บทความนี้จะพาแฟนบอลมาดูบทวิเคราะห์คู่ใหญ่ในสายตาสายเดิมพันอย่างศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ระหว่าง บอร์นมัธ VS เชลซี ที่ลงสนามกันที่ไวตาลิตี้ สเตเดี้ยม เกมนี้ไม่ใช่เพียงแค่การชิงสามแต้มธรรมดา แต่ยังเป็นบททดสอบสำคัญของทั้งสองทีมในเรื่องความต่อเนื่องของฟอร์มการเล่น โดยเฉพาะเจ้าบ้านที่กำลังอยู่ในช่วงผลงานย่ำแย่และต้องการผลการแข่งขันที่ดีเพื่อเรียกความมั่นใจกลับมาให้แฟนบอล ขณะที่เชลซีก็ต้องการชัยชนะเพื่อยึดพื้นที่บนหัวตารางให้เหนียวแน่น
ข้อมูลการแข่งขัน บอร์นมัธ VS เชลซี
| รายการ | คู่แข่งขัน | สนามแข่งขัน | เวลาเตะ | ถ่ายทอดสด | อัตราต่อรอง |
|---|---|---|---|---|---|
| พรีเมียร์ลีก อังกฤษ | บอร์นมัธ VS เชลซี | ไวตาลิตี้ สเตเดี้ยม | 22.00 น. | Mono MAX | เชลซี ต่อ 0-0.5 |
ศึกพรีเมียร์ลีกคู่นี้ระหว่างบอร์นมัธ VS เชลซี ถือเป็นเกมที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะต่างฝ่ายต่างมีเป้าหมายที่ชัดเจนในช่วงโค้งสำคัญของฤดูกาล บอร์นมัธในฐานะเจ้าถิ่นต้องการทุกคะแนนเพื่อหนีจากโซนล่างของตาราง และการได้เล่นต่อหน้าแฟนบอลในไวตาลิตี้ สเตเดี้ยมย่อมถูกคาดหวังว่าจะสร้างแรงฮึดได้บ้าง ส่วนเชลซีที่มีคุณภาพทีมเหนือกว่า ย่อมตั้งเป้าเก็บสามแต้มเต็มเพื่อไล่กดดันทีมกลุ่มหัวตารางและสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองและสาวกสิงห์บลูส์ทั่วโลกอีกครั้ง
บรรยากาศในสนามไวตาลิตี้ สเตเดี้ยมแม้จะไม่ใหญ่โตเท่ารังของทีมยักษ์ใหญ่รายอื่น แต่ก็ขึ้นชื่อเรื่องความใกล้ชิดระหว่างแฟนบอลกับสนามแข่งขัน ทำให้เสียงเชียร์กดดันคู่แข่งได้ดี โดยเฉพาะในเกมสำคัญเช่นนี้ที่เจ้าบ้านกำลังมองหาจุดเปลี่ยนของฤดูกาล อย่างไรก็ตามหากมองตามคุณภาพและฟอร์มล่าสุดแล้ว หลายสายตายังเชื่อว่าความเฉียบขาดของแนวรุกทีมเยือนเชลซีอาจจะเป็นสิ่งที่ชี้ขาดผลการแข่งขันในค่ำคืนนี้ได้อย่างชัดเจนเมื่อครบ 90 นาที
สถิติที่น่าสนใจก่อนเกม บอร์นมัธ VS เชลซี
| วันที่ | คู่แข่งขัน | รายการ | ผลการแข่งขัน |
|---|---|---|---|
| 15/01/25 | เชลซี VS บอร์นมัธ | พรีเมียร์ลีก | เชลซี เสมอ 2-2 |
| 15/09/24 | บอร์นมัธ VS เชลซี | พรีเมียร์ลีก | บอร์นมัธ แพ้ 0-1 |
| 19/05/24 | เชลซี VS บอร์นมัธ | พรีเมียร์ลีก | เชลซี ชนะ 2-1 |
| 17/09/23 | บอร์นมัธ VS เชลซี | พรีเมียร์ลีก | เสมอ 0-0 |
| 06/05/23 | บอร์นมัธ VS เชลซี | พรีเมียร์ลีก | บอร์นมัธ แพ้ 1-3 |
หากย้อนดูสถิติการพบกัน 5 นัดหลังสุดของคู่ บอร์นมัธ VS เชลซี จะเห็นภาพที่ชัดเจนว่าเชลซีทำผลงานได้ดีกว่าเจ้าถิ่นอยู่พอสมควร โดยเชลซีเก็บชัยชนะไปถึง 3 นัด เสมอ 2 นัด และบอร์นมัธไม่สามารถคว้าชัยเหนือสิงห์บลูส์ได้เลยในช่วงหลัง แม้จะมีเกมที่สามารถยันเสมอแบบไร้สกอร์ได้หนึ่งครั้ง แต่ส่วนใหญ่แล้วบอร์นมัธมักจะเป็นฝ่ายที่ต้องพ่ายแพ้เมื่อเผชิญหน้ากับทีมที่มีคุณภาพผู้เล่นเหนือกว่าในทุกไลน์ของสนามอย่างเชลซี
รูปแบบสกอร์ของทั้งสองทีมเมื่อเจอกันยังบ่งบอกให้เห็นถึงความแตกต่างด้านความคมในพื้นที่สุดท้ายอย่างชัดเจน เพราะหลายเกมที่เชลซีเป็นฝ่ายชนะมักจบด้วยสกอร์ 2-1, 3-1 หรือ 1-0 ซึ่งสะท้อนว่าพวกเขาสามารถสร้างโอกาสและเปลี่ยนให้เป็นประตูได้ต่อเนื่อง ในขณะที่บอร์นมัธแม้จะมีจังหวะสวนกลับที่อันตรายและเคยยิงได้ถึงสองลูกในการบุกเยือนสแตมฟอร์ด บริดจ์ แต่โดยรวมแล้วความสม่ำเสมอในเรื่องการทำประตูและการรักษาสกอร์ยังเป็นรองทีมเยือนอยู่ชัดเจน
ความพร้อมของทั้งสองทีมก่อนดวลกัน
ความพร้อมฝั่งบอร์นมัธ
บอร์นมัธภายใต้การคุมทีมของ อันโดนี่ อิราโอล่า กำลังเผชิญปัญหาสำคัญในเรื่องของสภาพทีมทั้งจากอาการบาดเจ็บและโทษแบน โดยพวกเขาจะหมดสิทธิ์ใช้งาน ไรอัน คริสตี้ และ เบน แกนนอน โด้ค ที่ยังต้องพักรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการหมุนเวียนผู้เล่นในเกมรุกและเกมสอดขึ้นมาช่วยเพรสซิ่งแดนบน นอกจากนี้ ลูอิส คุก และ ไทเลอร์ อดัมส์ ยังติดโทษแบน ทำให้แดนกลางขาดตัวเก๋าและตัวตัดเกมที่ช่วยเพิ่มความเหนียวแน่นในแนวรับชั้นที่สองอย่างเห็นได้ชัด
อย่างไรก็ตาม อิราโอล่ายังคงพร้อมจัดชุดที่ดีที่สุดที่เหลืออยู่ลงสนามเพื่อรับมือเชลซีแบบเต็มอัตราศึก ในเกมรุกจะฝากความหวังไว้ที่ เดวิด บรู้คส์, จัสติน ไคลเวิร์ต และ อองตวน เซเมนโย่ ซึ่งเป็นสามตัวรุกที่มีความเร็วและเทคนิค สามารถเล่นสวนกลับได้อันตราย ทั้งหมดจะคอยสนับสนุน เอวานิลซอน กองหน้าตัวเป้าที่ทำหน้าที่ยืนค้ำและหาจังหวะจบสกอร์ในกรอบเขตโทษ อย่างไรก็ดีจากฟอร์มช่วงหลังที่ทีมไม่ชนะใครมา 5 เกมติด แถมแพ้ถึง 4 แมตช์ ทำให้ความมั่นใจของแนวรุกและแนวรับต่างตกลงไปพร้อมกันอย่างน่าเป็นห่วง
ความพร้อมฝั่งเชลซี
ด้านทีมเยือนเชลซีของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า เองก็ไม่ได้สมบูรณ์เต็มร้อย เนื่องจากต้องขาดกำลังสำคัญหลายตำแหน่งเช่นกัน โดยเฉพาะในแดนกลางที่ไม่มี มอยเซส ไกเซโด้ กองกลางตัวตัดเกมที่ติดโทษแบนเป็นนัดที่สองจากสามนัด ทำให้สมดุลการตัดเกมหน้าแนวรับต้องปรับเปลี่ยนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นอกจากนี้ผู้เล่นที่อยู่ในลิสต์บาดเจ็บอย่าง ลีวาย โคลวิลล์, โรเมโอ ลาเวีย และ ดาริโอ เอสซูโก้ ก็ยังไม่พร้อมคืนสนาม รวมถึงกรณีของ มิไคโล มูดริค ที่โดนแบนยาวจากการใช้สารกระตุ้น ยิ่งทำให้ตัวเลือกในแนวรุกด้านกว้างลดลงไปอีก
ข่าวดีของแฟนบอลสิงห์บลูส์คือ โคล พาลเมอร์ เพลย์เมกเกอร์ตัวสำคัญมีลุ้นออกสตาร์ทเป็นตัวจริงอีกครั้งในเกมนี้ เพื่อผนึกกำลังในแนวรุกกับ เปโดร เนโต้ และ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ที่พร้อมจะใช้ความเร็วและการเลี้ยงกินตัวกดดันแนวรับบอร์นมัธ ทั้งสามจะทำหน้าที่ปั้นเกมและสนับสนุน ชูเอา เปโดร กองหน้าตัวเป้าที่จะเป็นตัวทีเด็ดในการจบสกอร์ในกรอบเขตโทษ ภาพรวมแม้เชลซีจะขาดผู้เล่นบางราย แต่ด้วยคุณภาพขุมกำลังที่เหลืออยู่ก็ยังถือว่าเหนือกว่าเจ้าบ้านพอสมควรทั้งในเชิงประสบการณ์และศักยภาพรายบุคคล
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดของทั้งสองทีม
11 ตัวจริง บอร์นมัธ (ระบบ 4-2-3-1)
| ตำแหน่ง | ผู้เล่น |
|---|---|
| ผู้รักษาประตู | ยอร์เย่ เปโตรวิช |
| กองหลัง | อเล็กซ์ ฆีเมเนซ, บาโฟเด้ ดิอากิเต้, มาร์กอส เซเนซี่, อาเดรียง ทรุฟแฟร์ |
| กองกลางตัวรับ | อเล็กซ์ สกอตต์, มาร์คัส เทเวอร์เนียร์ |
| กองกลางตัวรุก | เดวิด บรู้คส์, จัสติน ไคลเวิร์ต, อองตวน เซเมนโย่ |
| กองหน้า | เอวานิลซอน |
จากไลน์อัพที่คาดการณ์ของบอร์นมัธในระบบ 4-2-3-1 จะเห็นได้ว่าพวกเขายังต้องการเล่นด้วยโครงสร้างที่เน้นความสมดุลระหว่างเกมรุกและเกมรับ แผงหลังสี่คนที่นำโดย บาโฟเด้ ดิอากิเต้ และ มาร์กอส เซเนซี่ จะคอยดูแลพื้นที่หน้าปากประตู ร่วมกับฟูลแบ็กอย่าง อเล็กซ์ ฆีเมเนซ และ อาเดรียง ทรุฟแฟร์ ที่ต้องรับภารกิจทั้งเกมรับและเกมรุกริมเส้น ในแดนกลาง อเล็กซ์ สกอตต์ และ มาร์คัส เทเวอร์เนียร์ จะช่วยกันเชื่อมเกมจากหลังสู่หน้า โดยมีสามตัวรุก บรู้คส์, ไคลเวิร์ต และ เซเมนโย่ คอยสร้างสรรค์เกมสนับสนุน เอวานิลซอน ซึ่งต้องใช้โอกาสที่มีอย่างคุ้มค่าที่สุดเพื่อพาทีมกลับมามีแต้มให้ได้
11 ตัวจริง เชลซี (ระบบ 4-2-3-1)
| ตำแหน่ง | ผู้เล่น |
|---|---|
| ผู้รักษาประตู | โรเบิร์ต ซานเชซ |
| กองหลัง | มาโล กุสโต้, เวสเล่ย์ โฟฟาน่า, เทรโวห์ ชาโลบาห์, มาร์ก กูกูเรย่า |
| กองกลางตัวรับ | รีซ เจมส์, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ |
| กองกลางตัวรุก | เปโดร เนโต้, โคล พาลเมอร์, อเลฮานโดร การ์นาโช่ |
| กองหน้า | ชูเอา เปโดร |
ทางฝั่งเชลซีคาดว่าจะลงเล่นในระบบ 4-2-3-1 เช่นเดียวกัน โดยให้ โรเบิร์ต ซานเชซ ทำหน้าที่เฝ้าเสา แผงหลังประกอบด้วย มาโล กุสโต้ และ มาร์ก กูกูเรย่า ทำหน้าที่ฟูลแบ็กสองฝั่ง คอยเติมเกมรุกและช่วยเปิดบอลเข้ากรอบเขตโทษ ขณะที่คู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟอย่าง เวสเล่ย์ โฟฟาน่า และ เทรโวห์ ชาโลบาห์ จะคอยคุมพื้นที่กลางแนวรับให้เหนียวแน่น แดนกลางมี รีซ เจมส์ และ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ รับภาระคุมจังหวะเกม ตัดบอล และเชื่อมจากแนวรับขึ้นสู่แนวรุกอย่างเป็นระบบ
สำหรับแนวรุก เชลซีดูน่ากลัวเป็นพิเศษเมื่อได้ เปโดร เนโต้ และ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ยืนด้านข้าง พร้อมกับ โคล พาลเมอร์ ที่ทำหน้าที่เพลย์เมกเกอร์ตัวกลางคอยครีเอทจังหวะให้ ชูเอา เปโดร ในแดนหน้า การเคลื่อนที่สลับตำแหน่งของสามตัวรุกด้านหลังหน้าเป้า น่าจะสร้างความปั่นป่วนให้แนวรับบอร์นมัธได้อย่างมาก หากพวกเขาเล่นกันได้อย่างลงตัวและใช้โอกาสไม่เปลือง เชลซีย่อมมีโอกาสบุกมาเก็บสามแต้มได้ตามเป้าหมายที่วางเอาไว้
วิเคราะห์แท็กติก และรูปเกมที่คาดในคู่ บอร์นมัธ VS เชลซี
เชิงแท็กติกแล้ว บอร์นมัธของอิราโอล่ามักเน้นสไตล์การเล่นที่กล้าครองบอลและพยายามเพรสซิ่งสูงตั้งแต่แดนบน แต่ด้วยฟอร์มปัจจุบันที่เกมรุกขาดความเฉียบคมและแนวรับเสียประตูง่าย ทำให้คาดว่าในเกม บอร์นมัธ VS เชลซี นี้ อาจเห็นเจ้าบ้านเลือกเล่นอย่างระมัดระวังมากกว่าปกติ โดยพยายามแพ็กพื้นที่แดนกลางและหน้ากรอบเขตโทษแน่นๆ รอจังหวะสวนกลับจากความเร็วของไคลเวิร์ตและเซเมนโย่ เพื่อโจมตีช่องว่างด้านหลังฟูลแบ็กของทีมเยือนที่ดันสูงขึ้นมาช่วยเกมรุกอย่างต่อเนื่อง
ในฝั่งเชลซี มาเรสก้าคาดว่าจะให้ลูกทีมเน้นการครองบอลและบิลด์อัปจากแนวรับตามสไตล์ฟุตบอลสมัยใหม่ โดยมีกองกลางอย่างเอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ เป็นศูนย์กลางในการกระจายบอลไปยังพื้นที่ว่าง ควบคู่กับการวิ่งทำทางของแนวรุกทั้งสามตัวอย่าง เนโต้, พาลเมอร์ และ การ์นาโช่ เพื่อดึงแนวรับบอร์นมัธให้หลุดจากตำแหน่ง เมื่อบอร์นมัธถอยลงไปตั้งรับลึก ช่องว่างบริเวณหน้ากรอบเขตโทษและด้านข้างจะกลายเป็นพื้นที่สำคัญ ที่เชลซีสามารถใช้ความสามารถเฉพาะตัวของตัวรุกเข้าทำให้เกิดประตูได้ตลอดเวลา
จุดชี้เป็นชี้ตายของรูปเกมนี้อาจอยู่ที่ว่าบอร์นมัธจะสามารถยืนป้องกันเกมรุกของเชลซีได้นานแค่ไหน เพราะหากเสียประตูเร็ว ความมั่นใจที่มีอยู่น้อยอยู่แล้วอาจพังทลายลงอย่างรวดเร็วและนำไปสู่การเสียประตูต่อเนื่องเหมือนในหลายเกมที่ผ่านมา แต่หากเจ้าบ้านสามารถรักษาสกอร์ 0-0 ไว้ได้นาน ก็มีโอกาสลุ้นจากจังหวะผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ของแนวรับทีมเยือนเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบทั้งทรงบอลและความแน่นอนของการจบสกอร์แล้ว เชลซียังถูกมองว่าเหนือกว่าพอสมควรในเกมสำคัญนัดนี้
วิเคราะห์ราคาบอล และแนวทางสำหรับสายลงทุน
| คู่แข่งขัน | แฮนดิแคป | มุมมองเบื้องต้น |
|---|---|---|
| บอร์นมัธ VS เชลซี | เชลซี ต่อ 0-0.5 | เชลซีชนะกินเต็ม เสมอเสียครึ่ง |
อัตราต่อรองในเกมนี้เปิดมาให้เชลซีเป็นฝ่ายต่อ 0-0.5 หรือ ปป ซึ่งถือเป็นเรตที่ไม่ได้สูงจนเกินไปเมื่อเทียบกับคุณภาพทีมที่เหนือกว่าและฟอร์มล่าสุดของบอร์นมัธที่น่าเป็นห่วง ในแง่มุมของนักลงทุน การต่อราคาในระดับนี้หมายความว่าหากเชลซีสามารถบุกมาเก็บชัยชนะได้จะกินเต็มทันที แต่ถ้าจบด้วยผลเสมอฝั่งต่อก็เสียครึ่งหนึ่งของเงินเดิมพัน ซึ่งเมื่อเทียบกับความเสี่ยงและโอกาสที่ทั้งสองทีมจะทำได้ตามเป้าแล้ว หลายคนจึงมองว่าราคานี้เป็นจุดที่น่าสนใจสำหรับการถือหางทีมเยือนอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
เมื่อพิจารณาจากฟอร์มในช่วงหลังของบอร์นมัธที่ไม่ชนะใครมา 5 นัดติดต่อกันและเป็นความพ่ายแพ้ถึง 4 นัด พร้อมทั้งปัญหาด้านสภาพทีมที่ขาดทั้งตัวหลักจากอาการบาดเจ็บและโทษแบน ทำให้คุณภาพในการยืนระยะ 90 นาทีลดลงไปพอสมควร ตรงกันข้ามกับเชลซีที่แม้จะมีปัญหาผู้เล่นหายไปเช่นกัน แต่โครงสร้างหลักของทีมยังเต็มไปด้วยนักเตะที่มีศักยภาพสูง ทั้งในเกมริมเส้นและการจบสกอร์ จึงไม่ใช่เรื่องเกินจริงนักหากจะเชื่อว่าทีมเยือนจะสามารถบุกมาคว้าชัยและผ่านเรตต่อ 0-0.5 ไปได้สำเร็จ
ในมุมมองของจำนวนประตูรวม เกม บอร์นมัธ VS เชลซี มีโอกาสออกได้ทั้งแบบสกอร์ค่อนข้างสูงหากเชลซีเครื่องร้อนเร็ว หรืออาจเป็นเกมที่ตึงเครียดพอสมควรหากเจ้าบ้านเน้นรับเหนียวและรอจังหวะสวนกลับ อย่างไรก็ดี จากรูปแบบเกมรับของบอร์นมัธที่มักเสียประตูง่ายเมื่อโดนบุกกดดันต่อเนื่อง ทำให้มีความเป็นไปได้ที่สกอร์อาจไหลไปแตะระดับสองถึงสามประตูขึ้นไป ซึ่งจะต้องไปดูราคาสูงต่ำที่เปิดมาจริงอีกครั้งว่าคุ้มค่ากับความเสี่ยงมากน้อยเพียงใดก่อนตัดสินใจ
ฟันธงผลบอล และทีเด็ดบอลคู่ บอร์นมัธ VS เชลซี
เมื่อนำทุกปัจจัยมารวมกันไม่ว่าจะเป็นสถิติการพบกัน ฟอร์มปัจจุบัน ขุมกำลังที่พร้อมใช้งาน และแรงจูงใจของทั้งสองทีมแล้ว ต้องยอมรับว่าเชลซีดูมีภาษีเหนือกว่าบอร์นมัธค่อนข้างชัดเจน ทั้งในแง่คุณภาพนักเตะ การเข้าทำที่หลากหลาย และการอ่านเกมของกุนซือ แม้การมาเล่นในฐานะทีมเยือนที่ไวตาลิตี้ สเตเดี้ยมจะไม่ใช่งานง่าย แต่เมื่อมองจากผลงานเจ้าบ้านที่กำลังเมาหมัดและความไม่แน่นอนของเกมรับ โอกาสที่เชลซีจะใช้ความเฉียบขาดของแนวรุกปิดบัญชีคว้าสามคะแนนกลับลอนดอนจึงดูมีน้ำหนักมากกว่าอย่างเห็นได้ชัดในสายตานักวิเคราะห์จำนวนไม่น้อย
สกอร์ที่คาดสำหรับเกมนี้จึงโน้มเอียงไปในทิศทางที่เชลซีจะเป็นฝ่ายเบียดเก็บชัยชนะได้สำเร็จ โดยมีโอกาสสูงที่จะจบลงด้วยผลต่างอย่างน้อยหนึ่งประตู เช่น บอร์นมัธ แพ้ เชลซี 0-1 หรือ 1-2 ซึ่งไม่เพียงแต่เพียงพอให้ทีมเยือนเดินหน้าต่อในเส้นทางลุ้นพื้นที่บนหัวตาราง แต่ยังตอบโจทย์ในมุมของเรตต่อ 0-0.5 ที่ฝั่งเชลซีถืออยู่ด้วย ดังนั้นหากมองในมุมของทีเด็ดบอลเต็ง คู่ บอร์นมัธ VS เชลซี เกมนี้จึงยังคงแนะนำให้อยู่ฝั่งต่อทีมเยือนมากกาวางใจเจ้าบ้านที่ฟอร์มดร็อปลงอย่างเห็นได้ชัด
บทสรุปภาพรวมก่อนเกม บอร์นมัธ VS เชลซี
โดยภาพรวมแล้ว เกมระหว่างบอร์นมัธ VS เชลซี คือการดวลกันของทีมที่กำลังมองหาจุดเปลี่ยนในฤดูกาลเหมือนกัน แต่ยืนกันอยู่คนละฝั่งของความเชื่อมั่น บอร์นมัธในฐานะเจ้าถิ่นต้องพยายามใช้เสียงเชียร์ของแฟนบอลในสนามเป็นพลังขับเคลื่อนเพื่อหยุดยั้งความพ่ายแพ้ต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม การขาดตัวหลักหลายคนในแดนกลางและแนวรุกทำให้การสร้างเกมดูติดขัดและขาดความเฉียบคมเมื่อถึงจังหวะสุดท้าย ซึ่งเป็นจุดที่พวกเขาจำเป็นต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วนหากหวังจะมีลุ้นแบ่งแต้มจากคู่แข่งที่แข็งแกร่งกว่าอย่างเชลซี
ในขณะที่เชลซี แม้จะยังไม่ใช่ทีมที่สมบูรณ์แบบไร้จุดอ่อน แต่การมาของผู้เล่นตัวรุกฝีเท้าจัดอย่าง เปโดร เนโต้, การ์นาโช่ และ พาลเมอร์ ช่วยเติมมิติให้กับเกมบุกของทีมได้อย่างชัดเจน บวกกับการอ่านเกมของมาเรสก้าที่ค่อยๆ ทำให้โครงสร้างทีมลงตัวมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อรวมเข้ากับความได้เปรียบด้านคุณภาพผู้เล่นและสภาพจิตใจที่ดูสดกว่าฝั่งเจ้าบ้าน จึงไม่น่าแปลกใจที่หลายสำนักมองไปในทิศทางเดียวกันว่า เกมนี้โอกาสที่เชลซีจะบุกมาคว้าชัยมีมากกว่า และแฟนบอลก็เตรียมตัวลุ้นกันได้อย่างสนุกตลอด 90 นาทีของศึกเดือดที่ไวตาลิตี้ สเตเดี้ยมครั้งนี้
