ศึกมวยดีวิถีไทย ประจำวันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน 2568 จัดขึ้น ณ เวทีมวยจิตรเมืองนนท์ อตก.3 จังหวัดนนทบุรี ในช่วงเวลาระหว่าง 11.00 น. – 12.30 น. นับเป็นรายการมวยที่แฟนมวยหลายคนรอคอย เพราะเป็นรายการที่รวบรวมมวยคุณภาพจากค่ายต่าง ๆ พร้อมนำเสนอความเข้มข้นของศิลปะแม่ไม้มวยไทยในแบบดั้งเดิม โดยวันนี้มีทั้งหมด 8 คู่ ซึ่งทุกคู่ชั่งน้ำหนักผ่านตามพิกัดอย่างสมบูรณ์ ทำให้รูปเกมน่าจะออกมาอย่างดุเดือดและสูสีในหลายคู่ เนื่องจากทั้งฝ่ายแดงและฝ่ายน้ำเงินต่างมีความพร้อมร่างกายในระดับสูง พร้อมระเบิดพลังออกอาวุธได้เต็มที่ตลอดทั้งการแข่งขัน ถือเป็นอีกวันหนึ่งที่รายการศึกมวยดีวิถีไทยจะสร้างความประทับใจแก่แฟนมวยอย่างแน่นอน

โปรแกรมมวยศึกมวยดีวิถีไทย 16 พฤศจิกายน 2568 – วิเคราะห์มวยครบทุกคู่พร้อมโปรแกรมชกที่เวทีมวยจิตรเมืองนนท์

ตารางโปรแกรม ศึกมวยดีวิถีไทย 16 พฤศจิกายน 2568

คู่ที่ ฝ่ายแดง ฝ่ายน้ำเงิน พิกัด ชั่งได้ (แดง) ชั่งได้ (น้ำเงิน)
1 รถถัง จูเนียร์ ขวานเพชร 101 ปอนด์ 101.0 101.0
2 สะเก็ดดาว ไก่ฟ้า 101 ปอนด์ 101.0 101.0
3 มหาดเล็ก มิ่งขวัญ 100 ปอนด์ 100.0 100.0
4 เพชรหมื่นล้าน รุ่งเพชร 100 ปอนด์ 100.0 100.0
5 ซ้ายนคร หนองคายเล็ก 127 ปอนด์ 127.0 127.0
6 เด็ดดวง มานะชัย 127 ปอนด์ 127.0 127.0
7 เพชรทวีศักดิ์ สราวุธ 129 ปอนด์ 129.0 129.0
8 ขุนศึก นำชัย 100 ปอนด์ 100.0 100.0

วิเคราะห์มวย ศึกมวยดีวิถีไทย ประจำวันที่ 16 พฤศจิกายน 2568

คู่ที่ 1: รถถัง จูเนียร์ ว.วราพิณ vs ขวานเพชร ศักดิ์แสนพล (พิกัด 101 ปอนด์)

แดง น้ำเงิน
รถถัง จูเนียร์ – 101.0 ขวานเพชร – 101.0

คู่เปิดหัวรายการวันนี้เป็นการพบกันระหว่างรถถัง จูเนียร์ และขวานเพชร ซึ่งมีพิกัดเท่ากันแบบพอดีตัวที่ 101 ปอนด์ ทั้งสองชั่งได้ตามพิกัดไม่มีเกินหรือต้องลดเพิ่ม จึงถือว่าเป็นคู่ที่มีความสมบูรณ์ของร่างกายสูงมาก
รถถัง จูเนียร์ มีจุดเด่นเรื่องลูกเตะหนักแน่นและการเดินเกมที่มั่นคง ขณะที่ขวานเพชรเป็นมวยที่มีความคล่องแคล่วและออกหมัดได้รวดเร็ว ลักษณะการชกของทั้งสองน่าจะเป็นการชิงจังหวะและพยายามควบคุมพื้นที่กลางเวที ฝ่ายที่สามารถสร้างความแม่นยำในจังหวะออกอาวุธได้ก่อน มีโอกาสคว้าคะแนนนำในต้นเกม ซึ่งโดยรวมแล้วถือเป็นไฟต์สูสีและต้องลุ้นกันถึงยกสุดท้ายของการแข่งขัน


คู่ที่ 2: สะเก็ดดาว ส.ศักดิ์ชรินทร์ vs ไก่ฟ้า ศิษย์ครูเก่ง (พิกัด 101 ปอนด์)

แดง น้ำเงิน
สะเก็ดดาว – 101.0 ไก่ฟ้า – 101.0

สะเก็ดดาวและไก่ฟ้าต่างเป็นมวยที่มีฝีมือดีและมีประสบการณ์บนเวทีระดับประเทศมาพอสมควร แม้ว่าน้ำหนักจะเท่ากันแบบพอดี แต่สไตล์ของทั้งสองมีความแตกต่างกันค่อนข้างชัดเจน สะเก็ดดาวเป็นมวยประเภทตั้งรับดักเตะ ดักต่อย และอาศัยไหวพริบเข้าทำเป็นหลัก ขณะที่ไก่ฟ้าเป็นมวยบู๊เดินเร็วและอาศัยแรงปะทะเพื่อสร้างความกดดันให้คู่ต่อสู้ ไฟต์นี้จะเป็นการวัดกันว่าใครจะสามารถกำหนดจังหวะและระยะเข้าทำได้ดีกว่า ถ้าสะเก็ดดาวสามารถคุมจังหวะไว้ได้ เขามีโอกาสทำคะแนนจากลูกเตะแย็บได้ต่อเนื่อง แต่หากไก่ฟ้าสามารถเข้าใกล้และเดินสับใส่ได้อย่างต่อเนื่อง เกมอาจพลิกไปอีกทางทันที


คู่ที่ 3: มหาดเล็ก ลูกพ่อพญาเสือ vs มิ่งขวัญ ลูกวังเดือนห้า (พิกัด 100 ปอนด์)

แดง น้ำเงิน
มหาดเล็ก – 100.0 มิ่งขวัญ – 100.0

มหาดเล็กและมิ่งขวัญเป็นมวยดาวรุ่งที่มีจุดเด่นเหมือนกันคือความเร็วในการออกอาวุธและจังหวะการเคลื่อนตัวที่ดีเยี่ยม มหาดเล็กเป็นมวยที่เน้นการเตะต่อยครบเครื่องและมีการป้องกันตัวที่ดี ขณะที่มิ่งขวัญเน้นความเร็วและการเข้าทำด้วยหมัดชุดเป็นพิเศษ ทั้งสองฝ่ายชั่งได้ตามพิกัดแบบเท่ากัน ส่งผลให้เกมการชกในครั้งนี้น่าจะออกมาเร็วตั้งแต่เสียงระฆังยกแรก ฝ่ายที่สามารถกำหนดเกมและไม่เปิดช่องว่างให้คู่ต่อสู้ทำอันตรายมีโอกาสเก็บคะแนนอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นอีกคู่ที่คาดว่าจะลุ้นสนุกทุกวินาทีของการแข่งขัน


คู่ที่ 4: เพชรหมื่นล้าน ศิษย์ อ.เทวา vs รุ่งเพชร ศรรามสุโขทัย (พิกัด 100 ปอนด์)

แดง น้ำเงิน
เพชรหมื่นล้าน – 100.0 รุ่งเพชร – 100.0

เพชรหมื่นล้านเป็นหนึ่งในนักชกรุ่นเยาว์ที่เริ่มสร้างชื่อด้วยสไตล์การชกที่กล้าแลก กล้าชน และมีการป้องกันตัวที่เหนียวแน่น ขณะที่รุ่งเพชรเป็นมวยเชิงเทคนิคที่เน้นการออกอาวุธเนียนตาและเข้าทำได้หลากหลาย ทั้งสองมีน้ำหนักที่สมบูรณ์แบบเทียบกันได้แบบตรงตัว ทำให้เป็นเกมที่วัดฝีมือและจิตใจล้วน ๆ ฝ่ายที่สามารถรักษาระยะและไม่เสียสมดุลในช่วงสำคัญจะเป็นฝ่ายคุมเกมได้ก่อน แต่ยังต้องระวังลูกสวนกลับของรุ่งเพชรที่ขึ้นชื่อว่าแม่นและแรงพอสมควร ซึ่งพร้อมจะเปลี่ยนรูปเกมได้ทุกเมื่อ


คู่ที่ 5: ซ้ายนคร หจก.กุ๊ปกุ๊ปสุทธิ vs หนองคายเล็ก ดร.น็อตมวยไทยยิมส์ (พิกัด 127 ปอนด์)

แดง น้ำเงิน
ซ้ายนคร – 127.0 หนองคายเล็ก – 127.0

คู่ที่ห้าเป็นมวยรุ่น 127 ปอนด์ที่มีความแข็งแกร่งทั้งคู่ ซ้ายนครเป็นมวยที่มีลูกเตะซ้ายจัด เดินหน้าดีและออกแข้งต่อเนื่อง ส่วนหนองคายเล็กเป็นมวยฝีมือที่มีความยืดหยุ่น ใช้ทักษะการหลอกล่อและจังหวะถีบคุมเกมได้ดี เพราะทั้งสองชั่งได้ตามพิกัดแบบเท่ากัน รูปเกมน่าจะวัดกันที่การยืนพื้นและความแม่นยำของอาวุธฝ่ายละจังหวะ ถ้าซ้ายนครใช้จุดเด่นเรื่องพละกำลังได้อย่างเต็มที่ ก็มีโอกาสทำคะแนนได้มากกว่า แต่ถ้าหนองคายเล็กสามารถใช้ลูกถีบและการฉีกมุมมาควบคุมเกม ก็มีโอกาสสร้างปัญหาให้ฝ่ายแดงเช่นเดียวกัน


คู่ที่ 6: เด็ดดวง เกียรติเขาน้อย vs มานะชัย C.M.A.อะคาเดมี่ (พิกัด 127 ปอนด์)

แดง น้ำเงิน
เด็ดดวง – 127.0 มานะชัย – 127.0

เด็ดดวงเป็นนักชกที่มีความจัดจ้านและเป็นมวยบู๊เข้าทำเร็ว ใช้เทคนิคการออกแข้งเตะกดดันคู่ต่อสู้ได้เป็นอย่างดี ขณะที่มานะชัยมีสไตล์ที่นิ่งกว่าหน่อย เน้นความแม่นยำและการใช้ลูกเตะตัดล่างเพื่อทำลายจังหวะของคู่ชก ด้วยน้ำหนักที่ทั้งคู่ชั่งได้ตามพิกัด การชกคู่นี้จะเน้นเทคนิคมากกว่าพละกำลัง และขึ้นอยู่กับการอ่านเกมคู่ต่อสู้อย่างละเอียด ไฟต์นี้จึงถือเป็นการเผชิญหน้าระหว่างเกมบู๊และเกมดักจังหวะที่แฟนมวยไม่ควรพลาด


คู่ที่ 7: เพชรทวีศักดิ์ แสงมรกต vs สราวุธ ส.สุนันท์ (พิกัด 129 ปอนด์)

แดง น้ำเงิน
เพชรทวีศักดิ์ – 129.0 สราวุธ – 129.0

เพชรทวีศักดิ์มีชื่อเสียงในด้านความแข็งแรงของลำตัวและการออกอาวุธที่หนักแน่นเป็นพิเศษ ขณะที่สราวุธเป็นมวยที่มีลีลาการชกเนี้ยบ เน้นดักจังหวะและใช้แข้งยาวคอยทำลายความต่อเนื่องของคู่ต่อสู้ เพราะทั้งสองชั่งน้ำหนักไม่ได้เกินพิกัด การแข่งขันจึงขึ้นอยู่กับแผนการชกอย่างแท้จริง หากเพชรทวีศักดิ์สามารถเข้าใกล้และใช้หมัดและเข่าได้อย่างต่อเนื่อง ก็มีโอกาสทำคะแนนนำ แต่ถ้าสราวุธสามารถเว้นระยะและดักเตะเข้าลำตัวได้แม่นพอ เกมจะเอนเอียงไปทางน้ำเงินทันที


คู่ที่ 8: ขุนศึก อ.โชคชัย vs นำชัย ต.อิทธิพร (พิกัด 100 ปอนด์)

แดง น้ำเงิน
ขุนศึก – 100.0 นำชัย – 100.0

คู่ปิดรายการวันนี้เป็นการพบกันของสองนักชกที่มีสไตล์แตกต่างกันพอสมควร โดยขุนศึกเป็นมวยเดินบู๊ พละกำลังดี เน้นเข้าปะทะและสร้างแรงกดดัน ขณะที่นำชัยเป็นมวยเชิง เหลี่ยมตัวดี และสามารถเปลี่ยนจังหวะได้ไว
น้ำหนักที่ทั้งคู่ชั่งได้เท่ากันส่งผลให้แฟนมวยจะได้เห็นเกมที่รวดเร็วและน่าสนใจ ฝ่ายที่สามารถกำหนดรูปแบบการยืนชกและใช้เทคนิคตอบโต้ได้แม่นยำ จะเป็นฝ่ายคุมเกมทันทีตั้งแต่ต้น นับเป็นคู่สุดท้ายที่น่าจับตาและอาจจบแบบสนุกเร้าใจที่สุดคู่หนึ่งของวันนี้


สรุปภาพรวมของศึกมวยดีวิถีไทยวันนี้

ศึกมวยดีวิถีไทยประจำวันที่ 16 พฤศจิกายน 2568 เป็นรายการที่มีความสมบูรณ์แบบทั้งด้านการจัดคู่มวยและความพร้อมของนักชก เพราะทุกคู่ต่างชั่งน้ำหนักได้ตรงตามพิกัดแบบไม่มีปัญหา การแข่งขันจึงเต็มไปด้วยศักยภาพสูงและรูปแบบเกมที่น่าติดตาม ตั้งแต่นักชกรุ่นเล็กไปจนถึงรุ่นใหญ่ ความสูสีของแต่ละคู่ทำให้ผู้ชมต่างเฝ้ารอผลการแข่งขันด้วยความตื่นเต้น ถือเป็นอีกหนึ่งวันที่เวทีมวยจิตรเมืองนนท์มอบความมันครบทุกอารมณ์ให้แฟนมวยอย่างแท้จริง หากใครชื่นชอบมวยเชิงเทคนิคและเกมบู๊ดุดัน ศึกมวยดีวิถีไทยในวันนี้ตอบโจทย์ครบทุกความต้องการอย่างแน่นอน