ศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ ประจำวันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 ณ เวทีมวยนานาชาติรังสิต จ.ปทุมธานี ถือเป็นหนึ่งในรายการที่แฟนมวยให้ความสนใจมากที่สุดในช่วงปลายปี เนื่องจากเป็นเวทีที่รวบรวมสุดยอดนักมวยดาวรุ่งและมวยคุณภาพจากค่ายดังทั่วประเทศ โดยรายการนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นศึกที่มีความดุดัน อาวุธหนัก และนักชกหลายรายมีสไตล์บู๊ที่พร้อมแลกในทุกจังหวะ การแข่งขันวันนี้มีทั้งหมด 10 คู่ ตั้งแต่พิกัดเล็กไปจนถึงรุ่นใหญ่ ซึ่งผลชั่งน้ำหนักถือว่าน่าสนใจอย่างมาก บางคู่ลดเยอะ บางคู่ชั่งพอดี บางคู่ขาดเล็กน้อย ทำให้รูปแบบเกมน่าจะพลิกได้ทุกยกและอาจมีเซอร์ไพรส์หลายคู่ บรรยากาศโดยรวมของรายการนี้คาดว่าจะเข้มข้นตั้งแต่คู่เปิดหัวจนถึงคู่ปิดท้ายแบบไม่ให้แฟนมวยได้พักสายตาแน่นอน

โปรแกรมมวยศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ 18 พฤศจิกายน 2568 – วิเคราะห์คู่มวยครบ 10 คู่ จากเวทีมวยนานาชาติรังสิต

ตารางโปรแกรม ศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ 18 พฤศจิกายน 2568

คู่ที่ ฝ่ายแดง ฝ่ายน้ำเงิน พิกัด ชั่งได้ (แดง) ชั่งได้ (น้ำเงิน)
1 วุฒิไกร บูมเด็กเซียน พลล้าน ศิษย์กุญชร 103 ปอนด์ 103.0 103.0
2 ขวัญใจ เกียรติชัยยุทธ ก้องทัพ ดาบทิตบางรัก 102 ปอนด์ 102.0 100.0
3 ล้านกล้า เกียรติชัยยุทธ ฉัตรเงินเล็ก ปานนิวัฒน์ 115 ปอนด์ 113.8 114.7
4 ศรีมาลัย เพชรเจริญวิทย์ พยัคฆ์ตะวัน สามารถพยัคฆ์อรุณ 116 ปอนด์ 115.0 115.5
5 เปรมอนันต์ ศูนย์กีฬากุดฉิม ใจเพชร ศิษย์ออสก้า 125 ปอนด์ 125.0 123.0
6 เพชรรุ้งไฟ ส.แสงนารายณ์ กรวิทย์เล็ก ปานนิวัฒน์ 42.5 กก. 42.3 42.5
7 ฉัตรเงินน้อย ปานนิวัฒน์ ก๊อก19 ศิษย์วัชรชัย 35 กก. 34.8 35.0
8 ธูปทอง แดงรถดี เหลี่ยมเพชร ท.เทพซุนกวน 40 กก. 39.9 40.0
9 หงส์เพชรเล็ก ช.ชนะสิงห์ สิงห์บารมี ธ.ธนินวัฒน์ 37.5 กก. 37.3 37.3
10 โคตรเจ๋ง ศิษย์วัชรชัย กังวาลเล็ก ก.วุฒิชัย 38.5 กก. 38.4 38.5

วิเคราะห์คู่มวย ศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ 18 พฤศจิกายน 2568

คู่ที่ 1: วุฒิไกร บูมเด็กเซียน vs พลล้าน ศิษย์กุญชร (พิกัด 103 ปอนด์)

คู่เปิดหัวของวันนี้เริ่มต้นด้วยมวยพิกัดเล็กแต่ดีกรีความมันไม่ธรรมดา วุฒิไกรและพลล้านชั่งได้ตามพิกัดทั้งคู่ หมายความว่าความฟิตของแต่ละฝ่ายอยู่ในมาตรฐานสูง วุฒิไกรเป็นมวยจังหวะจัด เน้นความแม่นยำและออกแข้งยาวทำลายจังหวะ ส่วนพลล้านมีข้อได้เปรียบด้านความหนักของอาวุธ มักใช้การเดินเร็วเข้ากดดันคู่ต่อสู้ตลอดเกม คู่นี้จะเป็นการดวลระหว่างความแม่นของฝ่ายแดงกับความดุดันของฝ่ายน้ำเงิน หากวุฒิไกรคุมระยะได้ เขาจะได้เปรียบตั้งแต่ต้น แต่หากพลล้านเดินบี้ไม่หยุด อาจทำให้เกมเปลี่ยนทันที แม้จะเป็นคู่แรก แต่ลุ้นมันทุกวินาทีแน่นอน

คู่ที่ 2: ขวัญใจ เกียรติชัยยุทธ vs ก้องทัพ ดาบทิตบางรัก (พิกัด 102 ปอนด์)

ขวัญใจชั่งตามพิกัด แต่ก้องทัพลดมากถึง 2 ปอนด์ ซึ่งเป็นปริมาณที่ส่งผลต่อความฟิตอย่างชัดเจน ความเร็วและแรงปะทะของก้องทัพอาจลดลงบ้าง แต่เขายังเป็นมวยที่มีลูกเตะคมและหมัดแรง ส่วนขวัญใจเป็นมวยเดินหน้าแบบมีชั้นเชิง คอยบีบพื้นที่และเน้นการออกอาวุธเป็นจังหวะ หนึ่ง-สอง คู่นี้จะเป็นการวัดผลว่าฝ่ายน้ำเงินจะเรียกแรงกลับมาได้ทันหรือไม่ หากทำได้จะสูสี แต่ถ้าไม่ ขวัญใจมีลุ้นทำคะแนนแบบขาดลอยตั้งแต่ยกสองเป็นต้นไป

คู่ที่ 3: ล้านกล้า เกียรติชัยยุทธ vs ฉัตรเงินเล็ก ปานนิวัฒน์ (พิกัด 115 ปอนด์)

ล้านกล้าลดน้ำหนักมากกว่า และชั่งได้ 113.8 ปอนด์ ซึ่งส่งผลให้มีความคล่องตัวสูงกว่า แต่ความหนักของอาวุธอาจลดลงเล็กน้อย ด้านฉัตรเงินเล็กมีการลดน้ำหนักพอประมาณและชั่งได้ 114.7 ปอนด์ ทำให้ความสดของร่างกายค่อนข้างดี ลักษณะเด่นคือการยืนระยะและความแข็งแรง ไฟต์นี้จะเป็นการวัดกันระหว่างความเร็วของล้านกล้าและพละกำลังของฉัตรเงินเล็ก หากล้านกล้าใช้ความเร็วเข้าคุม จังหวะจะได้เปรียบ แต่ถ้าฉัตรเงินเล็กบีบเกมเข้าวงในได้ เขาจะมีโอกาสพลิกทันที

คู่ที่ 4: ศรีมาลัย เพชรเจริญวิทย์ vs พยัคฆ์ตะวัน สามารถพยัคฆ์อรุณ (พิกัด 116 ปอนด์)

คู่นี้ถือเป็นคู่มวยฝีมือใกล้เคียงกันอย่างมาก ศรีมาลัยลด 1 ปอนด์ ทำให้มีจุดเด่นเรื่องความเร็วในการออกอาวุธ ขณะที่พยัคฆ์ตะวันลดเพียง 0.5 ปอนด์ ทำให้ความฟิตยังอยู่ในระดับดี ทั้งสองเป็นมวยเชิงจัด มีทั้งลูกเตะและหมัดที่ได้ผล เกมนี้น่าจะเป็นเกมเร็วที่ทั้งสองต่างพยายามรักษาระยะเพื่อออกอาวุธเข้าทำแบบเน้นจังหวะ หากใครสามารถคงความเร็วได้ยาวถึงยกท้าย จะเป็นฝ่ายกำชัยในเกมนี้

คู่ที่ 5: เปรมอนันต์ ศูนย์กีฬากุดฉิม vs ใจเพชร ศิษย์ออสก้า (พิกัด 125 ปอนด์)

เปรมอนันต์ชั่งได้ตามพิกัดพอดี เป็นมวยที่มีการเตรียมตัวดี มีความแข็งแรงของวงในและลูกเตะที่หนัก ส่วนใจเพชรลดไป 2 ปอนด์ ซึ่งค่อนข้างเยอะ ทำให้ความอึดในยกท้ายอาจมีปัญหา อย่างไรก็ตามใจเพชรมีจุดเด่นคือความเร็วและการต่อยเป็นชุด ทำให้ช่วงต้นเกมเขาอาจได้เปรียบ หากเปรมอนันต์คุมจังหวะและบีบเข้าวงในได้ เขาจะเป็นฝ่ายทำคะแนนมากกว่าในช่วงยกสามถึงห้า

คู่ที่ 6: เพชรรุ้งไฟ ส.แสงนารายณ์ vs กรวิทย์เล็ก ปานนิวัฒน์ (พิกัด 42.5 กก.)

เพชรรุ้งไฟขาด 0.2 กก. ส่วนกรวิทย์เล็กชั่งได้ตามพิกัด ความแตกต่างเล็กน้อยนี้ทำให้ความคล่องตัวของเพชรรุ้งไฟดีกว่า เขามีความเร็วเป็นอาวุธเด่นและสามารถเข้าทำหลายจังหวะ ขณะที่กรวิทย์เล็กเป็นมวยตั้งรับที่มีลูกดักเตะเนียน ไฟต์นี้ต้องวัดกันว่าใครจะออกอาวุธแม่นกว่าในช่วงต้น เพราะเป็นพิกัดเล็กที่ทุกการโจมตีมีผลคะแนนมาก ฝ่ายที่ทำพลาดน้อยกว่าจะเป็นผู้ครองเกมอย่างชัดเจน

คู่ที่ 7: ฉัตรเงินน้อย ปานนิวัฒน์ vs ก๊อก19 ศิษย์วัชรชัย (พิกัด 35 กก.)

ฉัตรเงินน้อยขาด 0.2 กก. ทำให้ความเร็วของเขาโดดเด่นขึ้นมาก ซึ่งเหมาะกับสไตล์การชกพิกัดเล็ก ส่วนก๊อก19 เป็นมวยที่มีความหนักของหมัดและลูกเตะ แต่ต้องระวังเรื่องความเร็วของคู่ชก ไฟต์นี้ขึ้นกับว่าฉัตรเงินน้อยจะสามารถรักษาการหนีมุมและเข้าทำแบบหลายชุดได้หรือไม่ หากทำได้จะคุมเกมได้ยาว แต่ถ้าก๊อก19 เริ่มจับทางและออกหมัดได้คมขึ้น เกมอาจเปลี่ยนได้ทุกเมื่อ

คู่ที่ 8: ธูปทอง แดงรถดี vs เหลี่ยมเพชร ท.เทพซุนกวน (พิกัด 40 กก.)

ธูปทองชั่งได้ 39.9 กก. ขาดเล็กน้อย แต่ยังรักษาความสดและสปีดในการออกอาวุธได้ดี ส่วนเหลี่ยมเพชรชั่งตามพิกัด เป็นมวยที่มีความมั่นคงของลำตัวและการเตะที่ทรงพลัง เกมนี้อาจเริ่มจากการวัดกันด้วยแข้งซ้ายและแข้งขวา ก่อนที่จะเข้าสู่เกมวงใน หากธูปทองสามารถเข้าทำจังหวะสองได้อย่างแม่นยำ เขาจะมีคะแนนนำ แต่หากเหลี่ยมเพชรเดินเร็ว ธูปทองต้องระวังแรงชนที่อาจทำให้รูปเกมเสียเปรียบได้ทันที

คู่ที่ 9: หงส์เพชรเล็ก ช.ชนะสิงห์ vs สิงห์บารมี ธ.ธนินวัฒน์ (พิกัด 37.5 กก.)

ไฟต์นี้มีความสูสีสูงมากเพราะทั้งสองชั่งได้ 37.3 กก. เท่ากัน หงส์เพชรเล็กเป็นมวยเชิงเนียน มีความฉลาดในการเลือกจังหวะออกอาวุธ ขณะที่สิงห์บารมีเป็นมวยเดินเร็ว อาศัยความกดดันเข้าใส่แบบไม่ถอย คู่นี้เป็นการเจอกันระหว่าง “ความเร็วเชิง” กับ “ความเร็วเดินบู๊” ฝ่ายที่เสียตำแหน่งก่อน หรือเปิดช่องให้คู่ต่อสู้โจมตีได้ จะเสียเปรียบทันที คู่นี้ลุ้นมันทุกวินาทีแน่นอน

คู่ที่ 10: โคตรเจ๋ง ศิษย์วัชรชัย vs กังวาลเล็ก ก.วุฒิชัย (พิกัด 38.5 กก.)

คู่ปิดท้ายวันนี้ระหว่างโคตรเจ๋งและกังวาลเล็กเป็นพิกัดที่ฟอร์มแรงทั้งคู่ โคตรเจ๋งชั่ง 38.4 กก. ขณะที่กังวาลเล็กชั่งเต็ม 38.5 กก. โคตรเจ๋งมีจังหวะหมัดที่ดีเยี่ยมและลูกเตะที่เร็วมาก ส่วนกังวาลเล็กเป็นมวยกำลังแข็ง ออกอาวุธแรงและยืนระยะดีเป็นพิเศษ ไฟต์นี้จึงต้องวัดกันว่าความเร็วหรือพละกำลังแบบไหนจะคุมเกมได้ก่อน หากโคตรเจ๋งออกของคม มีสิทธิ์เก็บคะแนนได้เรื่อย ๆ แต่ถ้ากังวาลเล็กสามารถเดินกดดันเข้าหาและออกหมัดชุดได้ อาจพลิกเอาชนะได้ทุกยก ถือเป็นคู่ปิดท้ายที่เหมาะสมกับการเป็นไฮไลต์ของรายการนี้


สรุปภาพรวม ศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ 18 พฤศจิกายน 2568

โดยรวมแล้ว ศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ ในค่ำคืนนี้มีความครบเครื่องทั้งมวยบู๊ มวยเชิง และมวยดาวรุ่งหลายรายที่กำลังไต่ระดับสู่ความโดดเด่นในเวทีอาชีพ ความสมดุลของพิกัดและความพร้อมของนักมวยเกือบทุกคู่ ทำให้แฟนมวยคาดหวังเกมการชกที่ดุเดือดและน่าติดตามอย่างยิ่ง หลายคู่มีโอกาสพลิกล็อก ส่วนหลายคู่มีโอกาสน็อกได้ทุกเมื่อ ขึ้นอยู่กับการวางเกมและการแก้ทางของนักมวยแต่ละฝ่าย รายการนี้จึงจัดเป็นอีกหนึ่งศึกคุณภาพที่ไม่ควรพลาด และสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของวงการมวยไทยในปัจจุบันอย่างแท้จริง