มวยวันนี้ ศึกเพชรยินดี 18/09/68 ค่ำคืนวันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน 2568 เวทีมวยราชดำเนินจะกลับมาลุกเป็นไฟอีกครั้ง รายการที่แฟนมวยเฝ้ารอ การชั่งน้ำหนักเสร็จสิ้นลงแล้ว และนักชกทุกคู่พร้อมขึ้นเวที โชว์ศักดิ์ศรีความเป็นนักสู้ของตนเอง การแข่งขันครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการดวลอาวุธ แต่ยังเป็นเวทีที่พิสูจน์หัวใจ ความฟิตซ้อม และความแม่นยำของเหล่ายอดมวยที่ต่างเดินทางมาจากหลายสังกัดเพื่อแย่งชิงชัยชนะ
มวยวันนี้ ศึกเพชรยินดี 18/09/68
โปรแกรมการแข่งขันศึกเพชรยินดี
วันพฤหัสบดี ที่ 18 กันยายน 2568
ณ เวทีมวยราชดำเนิน เริ่มชกตั้งแต่เวลา 20.30 น.
อัพเดตข่าวสาร ตารางมวย พร้อมลิ้งก์ดูมวยสด ที่นี่
| คู่ที่ | ฝ่ายแดง | พิกัด (ปอนด์) | ชั่งได้ | ฝ่ายน้ำเงิน | พิกัด (ปอนด์) | ชั่งได้ |
|---|---|---|---|---|---|---|
| 1 | ขวัญใจ เกียรติชัยยุทธ | 101.0 | ขาด 0.5 | วราพล ศูนย์กีฬากุดฉิม | 101.0 | ลด 1.9 |
| 2 | ฉัตรเงินเล็ก ปานนิวัฒน์มวยไทยยิมส์ | 120.0 | ตามพิกัด | เพชรขุนพล เกียรติจำรูญ | 121.0 | ขาด 1.1 |
| 3 | เพชรนาคา ศิษย์เจริญทรัพย์ | 112.0 | ลด 0.1 | หลานย่าโม ศิษย์มนต์ชัย | 112.0 | ลด 1.1 |
| 4 | ศิลธรรม ม.ราชภัฎหมู่บ้านจอมบึง | 130.0 | ลด 1.4 | เพชรเมืองเหนือ ต๋องขาวเชียงใหม่ | 130.0 | ลด 0.4 |
| 5 | นำเจริญ บุญลานนามวยไทย | 114.0 | ขาด 0.3 | ศิวราช ว.รินธิดา | 114.0 | ลด 0.3 |
| 6 | โคชิ ลูกคลองตัน | 111.0 | ลด 0.4 | เพชรพอใจ บาสทุ่งเขาหลวง | 111.0 | ตามพิกัด |
| 7 | นิโรจน์ จิตอาสาบางแก้ว | 116.0 | ตามพิกัด | เด่นผาด่าง แดงรถดี | 116.0 | ลด 1.5 |
| 8 | เพชรมงคล สามารถพยัคฆ์อรุณยิมส์ | 133.0 | ลด 1.3 | ฤทธิพันธ์ พันธุ์ดักษ์รัตนบุรี | 133.0 | ขาด 0.2 |
| 9 | แอ๊ดเทวดา ต.สุรัตน์ | 119.0 | ลด 0.5 | เหนือพยัคฆ์ ว.สังข์ประไพ | 119.0 | ลด 1.4 |
คู่เปิดหัว: ขวัญใจ เกียรติชัยยุทธ vs วราพล ศูนย์กีฬากุดฉิม
ในพิกัด 101 ปอนด์ คู่แรกของค่ำคืนนี้ ขวัญใจ เกียรติชัยยุทธ ฝ่ายแดง ชั่งได้ขาด 0.5 ปอนด์ ถือว่าเป็นการคุมร่างกายที่ดีและพร้อมลุย ส่วนทางด้าน วราพล ศูนย์กีฬากุดฉิม ฝ่ายน้ำเงิน ต้องลดมากถึง 1.9 ปอนด์ ซึ่งอาจมีผลต่อความฟิตและพลังปลายเกม จุดเด่นของไฟต์นี้คือขวัญใจเป็นมวยบู๊สายลุย เดินหน้าชนไม่กลัวใคร ขณะที่วราพลเป็นนักชกสายฝีมือ เน้นการออกอาวุธแม่นยำและวางเกมได้ดี หากขวัญใจเดินเร็วตั้งแต่ต้นอาจสร้างความกดดัน แต่หากวราพลยืนระยะได้ เกมนี้อาจกลายเป็นการชิงจังหวะสุดเข้มข้น
คู่ที่ 2: ฉัตรเงินเล็ก ปานนิวัฒน์มวยไทยยิมส์ vs เพชรขุนพล เกียรติจำรูญ
พิกัด 120 ปอนด์ ฉัตรเงินเล็ก ฝ่ายแดง ชั่งได้ตามพิกัดพอดี ร่างกายพร้อมเต็มร้อย ส่วน เพชรขุนพล เกียรติจำรูญ ฝ่ายน้ำเงิน กลับชั่งได้ขาดไป 1.1 ปอนด์ แม้จะไม่กระทบต่อการขึ้นชก แต่การคุมร่างกายอาจมีปัญหาบ้าง จุดน่าสนใจคือฉัตรเงินเล็กเป็นมวยที่มีอาวุธครบเครื่อง แข้งแรง หมัดคม และอ่านเกมเก่ง ขณะที่เพชรขุนพลมีความดุดัน อาศัยการเดินเข้าหาและใช้พละกำลังเข้ากดดัน การเจอกันครั้งนี้จึงถือเป็นการวัดกันระหว่างเทคนิคกับพลัง และใครที่คุมเกมได้ดีกว่ามีสิทธิ์คว้าชัย
คู่ที่ 3: เพชรนาคา ศิษย์เจริญทรัพย์ vs หลานย่าโม ศิษย์มนต์ชัย
พิกัด 112 ปอนด์ เพชรนาคา ฝ่ายแดง ลดไปเพียง 0.1 ปอนด์ ถือว่าอยู่ในสภาพพร้อมสุด ๆ ส่วน หลานย่าโม ฝ่ายน้ำเงิน ต้องลดมากถึง 1.1 ปอนด์ ซึ่งอาจส่งผลต่อสภาพร่างกาย จุดเด่นของไฟต์นี้คือเพชรนาคาเป็นมวยจังหวะสอง มีแข้งซ้ายอันตรายและการออกอาวุธที่แม่นยำ ส่วนหลานย่าโมเป็นมวยที่อึด อาศัยความแข็งแกร่งและแรงบวกจากหมัดที่หนัก การเจอกันครั้งนี้แฟนมวยน่าจะได้ชมการแลกอาวุธอย่างดุเดือดตั้งแต่ต้นจนจบ
คู่ที่ 4: ศิลธรรม ม.ราชภัฎหมู่บ้านจอมบึง vs เพชรเมืองเหนือ ต๋องขาวเชียงใหม่
ไฟต์นี้อยู่ในพิกัด 130 ปอนด์ ศิลธรรม ฝ่ายแดง ต้องลดน้ำหนักมากถึง 1.4 ปอนด์ ซึ่งอาจส่งผลต่อแรงปลาย แต่ยังคงเป็นมวยที่ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแรงและลูกศอกที่อันตราย ส่วน เพชรเมืองเหนือ ฝ่ายน้ำเงิน ลดเพียง 0.4 ปอนด์ ร่างกายยังคงความสด จุดสำคัญของไฟต์นี้คือการดวลกันของสองสไตล์ มวยฝีมือกับมวยบู๊ เพชรเมืองเหนือขึ้นชื่อว่ามีการออกอาวุธครบเครื่องและรัดกุม ขณะที่ศิลธรรมเน้นบุกดุดัน เกมนี้จึงอาจพลิกไปมาหลายครั้งและสร้างความเร้าใจให้แฟนมวยอย่างแน่นอน
คู่ที่ 5: นำเจริญ บุญลานนามวยไทย vs ศิวราช ว.รินธิดา
ในพิกัด 114 ปอนด์ นำเจริญ ฝ่ายแดง ชั่งได้ขาดไป 0.3 ปอนด์ ส่วน ศิวราช ฝ่ายน้ำเงิน ลดไป 0.3 ปอนด์เช่นกัน ทำให้ทั้งคู่ถือว่ามีความพร้อมใกล้เคียงกัน จุดน่าสนใจคือการปะทะกันของสองนักชกที่มีความเร็วและความแม่นยำเป็นอาวุธหลัก เกมนี้น่าจะออกมาเป็นไฟต์ที่สูสีและตัดสินกันที่การอ่านเกมและการออกอาวุธที่เฉียบคมกว่า
คู่ที่ 6: โคชิ ลูกคลองตัน vs เพชรพอใจ บาสทุ่งเขาหลวง
พิกัด 111 ปอนด์ โคชิ ลูกคลองตัน ฝ่ายแดง ลดไป 0.4 ปอนด์ ร่างกายยังฟิตสมบูรณ์ ขณะที่ เพชรพอใจ บาสทุ่งเขาหลวง ฝ่ายน้ำเงิน ชั่งได้ตรงตามพิกัดพอดี ความน่าสนใจคือโคชิเป็นมวยจังหวะสองที่มีลูกศอกและหมัดอันตราย ส่วนเพชรพอใจเป็นมวยครบเครื่อง แข้งแรง มีการป้องกันตัวดี การเจอกันครั้งนี้ถือเป็นการวัดกันระหว่างความดุดันกับความรัดกุมที่แฟนมวยไม่ควรพลาด
คู่ที่ 7: นิโรจน์ จิตอาสาบางแก้ว vs เด่นผาด่าง แดงรถดี
ไฟต์นี้อยู่ในพิกัด 116 ปอนด์ นิโรจน์ ฝ่ายแดง ชั่งได้ตามพิกัดพอดี ถือว่าฟิตเต็มร้อย ส่วน เด่นผาด่าง ฝ่ายน้ำเงิน ลดไปมากถึง 1.5 ปอนด์ อาจทำให้แรงปลายตก จุดเด่นของคู่นี้คือ นิโรจน์เป็นมวยที่มีฝีมือครบเครื่อง ใช้การออกอาวุธได้หลากหลาย ขณะที่เด่นผาด่างขึ้นชื่อเรื่องหมัดหนักและลูกบู๊ หากออกหมัดได้เข้าเป้า เกมนี้อาจพลิกได้ทุกวินาที
คู่ที่ 8: เพชรมงคล สามารถพยัคฆ์อรุณยิมส์ vs ฤทธิพันธ์ พันธุ์ดักษ์รัตนบุรี
ในพิกัด 133 ปอนด์ เพชรมงคล ฝ่ายแดง ลดไป 1.3 ปอนด์ ซึ่งอาจมีผลต่อพลังงานในช่วงปลายยก ส่วน ฤทธิพันธ์ ฝ่ายน้ำเงิน ชั่งได้ขาดไป 0.2 ปอนด์ ร่างกายยังสด จุดที่น่าสนใจคือเพชรมงคลมีสไตล์บุกเน้นลูกแข้งและหมัดหนัก ส่วนฤทธิพันธ์เป็นมวยที่เล่นเกมรับได้ดี มีจังหวะสวนที่แม่นยำ การเจอกันครั้งนี้เป็นการปะทะที่น่าติดตามว่าจะเป็นพลังหรือฝีมือที่คว้าชัยไป
คู่ที่ 9: แอ๊ดเทวดา ต.สุรัตน์ vs เหนือพยัคฆ์ ว.สังข์ประไพ
ปิดท้ายรายการในพิกัด 119 ปอนด์ แอ๊ดเทวดา ฝ่ายแดง ลดไป 0.5 ปอนด์ ส่วน เหนือพยัคฆ์ ฝ่ายน้ำเงิน ต้องลดมากถึง 1.4 ปอนด์ ซึ่งอาจกระทบต่อความฟิต จุดเด่นของไฟต์นี้คือ แอ๊ดเทวดามีการออกแข้งและหมัดที่รวดเร็ว ขณะที่เหนือพยัคฆ์เป็นมวยที่มีลูกบู๊และความแข็งแกร่ง หากเกมนี้ออกมาเป็นการแลกกลางเวที รับรองว่าแฟนมวยจะได้ชมความมันส์แบบไม่มีใครยอมใคร
บทสรุป ศึกเพชรยินดี มวยวันนี้ 18/09/68
การชั่งน้ำหนักผ่านไปด้วยดี แม้หลายคู่ต้องลดน้ำหนักมาก แต่ยังคงพร้อมชกเต็มร้อย ศึกเพชรยินดี มวยวันนี้ 18/09/68 จึงเป็นอีกหนึ่งรายการใหญ่ที่น่าจับตามอง ทุกคู่มีจุดเด่นและความน่าสนใจที่แตกต่างกัน ตั้งแต่คู่เปิดหัวไปจนถึงคู่ปิดท้าย ถือเป็นค่ำคืนที่แฟนมวยจะได้ชมการแลกอาวุธอย่างดุเดือดและสนุกเร้าใจตลอดทั้งรายการแน่นอน