อยนี้ทำให้ทั้งคู่แทบจะอยู่ในจุดที่สมดุลกัน
แม้จะขาดน้ำหนักทั้งสองฝ่าย แต่ก็ไม่ได้มากพอที่จะส่งผลชัดเจน การแข่งขันจึงขึ้นอยู่กับเชิงมวยและการออกอาวุธมากกว่า ถือเป็นคู่ที่น่าจะใกล้เคียงกันและอาจลากยาวไปถึงการวัดคะแนน
คู่ที่ 8: เดชพยัคฆ์ ช.ห้าพยัคฆ์ vs เดอะเล็ก รีโวลูชั่นมวยไทยภูเก็ต
เดชพยัคฆ์ ฝ่ายแดง ลด 0.1 กก. ส่วนเดอะเล็ก ฝ่ายน้ำเงิน ลด 0.3 กก. จากพิกัด 37.0 กก. การลดของทั้งคู่ไม่ได้มาก แต่ก็สะท้อนถึงความพยายามในการคุมร่างกายให้อยู่ในมาตรฐาน
คู่มวยนี้น่าจะเป็นเกมที่เน้นความเร็วและการเข้าทำที่เฉียบคม ใครที่สามารถออกอาวุธได้แม่นยำและรักษาจังหวะได้ตลอด จะมีโอกาสคว้าความได้เปรียบในแต่ละยก
คู่ที่ 9: เพชรต่วนเป๋ ช.ห้าพยัคฆ์ vs หยกเพชร ฉ.อจลบุญ
เพชรต่วนเป๋ ฝ่ายแดง ลด 1.0 ปอนด์จากพิกัด 109.0 ปอนด์ ขณะที่หยกเพชร ฝ่ายน้ำเงิน ชั่งได้ตามพิกัด 110.0 ปอนด์ ถือว่าฝ่ายน้ำเงินได้เปรียบเล็กน้อยในด้านความฟิต
อย่างไรก็ตาม เพชรต่วนเป๋เองก็เป็นนักชกที่ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแกร่ง หากการลดน้ำหนักไม่ได้ส่งผลมากเกินไป ก็ยังสามารถรักษาความดุดันไว้ได้เต็มที่ เกมนี้จึงน่าจะเป็นการแลกอาวุธอย่างเข้มข้นตั้งแต่ต้นจนจบ
บทสรุป: ศึกมวยไทยพันธมิตร
การชั่งน้ำหนักใน ศึกมวยไทยพันธมิตร สะท้อนถึงความพร้อมและความตั้งใจของนักมวยทุกคู่ หลายคู่มีความสมดุลและสูสีกันมาก ขณะที่บางคู่ฝ่ายหนึ่งอาจได้เปรียบจากการคุมพิกัดได้ดีกว่า
-
คู่ที่ 1–2 สมดุล แต่ฝ่ายน้ำเงินในคู่ที่ 2 ดูพร้อมกว่า
-
คู่ที่ 3–5 ฝ่ายแดงต้องลดมาก จึงอาจเสียเปรียบเรื่องแรงปลาย
-
คู่ที่ 6–8 ความต่างไม่มาก เกมจึงเน้นไปที่เชิงมวยและความเร็ว
-
คู่ที่ 9 ฝ่ายน้ำเงินได้เปรียบเรื่องความฟิต แต่ก็ยังไม่ทิ้งห่าง
ศึกครั้งนี้ถือว่าน่าสนใจทุกคู่และแฟนมวยไม่ควรพลาด เพราะทุกการต่อสู้เต็มไปด้วยความดุเดือดและการวัดฝีมืออย่างแท้จริง