ศึกจ้าวมวยไทยกลับมาเติมเต็มอรรถรสเช้าวันเสาร์ให้แฟนมวยทั่วประเทศด้วยรายการคุณภาพจากเวทีมวยสยามอ้อมน้อย โดยครั้งนี้จัดขึ้นในวันที่ 25 ตุลาคม 2568 เปิดสังเวียนให้คอมวยได้ลุ้นกันตั้งแต่ช่วงเที่ยง โดยสถานีถ่ายทอดสดเริ่มภาพตรงเวลา 12:15 น. ขณะที่โปรแกรมการแข่งขันจริงของสนามประกาศเริ่มชกตั้งแต่ 18:00 น. เพื่อให้แฟน ๆ วางแผนการรับชมและติดตามนักชกที่ชื่นชอบได้อย่างตรงใจ บทความฉบับนี้จึงสรุปไฟต์การ์ดครบทุกคู่พร้อมตารางชั่งน้ำหนักที่อ่านง่าย และต่อยอดด้วยการวิเคราะห์แนวทางเกมตามสไตล์มวยไทยร่วมสมัย ที่เน้นทั้งจังหวะอาวุธ การยืนตำแหน่ง ความสดความฟิต และประสบการณ์บนเวทีระดับประเทศ เพื่อให้ผู้อ่านใช้เป็นข้อมูลตัดสินใจก่อนเชียร์ได้อย่างมั่นใจ
โปรแกรมมวย “ศึกจ้าวมวยไทย” วันเสาร์ที่ 25 ตุลาคม 2568 – เวทีมวยสยามอ้อมน้อย ถ่ายทอดสด 12:15 น.
ข้อมูลภาพรวมการแข่งขัน
รายการศึกจ้าวมวยไทยในปลายเดือนตุลาคมนี้มีจุดเด่นที่ความหลากหลายของสไตล์ ทั้งมวยเดินปล้ำตี มวยซ้ายดักสาดแข้ง และมวยวงในเหนียวแน่น โดยผู้จัดสนามคัดไฟต์ที่สมดุลระหว่างชื่อชั้นกับความสูสี ทำให้ทุกคู่ล้วนมีเงื่อนไขน้ำหนักเฉพาะที่ต้องพิถีพิถัน โดยเฉพาะคู่ที่มีผลชั่งเกินหรือขาดเล็กน้อย ซึ่งมักส่งผลต่อแผนเกมและพลังยืนปลายยก ทั้งนี้การชกที่อ้อมน้อยขึ้นชื่อเรื่องเวทีที่กระชับ เปิดโอกาสให้ฝ่ายที่ถนัดเกมวงในได้โชว์จุดเด่น ขณะที่มวยจังหวะฝีมือจำเป็นต้องรักษาระยะและคุมจังหวะอย่างรัดกุมเป็นพิเศษ ทำให้ภาพรวมของค่ำคืนนี้น่าจะได้เห็นการสลับชิงจังหวะค่อนข้างสูงและมีลุ้นพลิกทุกคู่
วัน–เวลาและการถ่ายทอดสด
สำหรับสายรับชมผ่านหน้าจอสามารถติดตามถ่ายทอดสดเวลา 12:15 น. ทางสถานีที่ประกาศสิทธิ์ถ่ายทอด ขณะที่โปรแกรมสนามแจ้งเริ่มชกช่วงเย็นเวลาประมาณ 18:00 น. ผู้ชมที่ต้องการบรรยากาศสด ๆ ที่ขอบเวทีควรมาถึงล่วงหน้าเพื่อจัดการที่นั่งและติดตามการชั่งน้ำหนักรอบสุดท้าย รวมถึงอัปเดตการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นก่อนระฆังยกแรก โดยเฉพาะคู่ที่มีการชั่งเกินหรือขาดที่อาจมีเงื่อนไขปรับน้ำหนักหรือหักแต้มตามข้อตกลงของคณะกรรมการ ซึ่งล้วนเป็นรายละเอียดที่มีผลต่อรูปเกมและการคาดการณ์ผลแพ้ชนะ
รายการชกและผลชั่งน้ำหนัก
ด้านล่างคือไฟต์การ์ดอย่างเป็นระบบ โดยแต่ละคู่จะมีตารางระบุพิกัดมาตรฐาน น้ำหนักชั่งจริงของทั้งมุมแดงและมุมน้ำเงิน พร้อมคอลัมน์สรุปสถานะว่าตามพิกัด เกิน หรือขาดเท่าใด เพื่อให้อ่านเข้าใจในครั้งเดียว จากนั้นต่อด้วยการวิเคราะห์แนวโน้มเชิงกลยุทธ์ จุดแข็งจุดอ่อน และปัจจัยภายนอกที่ควรจับตา เช่น รูปทรงเวที ขนาดเชือก แนวการทำงานของกรรมการ รวมทั้งความสดของร่างกายในช่วงเวลากลางวันซึ่งแตกต่างจากรายการกลางคืน ทำให้การบริหารพลังและจังหวะออกอาวุธต้องดัดแปลงให้เหมาะสมกับสภาพจริงของสนามอ้อมน้อย
คู่ที่ 1 – เดโชชัย ราชานนท์ vs ชัยมงคล ส. บุญมีฤทธิ์ (พิกัด 113 ปอนด์)
| ฝ่าย | ชื่อนักมวย | พิกัด (ปอนด์) | ชั่งได้ (ปอนด์) | สถานะน้ำหนัก | หมายเหตุ |
|---|---|---|---|---|---|
| 🔴 แดง | เดโชชัย ราชานนท์ | 113 | 113.8 | เกิน 0.8 | – |
| 🔵 น้ำเงิน | ชัยมงคล ส. บุญมีฤทธิ์ | 113 | 112.8 | ขาด 0.2 | – |
คู่นำเปิดรายการถือว่าสูสีในเชิงสรีระและลีลามวย เดโชชัยเป็นมวยเปิดเกมมีแรงประทะหนักแน่น เข้าทำด้วยแข้งขวาและหมัดซ้ายต่อยนำ ไล่บี้หาพื้นที่คลุกวงในได้ดี การชั่งเกินเล็กน้อย 0.8 ปอนด์อาจทำให้ได้ความแข็งแรงเพิ่มในช่วงกลางยก แต่ต้องระวังเรื่องความเร็วเท้าที่อาจเสียไปเล็กน้อย ส่วนชัยมงคลเป็นมวยจังหวะฝีมือ เน้นตั้งการ์ดแน่น ดักแทงเข่าและถีบสกัดก่อนออกแข้งสวน การชั่งขาด 0.2 ปอนด์ไม่น่ากระทบมาก ทว่าจุดสำคัญคือการคุมระยะไม่ให้ถูกเดโชชัยบี้ติดเชือก หากน้ำเงินรักษาวงนอกและใช้ถีบคุมจังหวะได้ต่อเนื่อง เกมจะเปิดโอกาสให้เก็บคะแนนสะอาดจากแข้งซ้ายและเข่าตรงยาว ๆ
แนวโน้มเกมคาดว่าเริ่มต้นเดโชชัยจะเดินเร็วเพื่อปิดช่อง เจาะฐานด้วยหมัดและแข้งหวังพาเข้าแลกในวงใน ด้านชัยมงคลต้องใช้ความนิ่งคุมเกม หน่วงสปีดด้วยการถีบและโยนศอกสั้นเมื่อเข้าระยะอันตราย หากการปักหลักของชัยมงคลดีและไม่เสียรูปให้โดนรวบตีเข่าต่อเนื่อง ความเป็นไปได้ที่จะเร่งคะแนนในยกสี่ห้ายังเปิดกว้าง อย่างไรก็ตามแรงเฉือนจากมุมแดงอาจทำให้ภาพรวมยกท้ายดูหนัดแน่นกว่า ผลแพ้ชนะจึงอยู่ที่ใครรักษาแผนเดิมได้ยาวกว่ากันและใครไม่เสียอารมณ์เมื่อจังหวะเกมแกว่ง
คู่ที่ 2 – ยอดมณี สวนจากคาเฟ่ vs เลียงผา ดาวเด่นมวยไทย (พิกัด 104/105 ปอนด์)
| ฝ่าย | ชื่อนักมวย | พิกัด (ปอนด์) | ชั่งได้ (ปอนด์) | สถานะน้ำหนัก | หมายเหตุ |
|---|---|---|---|---|---|
| 🔴 แดง | ยอดมณี สวนจากคาเฟ่ | 104 | 104.0 | ตามพิกัด | – |
| 🔵 น้ำเงิน | เลียงผา ดาวเด่นมวยไทย | 105 | 104.0 | ขาด 1.0 | – |
ยอดมณีเป็นมวยครบเครื่อง จังหวะสองดี รู้ทางเปลี่ยนเกียร์ได้รวดเร็ว เสริมด้วยลูกถีบสกัดและแข้งขวาหนักที่มักเก็บคะแนนชัดเจน เมื่อชั่งได้ตรงตามพิกัดยิ่งทำให้ความคล่องตัวเด่นในเวทีอ้อมน้อยที่พื้นที่ค่อนข้างกระชับ ขณะที่เลียงผาเป็นมวยปล้ำตีมีความอึด ความขยันสูง แต่น้ำหนักขาดหนึ่งปอนด์อาจทำให้การประทะเสียเปรียบเมื่อต้องเกี่ยวคอตีเข่าในจังหวะยื้อ ทั้งยังต้องทดแทนด้วยการเร่งเกมตั้งแต่ต้นเพื่อไม่ให้ปล่อยให้ยอดมณีตั้งลำคุมรีจจ์และเลือกแลกเฉพาะช็อตที่ได้เปรียบ
เกมนี้ความสำคัญอยู่ที่การชิงพื้นที่มุมเวที หากเลียงผาควบคุมกลางเวทีแล้วพาเกมไหลเข้าสู่วงในได้ต่อเนื่อง โอกาสพลิกคะแนนย่อมมี แต่ถ้าโดนยอดมณีคุมจังหวะด้วยถีบยาวและโยกซ้ายขวา ตัดจังหวะไม่ให้เข้าเงื้อมมือ การออกอาวุธของน้ำเงินจะติดขัดและเสียแรงเปล่า ยกสี่เป็นยกชี้ชะตาเพราะเครื่องทั้งสองฝั่งเริ่มร้อนเต็มที่ คาดว่ามุมแดงจะเน้นเก็บช็อตสะอาดเนียนตาและปิดเกมด้วยความนิ่ง ส่วนมุมน้ำเงินต้องเสี่ยงเดินแลกให้กรรมการเห็นความมุ่งมั่นชัดเจนเพื่อชดเชยข้อเสียด้านสภาพน้ำหนัก
คู่ที่ 3 – ศิลาเงิน ลานนาวอเตอร์ไซด์ vs โอเล่ สิงห์นครแว่น (พิกัด 131 ปอนด์)
| ฝ่าย | ชื่อนักมวย | พิกัด (ปอนด์) | ชั่งได้ (ปอนด์) | สถานะน้ำหนัก | หมายเหตุ |
|---|---|---|---|---|---|
| 🔴 แดง | ศิลาเงิน ลานนาวอเตอร์ไซด์ | 131 | 131.0 | ตามพิกัด | – |
| 🔵 น้ำเงิน | โอเล่ สิงห์นครแว่น | 131 | 131.6 | เกิน 0.6 | – |
คู่กลางรายการถือว่าน่าจับตาด้วยขนาดตัวที่ใกล้เคียงรุ่นใหญ่ ศิลาเงินเป็นมวยจังหวะตั้งรับคม ชอบเล่นงานด้วยแข้งซ้ายและศอกสวนในระยะก้ำกึ่ง จุดเด่นคือการยืนการ์ดนิ่งและอ่านเกมได้ไว เมื่อชั่งได้ตรงพิกัดยิ่งทำให้การเคลื่อนที่เป็นระบบและไม่เหนื่อยง่าย ส่วนโอเล่เป็นมวยบู๊เดินบด ความรุนแรงของหมัดและการกระแทกวงในคืออาวุธหลัก น้ำหนักเกิน 0.6 ปอนด์อาจเพิ่มความแข็งแรงในจังหวะกระชากและเกี่ยวคอตี ทว่าต้องบริหารความเร็วให้พอ เพราะหากฝืนเดินเร็วเกินระยะอาจโดนศิลาเงินดักคืนเป็นชุดจนเสียกระบวน
เชิงยุทธศาสตร์ ศิลาเงินควรใช้พื้นที่เวทีให้คุ้มค่า เน้นกวนจังหวะด้วยถีบและโยกตัวหลอก ก่อนวางแข้งและสับศอกสั้นเพื่อสะสมแผลให้คู่ต่อสู้ลังเล ส่วนโอเล่ต้องเซ็ตการเข้าทำด้วยหมัดหนึ่งสองบังหน้าแล้วพาเข้าสู่ระยะปล้ำตีเข่า หากทำได้ต่อเนื่องตั้งแต่ยกสองถึงยกสี่ คะแนนจะย้ายข้างได้ง่ายเพราะกรรมการที่อ้อมน้อยให้ค่ากับเกมบุกมีเนื้อมีหนัง อย่างไรก็ตามถ้าโอเล่ปิดช่องไม่อยู่จนโดนดึงยืดจังหวะยาว ความได้เปรียบทางแรงปะทะอาจไม่เพียงพอคุมเกมยกท้าย สุดท้ายจะวัดกันที่ความแม่นของช็อตสำคัญและความนิ่งยามถูกกดดัน
คู่ที่ 4 – ยอดฉัตรเล็ก สิทธิ์ไชโย vs หยกมงคล สิงห์นครแว่น (พิกัด 120 ปอนด์)
| ฝ่าย | ชื่อนักมวย | พิกัด (ปอนด์) | ชั่งได้ (ปอนด์) | สถานะน้ำหนัก | หมายเหตุ |
|---|---|---|---|---|---|
| 🔴 แดง | ยอดฉัตรเล็ก สิทธิ์ไชโย | 120 | 120.2 | เกิน 0.2 | – |
| 🔵 น้ำเงิน | หยกมงคล สิงห์นครแว่น | 120 | 119.0 | ขาด 1.0 | – |
ไฟต์รองคู่เอกมีความต่างด้านสถานะน้ำหนักค่อนข้างชัด ยอดฉัตรเล็กชั่งเกิน 0.2 ปอนด์ซึ่งแทบไม่กระทบความคล่องตัว แต่ช่วยเพิ่มแรงปักเข่าและความแข็งแกร่งเวลาปะทะ ส่วนหยกมงคลน้ำหนักขาดหนึ่งปอนด์ จึงต้องเน้นสปีดเกมและใช้จังหวะสองให้คมเป็นพิเศษ จุดเด่นของหยกมงคลคือการสาดแข้งยาวและการหนีมุมที่ฉลาด ถ้ารักษาระยะกลางได้ดีจะทำให้มุมแดงต้องออกแรงมากขึ้นและเปิดช่องทางให้สวนกลับด้วยหมัดขวา หรือสับศอกเมื่อถูกบี้จนเข้าแลกในคลินช์
มุมแดงในชื่อยอดฉัตรเล็กเป็นมวยเข่าแข็งแรง เดินทำได้ไม่เกรงใจใคร ยิ่งในเวทีอ้อมน้อยที่เชือกเด้งแรง การขย่มเข่าต่อเนื่องพร้อมกดคอทับนํ้าหนักสามารถสะสมความเสียหายจนคู่ชกยุบชัดเจน หากหยกมงคลไม่เร่งทำคะแนนในช่วงต้นถึงกลางยก โอกาสโดนเบียดบังรูปเกมในยกท้ายจะสูงมาก กลยุทธ์ที่เหมาะคือชิงจังหวะก่อนหนึ่งจังหวะเสมอ ใช้ถีบและแข้งสลับระดับลำตัว-ศีรษะเพื่อทำให้ยอดฉัตรเล็กเสียสมดุล เมื่อมุมแดงเสียหลักบ่อย คะแนนจะไหลกลับอัตโนมัติ ความเด็ดขาดจะวัดกันในยกสี่ที่ทั้งสองฝ่ายต้องชี้ชะตาด้วยความแม่นของอาวุธหนักและความอึดทางใจ
คู่ที่ 5 – ยอดนิยม เค.โต้งตลิ่งชัน vs วาซอฟ ส.กิจรุ่งโรจน์ (พิกัด 116 ปอนด์)
| ฝ่าย | ชื่อนักมวย | พิกัด (ปอนด์) | ชั่งได้ (ปอนด์) | สถานะน้ำหนัก | หมายเหตุ |
|---|---|---|---|---|---|
| 🔴 แดง | ยอดนิยม เค.โต้งตลิ่งชัน | 116 | 115.4 | ขาด 0.6 | – |
| 🔵 น้ำเงิน | วาซอฟ ส.กิจรุ่งโรจน์ | 116 | 116.0 | ตามพิกัด | – |
คู่ปิดรายการเน้นความมันเร้าใจ ยอดนิยมเป็นมวยจังหวะสองที่อ่านเกมไว ใช้การโยกตัวและถีบหน้าเปิดทางก่อนวางแข้งหรือยิงหมัดสวน จุดสังเกตคือการชั่งขาด 0.6 ปอนด์ทำให้ต้องบริหารแรงปะทะและระยะการแลกอย่างระมัดระวัง ถ้าเข้าไปยืนแลกนาน ๆ อาจเสียเปรียบด้านความหนักแน่นเมื่อเทียบกับวาซอฟที่ได้สภาพน้ำหนักเต็มพิกัด ด้านวาซอฟเป็นมวยใจถึง เดินลุยคุมเชิงด้วยหมัดชุดและเข่าแหลม การยืนระยะดี ชอบเร่งยกสามสี่ยาว ๆ ให้คู่ต่อสู้ยุบเองด้วยความกดดัน
แนวโน้มของไฟต์นี้คือการแกว่งไปมาระหว่างสปีดกับพละกำลัง หากยอดนิยมสามารถทำให้การเข้าทำของวาซอฟเสียจังหวะด้วยการถีบและสtepหลบ 45 องศา แล้วสวนด้วยหมัดตรงหรือแข้งตัดล่างอย่างแม่นยำ จะกลายเป็นฝ่ายได้คะแนนชัด ทว่าหากวาซอฟกดมุมและใช้เกมปล้ำตีให้เกิดการเนือยของมุมแดง ความได้เปรียบจะค่อย ๆ โน้มมาทางน้ำเงิน ยกท้ายอาจได้เห็นการวัดใจที่เชือกซึ่งต้องอาศัยใจเกินร้อยและวินัยเกมรับที่เหนียวแน่น ฝ่ายที่ไม่หลุดแผนก่อนย่อมมีโอกาสยิ้มเมื่อสิ้นระฆัง
ตารางสรุป Fight Card ทั้งรายการ
| คู่ | แดง | น้ำเงิน | พิกัด | ชั่งได้ (แดง) | ชั่งได้ (น้ำเงิน) | สถานะ (แดง/น้ำเงิน) | เวลาถ่ายทอดสด |
|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 1 | เดโชชัย ราชานนท์ | ชัยมงคล ส. บุญมีฤทธิ์ | 113 | 113.8 | 112.8 | เกิน 0.8 / ขาด 0.2 | 12:15 น. |
| 2 | ยอดมณี สวนจากคาเฟ่ | เลียงผา ดาวเด่นมวยไทย | 104/105 | 104.0 | 104.0 | ตามพิกัด / ขาด 1.0 | 12:15 น. |
| 3 | ศิลาเงิน ลานนาวอเตอร์ไซด์ | โอเล่ สิงห์นครแว่น | 131 | 131.0 | 131.6 | ตามพิกัด / เกิน 0.6 | 12:15 น. |
| 4 | ยอดฉัตรเล็ก สิทธิ์ไชโย | หยกมงคล สิงห์นครแว่น | 120 | 120.2 | 119.0 | เกิน 0.2 / ขาด 1.0 | 12:15 น. |
| 5 | ยอดนิยม เค.โต้งตลิ่งชัน | วาซอฟ ส.กิจรุ่งโรจน์ | 116 | 115.4 | 116.0 | ขาด 0.6 / ตามพิกัด | 12:15 น. |
ตารางสรุปด้านบนช่วยให้ผู้อ่านตรวจเช็กภาพรวมได้ในมุมเดียว ทั้งพิกัดมาตรฐาน น้ำหนักชั่งจริง และสถานะน้ำหนักของนักชกแต่ละคน ซึ่งมักส่งผลต่อแผนการชกอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะคู่ที่น้ำหนักเกินเล็กน้อยซึ่งมีแนวโน้มได้แรงปะทะมากขึ้น ส่วนคู่ที่ชั่งขาดต้องแก้เกมด้วยความเร็วและจังหวะสองเพื่อทดแทนกำลังจากมวลร่างกาย ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่ารายการศึกจ้าวมวยไทยรอบนี้มีความสูสีสูงและพร้อมมอบความมันตลอดทั้งรายการ
คำถามที่พบบ่อย
ศึกจ้าวมวยไทย วันที่ 25 ตุลาคม 2568 ถ่ายทอดสดกี่โมง?
ถ่ายทอดสดเวลา 12:15 น. ตามกำหนดการของสถานีที่ถือสิทธิ์ออกอากาศ ผู้ชมที่ต้องการรับชมแบบคมชัดควรเตรียมอุปกรณ์และสัญญาณอินเทอร์เน็ตให้พร้อมล่วงหน้า เพื่อไม่ให้พลาดภาพเปิดรายการและการชั่งน้ำหนักก่อนขึ้นสังเวียน ทั้งยังควรติดตามประกาศเพิ่มเติมของผู้จัดเผื่อเกิดการขยับเวลานิดหน่อยตามความพร้อมของสนาม ซึ่งเป็นเรื่องปกติในรายการถ่ายทอดสดขนาดใหญ่
การแข่งขันเริ่มชกจริงกี่โมงและที่ไหน?
โปรแกรมชกของสนามระบุเริ่มเวลา 18:00 น. ที่เวทีมวยสยามอ้อมน้อย ซึ่งเป็นสนามที่ขึ้นชื่อเรื่องความเข้มข้นของเกมวงใน โครงสร้างเวทีทำให้ระยะต่อสู้อยู่ใกล้และกดดันต่อเนื่อง ผู้ที่เดินทางไปชมควรมาถึงก่อนเวลาเพื่อซื้อบัตร จัดที่นั่ง และติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดจากผู้จัด รวมทั้งมาตรการความปลอดภัยภายในสนาม ทั้งหมดนี้ช่วยยกระดับประสบการณ์การเชียร์ให้เต็มอิ่มยิ่งขึ้น
คู่ไหนมีน้ำหนักเกินหรือขาดบ้าง?
จากผลชั่งน้ำหนัก: เดโชชัย เกิน 0.8 ปอนด์, ชัยมงคล ขาด 0.2 ปอนด์, เลียงผา ขาด 1.0 ปอนด์, โอเล่ เกิน 0.6 ปอนด์, ยอดฉัตรเล็ก เกิน 0.2 ปอนด์, หยกมงคล ขาด 1.0 ปอนด์ และยอดนิยมขาด 0.6 ปอนด์ ขณะที่ยอดมณีและศิลาเงินชั่งได้ตามพิกัด น้ำหนักที่แตกต่างนี้ไม่ได้ชี้ชะตาผลแพ้ชนะโดยตรง แต่ส่งผลต่อรูปแบบการต่อสู้ เช่น ผู้ที่เกินเล็กน้อยมักมีแรงปะทะและการยืนชนที่แน่นกว่า ส่วนผู้ที่ขาดจำเป็นต้องพึ่งการเคลื่อนที่และการคุมระยะเพื่อชิงความได้เปรียบ
หมายเหตุและการอัปเดต
ข้อมูลทั้งหมดอ้างอิงตามประกาศโปรแกรมและผลชั่งน้ำหนักก่อนแข่ง หากมีการสลับคู่หรือปรับเงื่อนไขน้ำหนักเพิ่มเติม ผู้จัดจะสื่อสารล่วงหน้าหรือแจ้งในช่วงรายการถ่ายทอดสดอีกครั้ง ผู้อ่านที่ติดตามผ่านหน้าเว็บไซต์แนะนำให้รีเฟรชหน้าเพื่อเช็กการอัปเดตเมื่อใกล้เวลาเริ่มชก ทั้งนี้ทุกคู่ได้รับการวางตัวอย่างเหมาะสมเพื่อความสูสีและความบันเทิงสูงสุด จึงมั่นใจได้ว่าศึกจ้าวมวยไทยในค่ำคืนนี้จะมอบความมันแบบไม่ให้พักหายใจตั้งแต่ยกแรกจนถึงยกสุดท้าย
ชมถ่ายทอดสด ทุกคู่ทุกสนาม ให้ค่าชนที่ดีที่สุด ในเอเชีย