ศึกมวยไทยเกียรติเพชร SKS วันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2568 ณ เวทีสยามอ้อมน้อย ถือเป็นอีกหนึ่งบัตรมวยใหญ่ช่วงบ่ายที่แฟนมวยไทยตัวจริงไม่ควรพลาด เพราะศึกมวยไทยเกียรติเพชร SKS ขึ้นชื่อเรื่องการคัดสรรคู่มวยที่สูสี สไตล์การชกดุเดือด และเต็มไปด้วยนักชกจากค่ายดังทั่วประเทศ โดยไฮไลต์ของสัปดาห์นี้คือการรวมมวยพิกัด 100–126 ปอนด์ มาชนกันครบทุกสไตล์ ตั้งแต่มวยเล็กฝีมือจัดไปจนถึงมวยพิกัดกลางที่มีแรงปะทะหนักหน่วง ทำให้บรรยากาศบนเวทีสยามอ้อมน้อยในช่วงเวลา 15.00 น. เป็นต้นไป น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง

โปรแกรมมวยศึกมวยไทยเกียรติเพชร SKS 29 พฤศจิกายน 2568 : เวทีสยามอ้อมน้อย วันเสาร์ 15.00 น.

 

ภาพรวมรายการ ศึกมวยไทยเกียรติเพชร SKS วันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2568

ศึกมวยไทยเกียรติเพชร SKS ในสัปดาห์นี้จัดทั้งหมด 5 คู่ชก เรียงลำดับตั้งแต่คู่เปิดหัวพิกัด 117 ปอนด์ที่เป็นการชนกันของยอดศิลป์ รถสวยจ่าเจตสายพริ้ว กับเพชรนาเรือง ส.รุ่งศักดิ์
ตามด้วยไฟต์พิกัด 114 ปอนด์ของบิ๊กบอส ศิษย์เอราวัณ ดวลวุฒิเดช ส.เดชดำรงค์ และไฟต์พิกัดกลางอย่างเทอดเกียรติ ศิษย์เจ๊กานต์ ปะทะพงษ์ศิริ สจ.วิชิตแปดริ้ว ในรุ่น 126 ปอนด์
ก่อนจะย่อลงมาที่พิกัด 100 ปอนด์ในสองคู่ท้ายของเพชรไชโย vs อัลพาร์ด และแรมโบ้ vs เพชรโพธิ์ชัย ซึ่งเป็นช่วงมวยเล็กเกมเร็วที่แฟนมวยถูกใจเป็นพิเศษ

จุดเด่นของศึกมวยไทยเกียรติเพชร SKS รอบนี้คือการดึงเอาค่ายมวยระดับแนวหน้ามาชนกันบนสังเวียนเดียว ไม่ว่าจะเป็น รถสวยจ่าเจตสายพริ้ว ศิษย์เอราวัณ ส.เดชดำรงค์ ศิษย์เจ๊กานต์ สจ.วิชิตแปดริ้ว
แบงค์ทองคำใต้เพชรบุรี สจ.เล็กเมืองนนท์ และเกียรติจอมบึง ทำให้แต่ละคู่ไม่ใช่เพียงการวัดฝีมือของนักมวยเท่านั้น แต่ยังเป็นการวัดศักยภาพของทีมงานและระบบการฝึกจากแต่ละค่ายด้วย
บวกกับการจัดคู่ที่เน้นความสูสีด้านพิกัดและน้ำหนัก ศึกมวยไทยเกียรติเพชร SKS จึงเป็นรายการที่ทั้งสายเชียร์และสายวิเคราะห์ต้องหยิบจอมาติดตามอย่างใกล้ชิด

ตารางการแข่งขัน ศึกมวยไทยเกียรติเพชร SKS 29 พฤศจิกายน 2568 เวทีสยามอ้อมน้อย

ด้านล่างนี้เป็นตารางโปรแกรมครบทั้ง 5 คู่ของศึกมวยไทยเกียรติเพชร SKS ซึ่งระบุทั้งพิกัดการชก น้ำหนักที่ชั่งได้จริง และสถานะว่านักมวยแต่ละคนชั่งได้ขาด ลด หรือเท่าพิกัด
การดูตารางนี้จะช่วยให้แฟนมวยเข้าใจโครงสร้างรายการและเปรียบเทียบน้ำหนักระหว่างคู่ชกได้อย่างชัดเจนก่อนจะไปชมไฟต์จริงบนเวทีสยามอ้อมน้อยในช่วงบ่ายวันเสาร์

คู่ที่ มุมแดง พิกัด (ปอนด์) สถานะชั่งได้ มุมน้ำเงิน พิกัด (ปอนด์) สถานะชั่งได้ หมายเหตุ
1 ยอดศิลป์ รถสวยจ่าเจตสายพริ้ว 117.0 ขาด 0.2 ปอนด์ เพชรนาเรือง ส.รุ่งศักดิ์ 117.0 ขาด 0.4 ปอนด์ มวยพิกัด 117 ปอนด์ เกมเร็ว
2 บิ๊กบอส ศิษย์เอราวัณ 114.0 ตามพิกัด วุฒิเดช ส.เดชดำรงค์ 114.0 ตามพิกัด มวยฝีมือใกล้เคียง 114 ป.
3 เทอดเกียรติ ศิษย์เจ๊กานต์ 126.0 ลด 0.8 ปอนด์ พงษ์ศิริ สจ.วิชิตแปดริ้ว 126.0 ขาด 0.4 ปอนด์ พิกัด 126 ปอนด์ รุ่นกลางดุเดือด
4 เพชรไชโย แบงค์ทองคำใต้เพชรบุรี 100.0 ลด 0.2 ปอนด์ อัลพาร์ด รถสวยจ่าเจตสายพริ้ว 100.0 ตามพิกัด มวยเล็กเชิงดี 100 ป.
5 แรมโบ้ สจ.เล็กเมืองนนท์ 100.0 ตามพิกัด เพชรโพธิ์ชัย เกียรติจอมบึง 100.0 ตามพิกัด คู่ปิดมันส์พิกัด 100 ปอนด์

จากตารางจะเห็นว่าในศึกมวยไทยเกียรติเพชร SKS ครั้งนี้ ไม่มีคู่ใดที่มีปัญหาเรื่องน้ำหนักจนเกินพิกัดแบบต้องเค้นหนักหรือส่อแววตกมวยรอบ
ส่วนใหญ่เป็นกรณีชั่งได้ “ขาดเล็กน้อย” ไม่เกิน 0.4 ปอนด์ เช่น ยอดศิลป์และเพชรนาเรืองในคู่แรก หรือเพชรช่อฟ้าที่ขาด 0.4 ปอนด์ในคู่รอง
กรณี “ลดน้ำหนัก” ที่น่าสนใจที่สุดคือเทอดเกียรติที่ลด 0.8 ปอนด์และเพชรไชโยที่ลด 0.2 ปอนด์ ซึ่งแม้จะไม่มาก แต่ก็พอให้แฟนมวยต้องจับตาดูเรื่องแรงปลายในยกท้าย ๆ ของแต่ละคู่ในศึกมวยไทยเกียรติเพชร SKS

วิเคราะห์คู่มวย ศึกมวยไทยเกียรติเพชร SKS วันเสาร์ที่สยามอ้อมน้อย

การวิเคราะห์คู่มวยในศึกมวยไทยเกียรติเพชร SKS ครั้งนี้ จะพิจารณาทั้งด้านพิกัด น้ำหนักชั่งจริง ชื่อชั้นค่าย และแนวทางเชิงมวยของนักสู้แต่ละคน
เพื่อให้ผู้อ่านสามารถมองเห็นแนวโน้มรูปเกมก่อนขึ้นชกได้อย่างมีมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรายการที่เน้นมวยคัดสรรอย่างศึกมวยไทยเกียรติเพชร SKS ที่เวทีสยามอ้อมน้อย
ซึ่งถือเป็นเวทีสำคัญสำหรับการผลักดันมวยดังของค่ายเกียรติเพชรและค่ายพันธมิตรขึ้นสู่สายตาแฟนมวยทั่วประเทศผ่านจอทีวีและสื่อออนไลน์ในยุคปัจจุบัน

คู่ที่ 1 ยอดศิลป์ รถสวยจ่าเจตสายพริ้ว vs เพชรนาเรือง ส.รุ่งศักดิ์ (พิกัด 117 ปอนด์)

คู่เปิดหัวของศึกมวยไทยเกียรติเพชร SKS เป็นการปะทะกันในพิกัด 117 ปอนด์ระหว่าง ยอดศิลป์ จากค่ายรถสวยจ่าเจตสายพริ้ว กับ เพชรนาเรือง จาก ส.รุ่งศักดิ์
ยอดศิลป์ชั่งได้ขาด 0.2 ปอนด์ ขณะที่เพชรนาเรืองขาด 0.4 ปอนด์ ทำให้ทั้งคู่ตัวเบากว่าพิกัดเล็กน้อยและไม่ได้เสียเปรียบหรือได้เปรียบกันมากในเชิงน้ำหนัก
แต่ในแง่ของความรู้สึกนักมวย ยอดศิลป์อาจมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากการขาดน้อยกว่า ขณะที่เพชรนาเรืองต้องอาศัยความคล่องตัวและสภาพร่างกายที่สดเพื่อบาลานซ์ความเสียเปรียบด้านมวลตัว

สไตล์ของนักมวยสายรถสวยจ่าเจตสายพริ้วอย่างยอดศิลป์ มักมาพร้อมการเดินเกมบุกอย่างต่อเนื่อง เน้นทำมวยให้สนุกถูกใจแฟนมวย ออกหมัด–เตะ–เข่าแบบไม่มีพัก
ในขณะที่เพชรนาเรือง ส.รุ่งศักดิ์ อาจเน้นรูปแบบมวยเชิงจัดพอสมควร ใช้เกมรับที่แน่นหนาแล้วโต้กลับด้วยแข้งและหมัดที่ชัดเจน
ถ้าเพชรนาเรืองสามารถใช้การเคลื่อนที่และการดักสกัดจังหวะบุกของยอดศิลป์ได้ดี อาจกลายเป็นฝ่ายควบคุมเกมได้
แต่ถ้ายอดศิลป์สามารถเดินลุยและไม่ปล่อยให้เพชรนาเรืองตั้งลำได้ ศึกมวยไทยเกียรติเพชร SKS คู่เปิดหัวนี้ก็มีโอกาสกลายเป็นไฟต์มันส์ประจำสัปดาห์ได้ไม่ยาก

คู่ที่ 2 บิ๊กบอส ศิษย์เอราวัณ vs วุฒิเดช ส.เดชดำรงค์ (พิกัด 114 ปอนด์)

คู่ที่สองในพิกัด 114 ปอนด์ถือเป็นไฟต์ที่สมดุลด้านน้ำหนักที่สุดในศึกมวยไทยเกียรติเพชร SKS ครั้งนี้ เพราะทั้งบิ๊กบอส ศิษย์เอราวัณ และวุฒิเดช ส.เดชดำรงค์ ต่างชั่งได้ตามพิกัด 114 ปอนด์เต็ม
ไม่ต้องลดหรือขาดน้ำหนักให้กังวลเรื่องความเหนื่อยหรือตัวเบาเกินไป ทำให้แฟนมวยสามารถโฟกัสไปที่เชิงมวยและการวางแผนของทั้งสองค่ายได้อย่างเต็มที่
ในมุมสรีระ ไม่มีฝ่ายใดได้เปรียบเสียเปรียบด้านตัวเลข ทำให้เกมนี้น่าจะเป็นการวัดกันที่แท้จริงของสองสไตล์มวยมากกว่าพึ่งความต่างของน้ำหนัก

บิ๊กบอส ศิษย์เอราวัณ มาจากค่ายใหญ่ที่สร้างมวยดังผ่านศึกใหญ่มามากมาย ทำให้พื้นฐานมวยของเขาน่าจะค่อนข้างสมบูรณ์ เน้นการยืนการ์ดที่ดีและการออกอาวุธที่ประหยัดแต่แม่นยำ
ส่วนวุฒิเดช ส.เดชดำรงค์ อาจมีลูกบู๊และความคึกเป็นจุดขาย ใช้การเดินกดดันเพื่อหวังให้บิ๊กบอสเสียทรงแล้วฉวยจังหวะเข้าทำ
คู่มวยนี้ในศึกมวยไทยเกียรติเพชร SKS จึงเป็นไฟต์ที่เหมาะสำหรับสายวิเคราะห์เชิงมวย เพราะผลแพ้ชนะน่าจะขึ้นอยู่กับว่าใครสามารถควบคุมระยะและพื้นที่บนเวทีได้ดีกว่ากันในทุกวินาทีของการแข่งขัน

คู่ที่ 3 เทอดเกียรติ ศิษย์เจ๊กานต์ vs พงษ์ศิริ สจ.วิชิตแปดริ้ว (พิกัด 126 ปอนด์)

คู่ที่สามในพิกัด 126 ปอนด์ของศึกมวยไทยเกียรติเพชร SKS เป็นไฟต์ที่มีประเด็นด้านน้ำหนักน่าสนใจที่สุดคู่หนึ่ง
เทอดเกียรติ ศิษย์เจ๊กานต์ ต้อง “ลด” น้ำหนักถึง 0.8 ปอนด์ แสดงว่าเดิมตัวเกินพิกัดเล็กน้อย แต่สามารถเค้นลงมาให้ผ่านการชั่งได้
ส่วนพงษ์ศิริ สจ.วิชิตแปดริ้ว ชั่งได้ขาด 0.4 ปอนด์ ตัวเบากว่าพิกัดเล็กน้อย
เมื่อเปรียบเทียบกัน เทอดเกียรติอาจมีรูปร่างใหญ่แน่นกว่า ขณะที่พงษ์ศิริน่าจะมีความคล่องและความสดของร่างกายเป็นข้อได้เปรียบ

ในเชิงมวย เทอดเกียรติ ซึ่งมีชื่อค่าย “ศิษย์เจ๊กานต์” ที่คุ้นหูแฟนมวย น่าจะมีสไตล์มวยฝีมือผสมบู๊ เน้นลูกเตะต่อยและวงในที่รัดกุม
ขณะที่พงษ์ศิริจากสาย สจ.วิชิตแปดริ้ว มีประวัติการสร้างมวยเดินชนดุดันจำนวนไม่น้อย
ไฟต์นี้ในศึกมวยไทยเกียรติเพชร SKS จึงน่าจะเป็นการวัดกันระหว่างความดุดันของฝ่ายที่ตัวเต็มแต่เคยเกินน้ำหนัก กับความสดและความเร็วของฝ่ายที่ขาดเล็กน้อย
ผู้ที่จะคว้าชัยได้ต้องบริหารแรงให้ดี ไม่เปิดโอกาสให้คู่ชกฉวยจังหวะเปลี่ยนเกมในช่วงยกท้าย ๆ ที่ความอึดและหัวจิตหัวใจเริ่มเป็นตัวตัดสินสำคัญ

คู่ที่ 4 เพชรไชโย แบงค์ทองคำใต้เพชรบุรี vs อัลพาร์ด รถสวยจ่าเจตสายพริ้ว (พิกัด 100 ปอนด์)

คู่ที่สี่ในพิกัด 100 ปอนด์ เป็นการดวลกันของค่ายสายสร้างชื่อเสียงจากต่างจังหวัดอย่าง เพชรไชโย แบงค์ทองคำใต้เพชรบุรี
กับ อัลพาร์ด จากสายรถสวยจ่าเจตสายพริ้ว เพชรไชโยชั่งได้ลด 0.2 ปอนด์ แสดงว่าต้องเค้นน้ำหนักลงเล็กน้อย ส่วนอัลพาร์ดชั่งได้ตามพิกัด 100 ปอนด์เต็ม
ทำให้ในด้านสรีระ อัลพาร์ดอาจได้ความเต็มของน้ำหนักและแรงปะทะ ส่วนเพชรไชโยได้ความมั่นใจจากการคุมพิกัดได้เป๊ะหลังผ่านการลดเล็กน้อย

เพชรไชโยน่าจะมาในสไตล์มวยฝีมือผสมบู๊ เนื่องจากค่ายแบงค์ทองคำใต้เพชรบุรีมักสร้างมวยที่มีลูกเก็บคะแนนคมและมีจังหวะสองดี
ในขณะที่อัลพาร์ด รถสวยจ่าเจตสายพริ้ว ตามชื่อแล้วมีแนวโน้มจะเป็นมวยที่เดินเกมอย่างคึกคัก พร้อมออกอาวุธต่อเนื่องให้คนดูได้ลุ้นอยู่ตลอด
ไฟต์นี้ของศึกมวยไทยเกียรติเพชร SKS จึงคาดว่าจะเป็นเกมเร็ว ที่ทั้งสองฝ่ายต้องใช้การตัดสินใจในเสี้ยววินาทีเพื่อทำคะแนนให้ชัดเจน
และมุมที่เล่นพลาดน้อยกว่าอาจเป็นฝ่ายกำชัยในไฟต์นี้

คู่ที่ 5 แรมโบ้ สจ.เล็กเมืองนนท์ vs เพชรโพธิ์ชัย เกียรติจอมบึง (พิกัด 100 ปอนด์)

คู่ปิดท้ายของศึกมวยไทยเกียรติเพชร SKS ในสัปดาห์นี้เป็นการปะทะกันพิกัด 100 ปอนด์ระหว่าง แรมโบ้ สจ.เล็กเมืองนนท์ กับ เพชรโพธิ์ชัย เกียรติจอมบึง
ทั้งสองชั่งได้ตามพิกัด 100 ปอนด์เท่ากันแบบไม่มีการลดหรือขาดน้ำหนัก ทำให้เป็นคู่มวยที่สมดุลในเชิงตัวเลขที่สุดของรายการ
เมื่อไม่มีปัจจัยเรื่องน้ำหนักมาทำให้เปรียบกันไม่ตรง แฟนมวยจึงมองไฟต์นี้ได้เต็ม ๆ ว่าเป็นการวัดกันด้วยฝีมือและหัวใจนักสู้เพียว ๆ สมกับตำแหน่งคู่ปิดรายการ

ชื่อ “แรมโบ้” มักมาพร้อมสไตล์มวยเดินบู๊ดุดัน ไม่เกรงใจหมัดและแข้งของใครพร้อมเข้าแลกเพื่อเอาใจคนดู ส่วนเพชรโพธิ์ชัยจากค่ายเกียรติจอมบึงน่าจะเป็นมวยที่มีทั้งความแข็งแกร่งและการคุมเกมที่ดี
ในศึกมวยไทยเกียรติเพชร SKS ถ้าแรมโบ้เลือกเดินกดดันตั้งแต่ต้นและไม่เปิดโอกาสให้เพชรโพธิ์ชัยได้ตั้งหลักออกของถนัด อาจทำให้ฝ่ายน้ำเงินเสียจังหวะได้
แต่ถ้าเพชรโพธิ์ชัยใช้เชิงมวยและจังหวะโต้กลับได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็มีสิทธิ์ทำให้เกมรุกของแรมโบ้แปรเปลี่ยนเป็นช่องโหว่ให้โดนสวนกลับชัด ๆ ได้เช่นกัน
เรียกได้ว่าคู่นี้มีทุกอย่างครบพร้อมส่งผู้ชมกลับบ้านด้วยอารมณ์ร่วมแบบเต็มร้อย

ผลชั่งน้ำหนักและผลต่อรูปเกมในศึกมวยไทยเกียรติเพชร SKS

เมื่อลองมองภาพรวมของผลการชั่งน้ำหนักในศึกมวยไทยเกียรติเพชร SKS จะพบว่าทุกคู่ต่างอยู่ในกรอบที่ค่อนข้างสมดุล ไม่มีใครต้องลดน้ำหนักจนโหดเกินไป
น้ำหนักที่ “ลด” หนักสุดคือเทอดเกียรติที่ลด 0.8 ปอนด์ ขณะที่เพชรไชโยลดเพียง 0.2 ปอนด์
ส่วนคู่ที่ขาดน้ำหนักมากที่สุดคือเพชรนาเรืองที่ขาด 0.4 ปอนด์ และพงษ์ศิริที่ขาด 0.4 ปอนด์ เช่นกัน
เมื่อเทียบกับบัตรมวยใหญ่บางรายการที่มีการลดระดับ 1–2 ปอนด์ ศึกมวยไทยเกียรติเพชร SKS ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจและปลอดภัยต่อความฟิตของนักมวยทุกคน

ในเชิงผลกระทบต่อรูปเกม การขาดน้ำหนักเล็กน้อยในระดับ 0.2–0.4 ปอนด์ มักทำให้นักมวยรู้สึกว่าตัวเบาและคล่องขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่ได้เสียเปรียบด้านแรงชนอย่างชัดเจน
ในทางกลับกัน การลดน้ำหนักในระดับ 0.6–0.8 ปอนด์ อย่างยอดเพชรเอกหรือเทอดเกียรติ อาจทำให้ร่างกายรู้สึกเหนื่อยง่ายขึ้นหากการฟื้นตัวหลังการชั่งไม่สมบูรณ์
อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ทุกคู่ในศึกมวยไทยเกียรติเพชร SKS เป็นการชกสามยก จึงยังเปิดโอกาสให้มวยที่ลดน้ำหนักมากกว่าสามารถเร่งเกมต้นและกลางเพื่อเก็บคะแนนนำ ก่อนจะหาทางประคองจบเกมได้เช่นกัน

ค่ายมวยและบทบาทในศึกมวยไทยเกียรติเพชร SKS

ศึกมวยไทยเกียรติเพชร SKS ชุดนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงบทบาทของค่ายมวยทั้งระดับเมืองใหญ่และท้องถิ่นที่ร่วมกันผลักดันนักมวยขึ้นสู่สังเวียนสำคัญ
ค่ายรถสวยจ่าเจตสายพริ้วส่งนักมวยถึงสองคนคือยอดศิลป์และอัลพาร์ด ขณะที่ค่ายศิษย์เอราวัณส่งบิ๊กบอสขึ้นมาปะทะในพิกัด 114 ปอนด์
ค่ายส.เดชดำรงค์ เกียรติเจริญชัย สจ.วิชิตแปดริ้ว แบงค์ทองคำใต้เพชรบุรี สจ.เล็กเมืองนนท์ และเกียรติจอมบึง ต่างก็มีชื่ออยู่ในบัตรนี้อย่างโดดเด่น
สะท้อนว่าศึกมวยไทยเกียรติเพชร SKS เป็นรายการที่ได้รับความเชื่อถือจากหัวหน้าค่ายในฐานะเวทีมาตรฐานที่เหมาะสำหรับการปล่อยของของนักมวยในสังกัด

ในอีกมิติหนึ่ง การที่นักมวยจากค่ายท้องถิ่น เช่น แบงค์ทองคำใต้เพชรบุรี และเกียรติจอมบึง ได้ขึ้นเวทีเดียวกับค่ายใหญ่อย่างศิษย์เอราวัณ หรือรถสวยจ่าเจตสายพริ้ว
ยังสะท้อนโอกาสที่เปิดกว้างของศึกมวยไทยเกียรติเพชร SKS ที่ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะค่ายในเมืองหลวง
แต่ยังเปิดประตูให้มวยฝีมือดีจากต่างจังหวัดมีเวทีพิสูจน์ตัวเองต่อหน้าแฟนมวยทั่วประเทศ
สิ่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาฐานนักสู้ของมวยไทยในระยะยาว เพราะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนในภูมิภาครู้สึกว่าหากฝึกซ้อมหนัก ก็มีสิทธิ์ขึ้นสังเวียนใหญ่ได้ไม่แพ้ใคร

สรุปภาพรวมความน่าดูของศึกมวยไทยเกียรติเพชร SKS 29 พฤศจิกายน 2568

เมื่อสรุปภาพรวมของศึกมวยไทยเกียรติเพชร SKS วันที่ 29 พฤศจิกายน 2568 จะเห็นได้ว่ารายการนี้แม้จะมีเพียง 5 คู่ แต่ทุกคู่ล้วนผ่านการคัดเลือกมาแล้วอย่างดีในแง่ของความสูสีและคุณภาพ
ตั้งแต่พิกัด 117 ปอนด์ของยอดศิลป์ vs เพชรนาเรือง ไปจนถึงคู่มวย 100 ปอนด์ปิดท้ายอย่างแรมโบ้ vs เพชรโพธิ์ชัย
บัตรนี้ยังมีความหลากหลายของค่ายมวยและสไตล์การชกที่แตกต่างกัน ทำให้แฟนมวยได้ชมทั้งมวยฝีมือ มวยบู๊ และมวยเชิงผสมในรายการเดียว
ประกอบกับเวลาแข่งช่วง 15.00 น. ที่เหมาะทั้งกับผู้ชมในสนามและผู้ชมทางบ้าน การติดตามศึกมวยไทยเกียรติเพชร SKS สัปดาห์นี้จึงเป็นกิจกรรมที่คอมวยไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

สำหรับสายวิเคราะห์ที่ชอบมองเกมลึกจากพิกัดและน้ำหนักชั่งจริง บัตรนี้ก็มีประเด็นให้เล่นหลายคู่ ไม่ว่าจะเป็นเทอดเกียรติที่ลด 0.8 ปอนด์ พงษ์ศิริที่ขาด 0.4 ปอนด์
หรือไฟต์ที่น้ำหนักเท่ากันแบบเป๊ะ ๆ อย่างบิ๊กบอส vs วุฒิเดช และแรมโบ้ vs เพชรโพธิ์ชัย
ส่วนสายเชียร์มวยไทยในเชิงศิลปะ ก็สามารถเลือกโฟกัสไปที่ไฟต์จากค่ายที่ชื่นชอบเพื่อดูแนวทางการฝึกและรูปแบบการชกได้อย่างใกล้ชิด
ด้วยองค์ประกอบทั้งหมดนี้ ศึกมวยไทยเกียรติเพชร SKS ในสัปดาห์นี้จึงสมควรถูกจัดอยู่ในลิสต์รายการมวยที่ควรจับตาของปลายเดือนพฤศจิกายนอย่างไม่ต้องสงสัย