มวยวันนี้ ศึกมวยไทย 7 สี 28/09/68 เตรียมระเบิดความมันให้แฟนหมัดมวยทั่วประเทศได้ลุ้นกันอีกครั้ง ณ เวทีมวยช่อง 7 สี ที่ถือเป็นเวทีประจำวันอาทิตย์ในตำนาน เริ่มถ่ายทอดสดตั้งแต่เวลา 14.30 น. โดยรายการนี้จัดเต็มถึง 6 คู่ เรียกได้ว่าทั้งมวยเชิง มวยบู๊ และมวยประสบการณ์จะมาประชันฝีมือกันอย่างครบถ้วน เหมาะสำหรับทั้งแฟนพันธุ์แท้และผู้ชมทั่วไปที่อยากเห็นความดุเดือดบนสังเวียน

มวยวันนี้ ศึกมวยไทย 7 สี 28/09/68

มวยวันนี้ ศึกมวยไทย 7 สี 28/09/68

🕕 เริ่มชกตั้งแต่เวลา 14.30 น. เป็นต้นไป
📌 รวมทั้งหมด 6 คู่มวย ตั้งแต่มวยเยาวชนยันมวยพิกัดใหญ่

อัพเดตข่าวสาร ตารางมวย พร้อมลิ้งก์ดูมวยสด ที่นี่

คู่ที่ ฝ่ายแดง พิกัด ชั่งได้ ฝ่ายน้ำเงิน พิกัด ชั่งได้
1 ทีม ผ้าเบรกคอมแพ็ค 102.0 ปอนด์ ตามพิกัด มรกตดำ ส.เปรมบุตร 102.0 ปอนด์ ขาด 0.4 ปอนด์
2 กัปตัน วันของโอม.WKO 113.0 ปอนด์ ตามพิกัด เพชรนิพล ป.มงคลอินทร์ 113.0 ปอนด์ ลด 0.2 ปอนด์
3 เด่น ศิษย์นายกทวีปตะพง 125.0 ปอนด์ ลด 0.4 ปอนด์ เพชรสังวาลย์ ส.สมานการ์เม้นท์ 125.0 ปอนด์ ขาด 0.2 ปอนด์
4 นิวเคลียร์ ส.สุภัทโท 119.0 ปอนด์ ขาด 0.2 ปอนด์ เสือสยาม ศิษย์บอลสกล 119.0 ปอนด์ ตามพิกัด
5 อาซีส เอราวัณ 104.0 ปอนด์ ลด 0.2 ปอนด์ โบวี่ ส.โชคมีชัย 104.0 ปอนด์ ตามพิกัด
6 จอร์จ พรัญชัย 108.0 ปอนด์ ตามพิกัด เพชรก้องฟ้า ว.เทคโนหลวงปู่สรวง 108.0 ปอนด์ ตามพิกัด

การจัดโปรแกรมครั้งนี้มีความสมดุลในทุกพิกัดน้ำหนัก โดยนักมวยเกือบทั้งหมดสามารถชั่งได้ตามเกณฑ์หรือขาดเพียงเล็กน้อย ทำให้ไม่เสียสมดุลของการแข่งขัน ถือเป็นการการันตีว่าทุกคู่พร้อมเต็มร้อย


วิเคราะห์คู่มวยเด่นประจำสัปดาห์

คู่เปิดหัว – ทีม ผ้าเบรกคอมแพ็ค vs มรกตดำ ส.เปรมบุตร

ตารางข้อมูลคู่ที่ 1:

คู่ที่ ฝ่ายแดง พิกัด ชั่งได้ ฝ่ายน้ำเงิน พิกัด ชั่งได้
1 ทีม ผ้าเบรกคอมแพ็ค 102.0 ปอนด์ ตามพิกัด มรกตดำ ส.เปรมบุตร 102.0 ปอนด์ ขาด 0.4 ปอนด์

การเจอกันของคู่นี้นับว่าเปิดศึกได้อย่างน่าสนใจ ทีม ผ้าเบรกคอมแพ็ค ชั่งได้ตรงตามพิกัด แสดงถึงการฟิตซ้อมที่ลงตัว ส่วนมรกตดำ ส.เปรมบุตร แม้จะขาดไป 0.4 ปอนด์ แต่ไม่ใช่จุดเสียเปรียบมากนัก เกมนี้น่าจะเป็นการใช้ความเร็วและจังหวะออกหมัดทำคะแนนกันแบบสูสี


คู่ที่ 2 – กัปตัน วันของโอม.WKO vs เพชรนิพล ป.มงคลอินทร์

ตารางข้อมูลคู่ที่ 2:

คู่ที่ ฝ่ายแดง พิกัด ชั่งได้ ฝ่ายน้ำเงิน พิกัด ชั่งได้
2 กัปตัน วันของโอม.WKO 113.0 ปอนด์ ตามพิกัด เพชรนิพล ป.มงคลอินทร์ 113.0 ปอนด์ ลด 0.2 ปอนด์

ในพิกัด 113 ปอนด์ กัปตัน วันของโอม.WKO ถือว่ามีความมั่นใจเพราะชั่งได้พอดี ส่วนเพชรนิพล ลดน้ำหนักไป 0.2 ปอนด์ ถือว่าเล็กน้อยไม่กระทบต่อฟอร์ม จุดน่าสนใจคือทั้งคู่เน้นสปีดและความแม่นยำ เกมการชกจึงมีโอกาสสูงที่จะเป็นไฟต์ที่ออกหมัดแลกกันอย่างดุเดือด


คู่ที่ 3 – เด่น ศิษย์นายกทวีปตะพง vs เพชรสังวาลย์ ส.สมานการ์เม้นท์

ตารางข้อมูลคู่ที่ 3:

คู่ที่ ฝ่ายแดง พิกัด ชั่งได้ ฝ่ายน้ำเงิน พิกัด ชั่งได้
3 เด่น ศิษย์นายกทวีปตะพง 125.0 ปอนด์ ลด 0.4 ปอนด์ เพชรสังวาลย์ ส.สมานการ์เม้นท์ 125.0 ปอนด์ ขาด 0.2 ปอนด์

การชั่งน้ำหนักใกล้เคียงกันแบบนี้ ทำให้ไฟต์นี้คาดว่าจะสนุกสูสี เด่นลดไป 0.4 ปอนด์ จึงคล่องตัวกว่าเล็กน้อย ส่วนเพชรสังวาลย์แม้ชั่งขาด 0.2 ปอนด์ แต่ยังคงความสมดุล เกมนี้จะเน้นการเข้าวงในและใช้ลูกเตะทำคะแนนเป็นหลัก


คู่ที่ 4 – นิวเคลียร์ ส.สุภัทโท vs เสือสยาม ศิษย์บอลสกล

ตารางข้อมูลคู่ที่ 4:

คู่ที่ ฝ่ายแดง พิกัด ชั่งได้ ฝ่ายน้ำเงิน พิกัด ชั่งได้
4 นิวเคลียร์ ส.สุภัทโท 119.0 ปอนด์ ขาด 0.2 ปอนด์ เสือสยาม ศิษย์บอลสกล 119.0 ปอนด์ ตามพิกัด

นิวเคลียร์ชั่งได้ต่ำกว่าพิกัดเล็กน้อย ซึ่งช่วยให้คล่องตัว ส่วนเสือสยามได้ตามพิกัดพอดี บ่งบอกถึงความแข็งแกร่งเต็มร้อย การเจอกันครั้งนี้เป็นการวัดกันระหว่างมวยเชิงที่วางแผนเก่ง กับมวยบู๊ที่พร้อมเดินชนตลอดเวลา


คู่ที่ 5 – อาซีส เอราวัณ vs โบวี่ ส.โชคมีชัย

ตารางข้อมูลคู่ที่ 5:

คู่ที่ ฝ่ายแดง พิกัด ชั่งได้ ฝ่ายน้ำเงิน พิกัด ชั่งได้
5 อาซีส เอราวัณ 104.0 ปอนด์ ลด 0.2 ปอนด์ โบวี่ ส.โชคมีชัย 104.0 ปอนด์ ตามพิกัด

คู่รองก่อนปิดท้ายรายการ อาซีสลดน้ำหนักเพียงเล็กน้อย ถือว่าไม่มีผลมาก ขณะที่โบวี่ได้ตามพิกัดเต็มที่ ความสูสีแบบนี้ทำให้ไฟต์นี้น่าจะออกมาเป็นเกมที่ทั้งสองพยายามทำคะแนนชัดเจนด้วยลูกเตะและหมัดชุด


คู่ที่ 6 – จอร์จ พรัญชัย vs เพชรก้องฟ้า ว.เทคโนหลวงปู่สรวง

ตารางข้อมูลคู่ที่ 6:

คู่ที่ ฝ่ายแดง พิกัด ชั่งได้ ฝ่ายน้ำเงิน พิกัด ชั่งได้
6 จอร์จ พรัญชัย 108.0 ปอนด์ ตามพิกัด เพชรก้องฟ้า ว.เทคโนหลวงปู่สรวง 108.0 ปอนด์ ตามพิกัด

คู่ปิดท้ายรายการที่แฟนมวยรอคอย ทั้งสองฝ่ายชั่งได้พอดีตามพิกัด เกมนี้จะเป็นการเจอกันของนักมวยฝีมือครบเครื่อง จอร์จ พรัญชัย มีประสบการณ์มากกว่า ขณะที่เพชรก้องฟ้ามีความสดและแรงใจเต็มเปี่ยม คู่นี้รับประกันความดุเดือดจนยกสุดท้าย


ไฮไลต์และความน่าสนใจในศึกมวยไทย 7 สี 28/09/68

รายการนี้โดดเด่นตรงที่ทุกคู่มีการจัดพิกัดอย่างสมดุล ไม่มีฝ่ายใดเสียเปรียบมากเกินไป ทำให้ผู้ชมมั่นใจได้ว่าจะได้ดูเกมการชกที่สูสี อีกทั้งยังเป็นเวทีแจ้งเกิดของนักชกรุ่นใหม่ที่อาจกลายเป็นดาวดังในอนาคต เหมาะแก่การติดตามแบบสด ๆ จากขอบเวทีหรือหน้าจอทีวี


สรุป ศึกมวยไทย 7 สี มวยวันนี้ 28/09/68

แฟนมวยไม่ควรพลาดเด็ดขาดกับศึกมวยไทย 7 สี มวยวันนี้ 28/09/68 เพราะทุกคู่มีความพิเศษในแบบของตัวเอง ทั้งมวยเปิดหัวที่รวดเร็ว มวยกลางที่เชิงสูง และมวยคู่ปิดที่สูสีจนคาดเดายาก ถ่ายทอดสดจากช่อง 7 สี เวลา 14.30 น. บอกได้เลยว่าค่ำคืนนี้ เวทีมวยจะลุกเป็นไฟ!