ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 6 คู่บิ๊กแมตช์ระหว่าง เรอัล มาดริด vs แมนฯ ซิตี้ ถือเป็นเกมที่แฟนบอลทั่วโลกจับตามองอย่างใกล้ชิด เพราะนอกจากจะเป็นการเผชิญหน้ากันของสองทีมยักษ์ใหญ่แห่งยุโรปแล้ว ยังเป็นเกมที่อาจมีผลต่อเส้นทางสโมสรในรายการนี้อย่างชัดเจน ทั้งในมุมของอันดับกลุ่ม รวมถึงความมั่นใจของนักเตะและกุนซือ ซึ่งในสถานการณ์ปัจจุบัน เรอัล มาดริด กำลังเผชิญปัญหาทั้งเรื่องสภาพทีมและบรรยากาศภายใน ขณะที่ แมนฯ ซิตี้ ฟอร์มร้อนแรงในลีกและดูมีเสถียรภาพมากกว่า จึงทำให้เกมนี้เต็มไปด้วยประเด็นให้วิเคราะห์อย่างแท้จริง
ในภาพรวมของแมตช์ เรอัล มาดริด vs แมนฯ ซิตี้ เราจะได้เห็นการปะทะกันของสไตล์ฟุตบอลที่ต่างขั้ว ทั้งเกมรุกที่จัดจ้านและการครองบอลอย่างเป็นระบบของทีมเยือน ปะทะเข้ากับความเกรี้ยวกราดและแพสชั่นของแฟนบอลในซานติอาร์โก้ เบร์นาเบว รวมถึงคุณภาพนักเตะระดับโลกทั้งสองฝ่าย บทวิเคราะห์นี้จะพาไปเจาะลึกทุกมิติ ตั้งแต่ข้อมูลการแข่งขัน สถิติการเจอกัน ฟอร์มล่าสุด สภาพความพร้อมตัวผู้เล่น แท็กติกที่คาดว่าจะใช้ ไปจนถึงทีเด็ดและแนวทางการลงทุนสำหรับสายเดิมพันที่ต้องการข้อมูลเชิงลึกก่อนตัดสินใจ
ข้อมูลการแข่งขัน เรอัล มาดริด vs แมนฯ ซิตี้
เกมนี้เป็นการแข่งขันฟุตบอลรายการยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 6 ซึ่งถือเป็นช่วงโค้งสุดท้ายของการต่อสู้เพื่อแย่งอันดับในกลุ่ม โดยคู่ เรอัล มาดริด vs แมนฯ ซิตี้ จะลงฟาดแข้งกันที่สนามซานติอาร์โก้ เบร์นาเบว รังเหย้าสุดขลังของทัพราชันชุดขาว ท่ามกลางบรรยากาศกดดันและเสียงเชียร์อันดังกึกก้องของแฟนเจ้าถิ่น ขณะที่เวลาแข่งขันตามเวลาในประเทศไทยจะเริ่มในช่วงดึก เวลา 03.00 น. ทำให้เป็นอีกหนึ่งเกมที่คอบอลขาประจำต้องเตรียมตัวลุ้นกันแบบยาวๆ ตลอดค่ำคืน
| รายการ | คู่แข่งขัน | สนาม | เวลาแข่งขัน | อัตราต่อรอง |
|---|---|---|---|---|
| ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 6 | เรอัล มาดริด vs แมนฯ ซิตี้ | ซานติอาร์โก้ เบร์นาเบว | 03.00 น. (เวลาประเทศไทย) | แมนฯ ซิตี้ ต่อ 0 |
จากมุมมองของราคาต่อรองที่เปิดมา “แมนฯ ซิตี้ ต่อ 0” หรือราคาเสมอ แสดงให้เห็นว่าบ่อนรับพนันยังมองภาพรวมทีมเยือนในแง่ที่ดีกว่าเล็กน้อย แม้จะต้องบุกมาเยือนถิ่นที่ขึ้นชื่อว่าโหดที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรปอย่าง เบร์นาเบว ก็ตาม ขณะเดียวกันตัวเลขนี้ยังบอกเป็นนัยว่ารูปเกมอาจสูสีสูง และมีโอกาสออกได้ทั้งสามหน้า แต่เมื่อมองในเชิงการลงทุน หากต้องเลือกข้างอย่างจริงจัง ราคานี้ถือว่าเปิดมาในมุมที่น่าคิดมากทีเดียว
สถิติการพบกัน 5 นัดหลังสุดของทั้งสองทีม
หากมองย้อนกลับไปที่สถิติการพบกันของ เรอัล มาดริด vs แมนฯ ซิตี้ ในช่วงหลัง จะเห็นได้ชัดว่าทั้งสองทีมต่างผลัดกันแพ้ชนะแบบไม่เกรงใจอีกฝ่าย และมักจะเป็นเกมที่เปิดหน้าแลกกันอย่างสนุก มีประตูเกิดขึ้นจำนวนมากจนแฟนบอลแทบไม่ได้นั่งติดเก้าอี้ สถิติที่สูสีเช่นนี้ทำให้การคาดเดาผลลัพธ์ในค่ำคืนนี้ยิ่งท้าทาย เพราะไม่มีฝ่ายใดที่เหนือกว่ากันแบบขาดลอยในอดีตที่ผ่านมา
| วันที่ | คู่แข่งขัน | ผลการแข่งขัน |
|---|---|---|
| 20/02/25 | เรอัล มาดริด vs แมนฯ ซิตี้ | เรอัล มาดริด ชนะ 3-1 |
| 12/02/25 | แมนฯ ซิตี้ vs เรอัล มาดริด | แมนฯ ซิตี้ แพ้ 2-3 |
| 18/04/24 | แมนฯ ซิตี้ vs เรอัล มาดริด | เสมอ 1-1 |
| 10/04/24 | เรอัล มาดริด vs แมนฯ ซิตี้ | เสมอ 3-3 |
| 18/05/23 | แมนฯ ซิตี้ vs เรอัล มาดริด | แมนฯ ซิตี้ ชนะ 4-0 |
จากสถิติ 5 นัดหลังสุดจะเห็นว่าทั้งสองทีมผลัดกันแพ้ชนะและเสมออย่างสูสี โดยมีเพียงเกมเดียวที่ผลออกมาขาดคือการที่ แมนฯ ซิตี้ เปิดบ้านถล่ม เรอัล มาดริด 4-0 ขณะที่เกมอื่นๆ มักจบลงด้วยสกอร์ที่สูงและมีประตูเกิดขึ้นหลายลูก สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่าทั้งสองทีมต่างกล้าเล่น กล้าเปิดเกมรุกใส่กันแบบไม่มีกั๊ก และมักไม่เลือกเล่นแบบระมัดระวังเกินไปเมื่อพบกันในถ้วยยุโรป จึงมีแนวโน้มว่าแมตช์นี้ก็น่าจะเป็นอีกเกมที่แฟนบอลได้ชมฟุตบอลเกมรุกสนุกตื่นเต้นตลอด 90 นาที
ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้งสองทีม
ฟอร์มการเล่นในช่วงหลังของ เรอัล มาดริด ถือว่ามีทั้งจุดที่น่าชื่นชมและจุดที่น่ากังวลในเวลาเดียวกัน ด้านหนึ่งพวกเขายังมีศักยภาพเชิงเกมรุกที่ดี สามารถสร้างสรรค์โอกาสทำประตูได้ตลอดทั้งเกมจากการขับเคลื่อนของแนวรุกตัวเก่ง แต่ในอีกด้านหนึ่งปัญหาในแนวรับและสภาพจิตใจของนักเตะกลับถูกตั้งคำถามอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อเริ่มมีข่าวว่าบรรยากาศในห้องแต่งตัวไม่ดีนัก ทำให้ผลงานบางนัดสะดุดในช่วงสำคัญ และทำให้แฟนบอลไม่มั่นใจเท่าที่ควรเมื่อทีมต้องเจอคู่แข่งระดับท็อปอย่าง แมนฯ ซิตี้
ในทางกลับกัน แมนฯ ซิตี้ กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มดีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผลงานในลีกที่คว้าชัยชนะมาได้ 3 นัดติด สร้างความเชื่อมั่นในแนวทางการเล่นและจังหวะการเข้าทำที่เฉียบคมขึ้นเรื่อยๆ เกมรุกของพวกเขาทำงานกันได้อย่างไหลลื่นทั้งจากจังหวะเข้าทำทางด้านข้าง การประสานงานระหว่างแนวรุก และจังหวะจบสกอร์ของ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ที่ยังคงไว้ใจได้เสมอ ขณะเดียวกัน ฟิล โฟเด้น ก็อยู่ในฟอร์มโดดเด่น ทำให้ แมนฯ ซิตี้ กลายเป็นทีมที่พร้อมลงโทษทุกความผิดพลาดของคู่แข่งในวินาทีสำคัญได้ตลอดเวลา
ความพร้อมก่อนเกมและอัปเดตสภาพทีม
ความพร้อมของ เรอัล มาดริด ในเกมสำคัญอย่าง เรอัล มาดริด vs แมนฯ ซิตี้ ครั้งนี้จัดว่าน่าเป็นห่วงไม่น้อย เมื่อ ชาบี อลอนโซ่ ต้องเผชิญปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหลายราย ไม่ว่าจะเป็น ดีน เฮาจ์เซ่น, ดาวิด อลาบา, เอแดร์ มิลิเตา, ดานี่ การ์บาฆาล, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ และ แฟร์กล็องด์ เมนดี้ ซึ่งล้วนเป็นผู้เล่นที่สามารถยกระดับเกมรับของทีมได้ทั้งสิ้น
สถานการณ์ยิ่งตึงเครียดขึ้นไปอีกเมื่อมีรายงานว่า เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า และ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ พลาดการซ้อมในช่วงล่าสุด และมีโอกาสสูงที่จะหมดสิทธิ์ลงสนาม ทำให้สมดุลในแดนกลางและความอันตรายในแดนหน้าลดลงไปอย่างเห็นได้ชัด
ฝั่ง แมนฯ ซิตี้ เองก็มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บให้ต้องคิดเช่นกัน แต่ภาพรวมถือว่าเบากว่าทีมเจ้าถิ่นพอสมควร โดย เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะหมดสิทธิ์ใช้งาน มาเตโอ โควาซิซ แน่นอน ส่วน โรดรี้ ยังต้องรอประเมินความฟิตอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ด้วยความลึกของขุมกำลังและคุณภาพของผู้เล่นที่สามารถสลับหมุนเวียนลงสนามได้โดยไม่ทำให้โครงสร้างทีมเสียหาย ทำให้คาดว่า ซิตี้ น่าจะยังส่งแกนหลักที่พร้อมที่สุดลงสนาม ไม่ว่าจะเป็น จานลุยจิ ดอนนารุมม่า, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, ฟิล โฟเด้น และ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ซึ่งล้วนเป็นตัวแปรสำคัญในการตัดสินเกมนี้ทั้งสิ้น
คาดการณ์ 11 ผู้เล่นตัวจริงและระบบการเล่น
ในมุมของ เรอัล มาดริด เชื่อว่า ชาบี อลอนโซ่ ยังยึดระบบ 4-3-1-2 ที่คุ้นเคย เน้นการคุมแดนกลางและใช้เพลย์เมคเกอร์สอดขึ้นไปช่วยแนวรุก โดยคาดว่าจะส่ง ติโบต์ กูร์กตัวส์ เฝ้าเสา แผงแบ็กโฟร์ประกอบด้วย เฟเดรีโก้ วัลเวร์เด้, ราอูล อาเซนซีโอ, อันโตนิโอ รูดิเกอร์ และ อัลบาโร่ การ์เรราส ขณะที่แดนกลางให้ เอดูดาเนี่ยล เซบายอส, โอเรเลียง ชูอาเมนี่ และ อาร์ดา กูเลอร์ เดินเกมร่วมกัน พร้อมกับใช้ จูด เบลลิงแฮม ยืนหน้าต่ำคอยเชื่อมเกมร่วมกับคู่กองหน้าอย่าง โรดริโก้ โกเอส และ วินิซิอุส จูเนียร์ ซึ่งต้องทำหน้าที่จบสกอร์อย่างเฉียบขาดในจังหวะสำคัญ
ด้าน แมนฯ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า น่าจะใช้ระบบ 4-3-3 ตามสไตล์ถนัด เน้นการครองบอลและเติมเกมรุกจากแนวลึก โดยคาดหมาย 11 ตัวจริงว่า จานลุยจิ ดอนนารุมม่า จะได้ยืนเฝ้าเสา แนวรับประกอบไปด้วย มาเธอุส นูเนส, จอห์น สโตนส์, ยอชโก้ กวาร์ดิโอล และ นิโก้ โอไรลี่ย์ แดนกลางจัด แบร์นาร์โด้ ซิลวา, นีโก้ กอนซาเลซ และ ทิยานี่ ไรน์เดอร์ส ทำเกม ขณะที่แนวรุกสามประสานวาง ซาวินโญ่ และ ฟิล โฟเด้น ทำเกมด้านข้างสนับสนุน เออร์ลิง ฮาลันด์ ที่จะคอยยืนเป็นหัวหอกตัวจบสกอร์ในกรอบเขตโทษ
วิเคราะห์แท็กติกและจุดเด่น–จุดอ่อนของทั้งสองทีม
แท็กติกของ เรอัล มาดริด ในเกมใหญ่เช่น เรอัล มาดริด vs แมนฯ ซิตี้ มักเน้นการผสมผสานระหว่างความสามารถเฉพาะตัวของแนวรุกกับการวิ่งทำทางที่ฉลาดของผู้เล่นแดนกลาง โดยเฉพาะเวลาได้เล่นในบ้าน พวกเขามักจะพยายามบีบเกมสูงในช่วงต้นเพื่อกดดันคู่แข่งและสร้างโอกาสจากความผิดพลาด ทว่าสภาพทีมที่ไม่สมบูรณ์ โดยเฉพาะในแนวรับ ซึ่งขาดตัวหลักหลายราย อาจทำให้การยืนโซนและการดวลตัวต่อตัวในแดนหลังมีช่องโหว่ให้โจมตีง่ายขึ้น และถ้าหากไม่มี เอ็มบัปเป้ ลงสนามจริงๆ ความหลากหลายในการเข้าทำและความเร็วในจังหวะสวนกลับก็จะลดลงไปมาก
ฝั่ง แมนฯ ซิตี้ เป็นทีมที่มีเอกลักษณ์ชัดเจนในเรื่องการครองบอลและการเคลื่อนที่โดยไม่ต้องใช้บอล นักเตะทุกคนเข้าใจบทบาทของตนเองในระบบของ เป๊ป เป็นอย่างดี เมื่อถึงเวลาเข้าทำพวกเขาสามารถสลับตำแหน่งกันได้อย่างลื่นไหล ทำให้แนวรับคู่แข่งตามประกบได้ยาก จุดเด่นสำคัญอยู่ที่การประสานงานระหว่างแนวรุกและแดนกลางซึ่งช่วยสร้างพื้นที่ให้ ฮาลันด์ มีโอกาสจบสกอร์ในกรอบเขตโทษอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม การโรเตชั่นตัวผู้เล่นบางตำแหน่งก็อาจทำให้ทีมเสียจังหวะไปบ้าง หากนักเตะบางคนยังจูนกันไม่ติดในช่วงเริ่มเกม
ปัจจัยนอกสนามและบรรยากาศภายในทีม
อีกหนึ่งประเด็นที่ไม่อาจมองข้ามในการวิเคราะห์เกม เรอัล มาดริด vs แมนฯ ซิตี้ คือปัจจัยนอกสนาม โดยเฉพาะบรรยากาศภายในทีมเจ้าถิ่นที่มีข่าวลือออกมาต่อเนื่องว่าความสัมพันธ์ระหว่างนักเตะบางส่วนกับ ชาบี อลอนโซ่ ไม่ราบรื่นเท่าที่ควร การที่สื่อรายงานว่าเกมนี้อาจเป็นหนึ่งในแมตช์ชี้ชะตาอนาคตของกุนซือ หากผลงานออกมาเลวร้ายจนพ่ายคาบ้าน ยิ่งทำให้บรรยากาศรอบทีมเต็มไปด้วยแรงกดดัน ที่อาจส่งผลต่อสมาธิและความนิ่งของผู้เล่นในสถานการณ์สำคัญ ซึ่งต่างจาก แมนฯ ซิตี้ ที่ภาพรวมในห้องแต่งตัวดูนิ่งกว่า และมีความเชื่อมั่นในแนวทางของกุนซือมากกว่าอย่างชัดเจน
วิเคราะห์ภาพรวมเกมและแนวโน้มผลการแข่งขัน
เมื่อรวบรวมปัจจัยทั้งหมดทั้งสถิติ ฟอร์มการเล่น สภาพทีม และบรรยากาศในห้องแต่งตัว จะเห็นว่าภาพรวมของ เรอัล มาดริด vs แมนฯ ซิตี้ อาจเอนเอียงไปทางทีมเยือนเล็กน้อย แม้ เรอัล มาดริด จะได้เปรียบในเรื่องเสียงเชียร์จากแฟนบอลและประสบการณ์ในเกมยุโรประดับสูง แต่การขาดผู้เล่นตัวหลักหลายตำแหน่ง โดยเฉพาะในแนวรับและแนวรุก ทำให้คุณภาพโดยรวมลดลง ส่วน แมนฯ ซิตี้ กำลังอยู่ในช่วงมั่นใจ เกมรุกลงตัว และมีตัวจบสกอร์สม่ำเสมออย่าง ฮาลันด์ คอยปิดบัญชี เมื่อเจอกับแนวรับที่ไม่สมบูรณ์ โอกาสที่ทีมเยือนจะอาศัยจังหวะคมๆ ลงโทษก็มีค่อนข้างสูง
ทีเด็ดบอลวันนี้และฟันธงสกอร์
ในมุมของราคาต่อรองที่เปิดมาให้ แมนฯ ซิตี้ ต่อ 0 ถือเป็นเรตที่น่าคบหาอย่างยิ่งสำหรับคนที่มองว่าโอกาสของทีมเยือนอย่างน้อยคือการไม่แพ้ และมีลุ้นถึงขั้นบุกชนะได้ จากรูปเกมที่คาดว่าน่าจะเป็นซิตี้ที่ครองบอลบุกกดดันได้มากกว่า ส่วน เรอัล มาดริด จะรอจังหวะสวนกลับและใช้จังหวะผิดพลาดของคู่แข่งเป็นหลัก ดังนั้นหากมองในภาพรวม ทีเด็ดของเกมนี้จึงชี้ไปที่ แมนฯ ซิตี้ ที่มีความต่อเนื่องและความมั่นคงในผลงานมากกว่า หากเจ้าถิ่นไม่มี เอ็มบัปเป้ ลงสนาม โอกาสในการผลิตสกอร์ก็จะลดลงชัดเจน และเพิ่มน้ำหนักไปที่ทีมเยือนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
สกอร์ที่คาดในเกม เรอัล มาดริด vs แมนฯ ซิตี้ มีแนวโน้มจะออกมาในรูปแบบเกมที่มีประตูเกิดขึ้นพอสมควร จากสถิติที่ผ่านมาเมื่อทั้งสองทีมเจอกันมักไม่จบด้วยสกอร์ต่ำ ดังนั้นจึงพอคาดหวังสกอร์ในระดับ 2–3 ประตูขึ้นไป โดยหนึ่งในผลลัพธ์ที่มีโอกาสเป็นไปได้คือ เรอัล มาดริด แพ้ แมนฯ ซิตี้ 1-2 ซึ่งสะท้อนทั้งความสามารถในการบุกของทีมเยือนและศักยภาพการเล่นในบ้านของราชันชุดขาวที่ยังสามารถยิงคืนได้เช่นกัน แต่เมื่อเทียบกันแบบตัวต่อตัวแล้ว ความแน่นอนในพื้นที่สุดท้ายของซิตี้ดูดีกว่าเล็กน้อย
มุมมองการลงทุนและการจัดการความเสี่ยง
สำหรับคอบอลสายลงทุน เกม เรอัล มาดริด vs แมนฯ ซิตี้ ถือเป็นอีกคู่ที่ต้องใช้ข้อมูลและการวิเคราะห์อย่างระมัดระวัง เพราะตัวแปรของเกมมีอยู่หลายด้าน ทั้งปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บของเจ้าบ้าน ความกดดันเรื่องเก้าอี้กุนซือ และฟอร์มอันร้อนแรงของทีมเยือน ดังนั้นหากจะถือหางไปทาง แมนฯ ซิตี้ ในราคาเสมอ ควรกำหนดงบประมาณการเล่นให้ชัดเจน ไม่ทบไม้เกินตัว และเล่นในจำนวนที่ยอมรับความเสี่ยงได้ ขณะเดียวกันสำหรับสายสกอร์รวม การมองไปที่สูงประตูรวมก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะรูปเกมของทั้งสองทีมเมื่อเจอกันมักไม่ค่อยจบลงด้วยสกอร์ต่ำ อย่างไรก็ดี ทุกการตัดสินใจควรอยู่บนหลักการเล่นอย่างมีสติเป็นสำคัญ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับแมตช์ เรอัล มาดริด vs แมนฯ ซิตี้
เรอัล มาดริด vs แมนฯ ซิตี้ แข่งขันเวลาไหน และแฟนบอลไทยรับชมช่วงใด
เกมระหว่าง เรอัล มาดริด vs แมนฯ ซิตี้ ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 6 จะลงฟาดแข้งกันที่สนามซานติอาร์โก้ เบร์นาเบว โดยเวลาแข่งขันตามท้องถิ่นยุโรปจะถูกปรับมาเป็นเวลา 03.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งถือเป็นช่วงดึกของคืนวันแข่งขัน แฟนบอลชาวไทยที่ต้องการตามเชียร์แบบสดๆ อาจต้องเตรียมตัวพักผ่อนให้ดีล่วงหน้า เพื่อให้สามารถลุ้นเกมได้ครบ 90 นาทีโดยไม่หลับก่อนจบเกมอันแสนเข้มข้น
สภาพความพร้อมของ เรอัล มาดริด ก่อนพบ แมนฯ ซิตี้ เป็นอย่างไร
สภาพความพร้อมของ เรอัล มาดริด ก่อนเปิดบ้านรับมือ แมนฯ ซิตี้ จัดว่าไม่สมบูรณ์เท่าที่ควร เมื่อมีทั้งผู้เล่นตัวหลักในแนวรับและนักเตะแกนสำคัญในแดนกลางบาดเจ็บพร้อมกันหลายราย ทำให้ ชาบี อลอนโซ่ ต้องปวดหัวกับการจัดตัวและอาจต้องใช้นักเตะสำรองลงสนามมากขึ้น นอกจากนี้การที่ คามาวิงก้า และ เอ็มบัปเป้ มีอาการไม่พร้อมลงซ้อมเต็มรูปแบบก็ยิ่งสร้างความกังวล เพราะทั้งสองรายมีบทบาทสำคัญต่อความสมดุลและความอันตรายในเกมรุกของทีมอย่างมาก
ฟอร์มของ แมนฯ ซิตี้ ช่วงหลังดีพอจะบุกชนะในถิ่นเบร์นาเบวหรือไม่
ผลงานในช่วงหลังของ แมนฯ ซิตี้ โดยเฉพาะในลีกที่สามารถเก็บชัยชนะได้ต่อเนื่องถึง 3 นัด ทำให้พวกเขาเดินทางมาเยือนซานติอาร์โก้ เบร์นาเบว ด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม เกมรุกของทีมมีความลงตัวจากการประสานงานกันของ ฟิล โฟเด้น, แบร์นาร์โด้ ซิลวา และ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ซึ่งล้วนแล้วแต่มีความเฉียบคมในพื้นที่สุดท้าย ดังนั้นแม้จะต้องเจอกับบรรยากาศสุดกดดันในบ้านเรอัล มาดริด แต่เมื่อมองจากฟอร์มและสภาพทีมโดยรวมแล้ว ซิตี้ มีศักยภาพมากพอที่จะบุกมาเก็บผลการแข่งขันที่ต้องการได้
โอกาสที่เกม เรอัล มาดริด vs แมนฯ ซิตี้ จะออกสกอร์สูงมีมากน้อยเพียงใด
เมื่อพิจารณาจากสถิติการพบกันของ เรอัล มาดริด vs แมนฯ ซิตี้ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จะพบว่าทั้งสองทีมมักเปิดเกมรุกแลกกันอย่างดุเดือดและมีประตูเกิดขึ้นมากกว่าสองลูกอยู่บ่อยครั้ง ทำให้โอกาสที่เกมนี้จะออกสกอร์สูงถือว่าน่าสนใจไม่น้อย อีกทั้งสไตล์การเล่นของทั้งคู่ที่เน้นเกมบุก และคุณภาพแนวรุกที่สามารถสร้างสรรค์โอกาสได้หลากหลายรูปแบบ ล้วนส่งสัญญาณว่าแฟนบอลมีโอกาสได้ชมเกมที่เต็มไปด้วยจังหวะลุ้นทำประตูตลอดทั้งเกม
ทำไมหลายสำนักให้ แมนฯ ซิตี้ ดูเหนือกว่าเล็กน้อยในเกมนี้
เหตุผลที่หลายสำนักวิเคราะห์ไปในทิศทางเดียวกันว่า แมนฯ ซิตี้ ดูมีภาษีเหนือกว่าเล็กน้อยในแมตช์นี้ มาจากการผสมผสานของหลายปัจจัย ทั้งฟอร์มการเล่นที่คงเส้นคงวามากกว่า สภาพทีมที่พร้อมกว่า และบรรยากาศในห้องแต่งตัวที่ดูนิ่งกว่าเรอัล มาดริด ที่กำลังเผชิญแรงกดดันและข่าวลือเกี่ยวกับอนาคตของกุนซือ นอกจากนี้ ระบบการเล่นของซิตี้ยังเหมาะกับการเจอคู่แข่งที่แนวรับไม่สมบูรณ์ เพราะสามารถใช้ความแม่นยำของการจ่ายบอลและความเฉียบขาดในเขตโทษของ ฮาลันด์ ลงโทษความผิดพลาดได้ทุกเมื่อ
สรุปภาพรวมและความน่าเชียร์ในเกมนี้
โดยสรุปแล้ว เกมบิ๊กแมตช์ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ระหว่าง เรอัล มาดริด vs แมนฯ ซิตี้ ครั้งนี้ เป็นการเจอกันของสองยักษ์ใหญ่ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและความกดดันทั้งในและนอกสนาม ฝั่งเจ้าบ้านได้เปรียบเรื่องเสียงเชียร์และประสบการณ์ในเวทีนี้ แต่ต้องเผชิญกับปัญหาสภาพทีมและบรรยากาศภายใน
ขณะที่ทีมเยือนมาด้วยฟอร์มที่มั่นคง แท็กติกลงตัว และมีตัวทีเด็ดในแดนหน้าอย่าง ฮาลันด์ กับ โฟเด้น ที่พร้อมลงโทษทุกความผิดพลาด ดังนั้นหากมองในเชิงความน่าเชียร์และความเสี่ยงต่อการลงทุนแล้ว การถือหาง แมนฯ ซิตี้ ฝั่งทีมเยือนในราคาเสมอ จึงเป็นตัวเลือกที่ดูมีน้ำหนักและสมเหตุสมผลมากที่สุดในค่ำคืนนี้
