ศึกจิตรเมืองนนท์ ประจำวันที่ 15 พฤศจิกายน 2568 ณ เวทีมวยจิตรเมืองนนท์ อตก.3 จังหวัดนนทบุรี ถือเป็นหนึ่งในรายการมวยไทยมาตรฐานที่แฟนมวยทั่วประเทศให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง ด้วยการคัดสรรนักมวยคุณภาพสูงพร้อมฟอร์มสดจำนวนมากขึ้นสังเวียนในช่วงเวลาระหว่าง 16.30 น. – 18.00 น. ซึ่งรายการเวทีนี้ขึ้นชื่อเรื่องความเข้มข้นของคู่ชกและมาตรฐานการจัดศึกที่ยอดเยี่ยม การแข่งขันในวันนี้มีทั้งหมด 9 คู่ ซึ่งแต่ละคู่ล้วนเต็มไปด้วยความน่าสนใจจากผลการชั่งน้ำหนักที่ออกมาใกล้เคียงพิกัด ทำให้ในส่วนของการวิเคราะห์เกมการชกสามารถคาดการณ์ได้อย่างสนุกและมีความสูสีในหลายคู่เป็นพิเศษ

โปรแกรมมวย ศึกจิตรเมืองนนท์ 15 พฤศจิกายน 2568 – โปรแกรมชก ผลชั่งน้ำหนัก วิเคราะห์มวยครบทุกคู่

ตารางโปรแกรมแข่งขัน ศึกจิตรเมืองนนท์

คู่ที่ ฝ่ายแดง ฝ่ายน้ำเงิน พิกัด ชั่งแดง ชั่งน้ำเงิน
1 คูก้า พลังเพชร 107 ปอนด์ ตามพิกัด ตามพิกัด
2 เจริญโท รักจัง 124 ปอนด์ ลด 0.4 ตามพิกัด
3 เฟสบุ๊ค เพชรฤทธิ์ 100 ปอนด์ ตามพิกัด ตามพิกัด
4 แสนเพชร แนวหน้า 114 ปอนด์ ลด 0.7 ตามพิกัด
5 อภิชัย เพชรเมืองโอ่ง 139 ปอนด์ ตามพิกัด ตามพิกัด
6 โชกุน ปราบธรณี 100 ปอนด์ ตามพิกัด ตามพิกัด
7 จาวาด เพชรดำ 114 ปอนด์ ลด 0.2 ลด 0.2
8 หลานย่าแก้ว เหนือเพชร 118 ปอนด์ ตามพิกัด ลด 2.0
9 ชัยมงคล เพชรพญาไท 129 ปอนด์ ลด 0.5 ตามพิกัด

วิเคราะห์คู่มวย ศึกจิตรเมืองนนท์ 15 พฤศจิกายน 2568 แบบละเอียด

คู่ที่ 1: คูก้า สิงห์บัลลังก์ทอง vs พลังเพชร ศิษย์ซ้อบี (107 ปอนด์)

แดง น้ำเงิน
คูก้า – ตามพิกัด พลังเพชร – ตามพิกัด

คู่แรกเปิดหัวรายการด้วยพิกัด 107 ปอนด์แบบพอดีตัวทั้งสองฝ่าย คูก้ามีจุดเด่นที่แข้งซ้ายจัดและการออกอาวุธที่แม่นยำ
เป็นมวยจังหวะสองที่ดักเตะได้อย่างแม่นยำ ส่วนทางด้านพลังเพชรมีความครบเครื่อง เดินเข้าหาดีและมีหมัดที่หนักพอตัว
เกมนี้จะเป็นการวัดกันว่าใครจะสามารถยืนพื้นที่กลางเวทีได้ดีกว่า เพราะทั้งสองคนต่างมีความเร็วและความคิดไวในการออกอาวุธ
ฝ่ายที่สามารถดักจังหวะและออกหมัดถูกเวลา มีโอกาสเป็นผู้คุมเกมทันที โดยรวมแล้วถือว่าเป็นคู่ที่สูสีและต้องลุ้นคะแนนทุกวินาที


คู่ที่ 2: เจริญโท บุญลานนามวยไทย vs รักจัง เจนจิรากรอบทอง (124 ปอนด์)

แดง น้ำเงิน
เจริญโท – ลด 0.4 ปอนด์ รักจัง – ตามพิกัด

เจริญโทต้องลดน้ำหนักเล็กน้อย ซึ่งไม่มากพอจะมีผลชัดเจนต่อสภาพร่างกาย เป็นมวยลุ้นสนุกเพราะทั้งสองคนมีสไตล์ต่างกันชัดเจน
เจริญโทมีลูกเตะยาวรุนแรงและสามารถคุมจังหวะวงนอกได้ดี ขณะที่รักจังเป็นมวยเดินเร็วที่ออกหมัดเป็นชุดได้เฉียบขาด
เกมการชกในคู่นี้จะขึ้นอยู่กับว่าเจริญโทสามารถหยุดเกมบุกของรักจังได้หรือไม่ หากหยุดไม่ได้มีโอกาสถูกบีบและเสียคะแนน
แต่หากเจริญโทคุมระยะไกลและเตะทำลายจังหวะได้ต่อเนื่อง เกมจะเทไปทางฝ่ายแดงทันที


คู่ที่ 3: เฟสบุ๊ค ถนนทองยิม vs เพชรฤทธิ์ ซุปเปอร์เล็กมวยไทย (100 ปอนด์)

แดง น้ำเงิน
เฟสบุ๊ค – ตามพิกัด เพชรฤทธิ์ – ตามพิกัด

คู่ที่สามเป็นพิกัด 100 ปอนด์ที่ได้รับความสนใจเพราะทั้งสองชั่งได้ตามพิกัด ทำให้สภาพร่างกายพร้อมเต็มร้อย
เฟสบุ๊คเป็นมวยอาวุธหนัก มีไลฟ์สไตล์การชกที่แน่นอน ถอย-เตะ-คุมจังหวะ ขณะที่เพชรฤทธิ์เป็นมวยเดินหน้า
พร้อมทะลวงทุกระยะด้วยหมัดและศอกที่อันตราย หากเฟสบุ๊คตั้งกำแพงและดักเตะได้ดีจะคุมเกมได้ แต่หากเพชรฤทธิ์เข้าระยะประชิดสำเร็จ
จะเป็นฝ่ายน่ากลัวทันที คู่นี้มีโอกาสลุ้นน็อกเอาต์มากกว่าในหลายคู่


คู่ที่ 4: แสนเพชร เกียรติพานทอง vs แนวหน้า เพชร ปตอ. (114 ปอนด์)

แดง น้ำเงิน
แสนเพชร – ลด 0.7 ปอนด์ แนวหน้า – ตามพิกัด

แสนเพชรลดน้ำหนักค่อนข้างเยอะ ซึ่งอาจทำให้แรงปลายไม่ดีเท่าที่ควร แต่มีจุดแข็งคือความแม่นยำของจังหวะเตะสกัดและทักษะเกมรับที่เหนียวแน่น
ส่วนแนวหน้าเป็นมวยจัดจ้าน เดินทำดี มีแรงประทะหนักและได้เปรียบด้านความสดจากการชั่งตามพิกัดแบบพอดี
ไฟต์นี้จะเป็นเกมที่ฝ่ายแดงต้องประหยัดแรงและเน้นออกอาวุธที่ได้ผลจริง ส่วนฝ่ายน้ำเงินต้องเร่งเดินกดดันเพื่อคว้าคะแนนในช่วงยกกลางเกม


คู่ที่ 5: อภิชัย ส.สมนึก vs เพชรเมืองโอ่ง พชรยิม (139 ปอนด์)

แดง น้ำเงิน
อภิชัย – ตามพิกัด เพชรเมืองโอ่ง – ตามพิกัด

คู่นี้ถือเป็นคู่เดือดตัวจริงของรายการเพราะทั้งสองฝ่ายชั่งได้ตามพิกัด ทำให้ความพร้อมเท่ากันทั้งคู่
อภิชัยเป็นมวยที่ครบเครื่อง มีหมัดแม่นยำและลูกเตะที่แรง ส่วนเพชรเมืองโอ่งเป็นมวยที่มีความดุดัน
เดินบุกแบบไม่กลัวใครและมีพละกำลังในการออกหมัดชุดอย่างน่าทึ่ง ไฟต์นี้ต้องลุ้นกันว่าจะเป็นเกมระวังตัวเชิงเทคนิค
หรือจะระเบิดศึกบู๊เต็มสูบตั้งแต่ยกแรก ผู้ที่สามารถยืนพื้นและรักษาความนิ่งได้ดีกว่าจะเป็นฝ่ายครองความได้เปรียบ


คู่ที่ 6: โชกุน ถนนทองยิมส์ vs ปราบธรณี สิงห์คลองสี่ (100 ปอนด์)

แดง น้ำเงิน
โชกุน – ตามพิกัด ปราบธรณี – ตามพิกัด

คู่ที่หกเป็นพิกัดเดียวกันและชั่งได้เท่ากันทั้งคู่ ทำให้เป็นเกมที่น่าจับตาเพราะเป็นการวัดกันที่สกิลล้วน ๆ
โชกุนเป็นมวยสายจังหวะ แม่น วางแข้งดี ขณะที่ปราบธรณีเป็นมวยเดินเร็ว ดุดันและมีพลังหมัดที่ประมาทไม่ได้
ถ้าโชกุนควบคุมจังหวะได้จะได้เปรียบชัดเจน แต่หากปล่อยให้ปราบธรณีปิดพื้นที่และเดินบีบ มีสิทธิ์โดนหมัดหนักจนเสียเกมได้ทันที


คู่ที่ 7: จาวาด ธันเดอร์มวยไทย vs เพชรดำ สิงห์ศาลายา (114 ปอนด์)

แดง น้ำเงิน
จาวาด – ลด 0.2 ปอนด์ เพชรดำ – ลด 0.2 ปอนด์

คู่ที่เจ็ดเป็นคู่ที่นักวิเคราะห์มองว่าสูสีที่สุดในรายการ เนื่องจากทั้งจาวาดและเพชรดำลดน้ำหนักเท่ากันและมีความฟิตสูง
จาวาดเป็นผู้ที่โดดเด่นด้านความเร็วและไหวพริบ เข้าทำไว ขณะที่เพชรดำเป็นมวยฝีมือที่มีลูกเตะรุนแรงและมีหมัดที่ทรงพลัง
ไฟต์นี้ต้องวัดกันว่าใครสามารถรักษาจังหวะการยืนและความต่อเนื่องของการออกอาวุธได้ดีกว่า
เพราะฝ่ายที่ออกอาวุธขาด ๆ หาย ๆ จะเสียคะแนนทันที คู่นี้มีโอกาสเป็นไฟต์ประทับใจประจำสัปดาห์


คู่ที่ 8: หลานย่าแก้ว ก็อตชี้มวยชอบ vs เหนือเพชร พุฒิประชาชื่น (118 ปอนด์)

แดง น้ำเงิน
หลานย่าแก้ว – ตามพิกัด เหนือเพชร – ลด 2.0 ปอนด์

คู่รองของรายการเป็นคู่ที่มีความต่างด้านน้ำหนักชัดเจน โดยเหนือเพชรต้องลดถึง 2 ปอนด์
ซึ่งอาจกระทบพลังงานและความสดในการออกอาวุธ ขณะที่หลานย่าแก้วมีความพร้อมเต็มร้อยจากการชั่งตามพิกัด
มีอาวุธครบมือและเป็นมวยที่มีรูปแบบการชกสวยงาม ทำให้คู่ชกอย่างเหนือเพชรต้องระวังหลายจุด
ถ้าเหนือเพชรฟื้นตัวไม่ดีอาจเสียเปรียบตั้งแต่ต้นเกมได้ แต่ถ้าเขายังมีความอึดพอ เกมนี้จะออกสู้ได้สนุกสูสี
เพราะเหนือเพชรมีลูกบู๊ที่สามารถสร้างแรงกระเพื่อมให้คู่ต่อสู้เสียจังหวะได้เช่นกัน


คู่ที่ 9: ชัยมงคล ภูเก็ตไฟต์คลับ vs เพชรพญาไท แสงมรกต (129 ปอนด์)

แดง น้ำเงิน
ชัยมงคล – ลด 0.5 ปอนด์ เพชรพญาไท – ตามพิกัด

คู่เอกของรายการเป็นการปะทะกันในพิกัด 129 ปอนด์ระหว่างชัยมงคลและเพชรพญาไท
โดยชัยมงคลลดน้ำหนักเล็กน้อยแต่ยังคงสภาพร่างกายที่ดี ส่วนเพชรพญาไทเป็นมวยที่มีความครบเครื่องและชั่งได้ตามพิกัด
เกมนี้ถูกคาดหมายว่าจะเป็นไฟต์ที่ดุดันมาก เพราะทั้งคู่ต่างมีสไตล์บู๊ เดินเข้าหา ออกหมัดเป็นชุด และมีสภาพร่างกายแข็งแกร่ง
หากชัยมงคลสามารถออกแข้งยาวคุมเกมได้จะมีโอกาสสร้างคะแนน แต่ถ้าเพชรพญาไทเดินประชิดและเข้าทำด้วยหมัดและศอกมากขึ้น
อาจเป็นฝ่ายกดดันจนทำให้ชัยมงคลเสียพื้นที่ คู่นี้ถือเป็นคู่เอกที่มีความมันครบสูตร


สรุปภาพรวม ศึกจิตรเมืองนนท์

ภาพรวมของศึกจิตรเมืองนนท์ในวันนี้เต็มไปด้วยการแข่งขันที่สูสีและน่าติดตามอย่างยิ่ง
ตั้งแต่คู่เปิดหัวไปจนถึงคู่ปิดเวทีมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและสไตล์การชกที่แตกต่างกัน ทำให้บรรยากาศของการรับชมเต็มไปด้วยความคึกคัก
ผลการชั่งน้ำหนักโดยรวมออกมาดีมาก นักมวยทั้งเก้าคู่มีสภาพร่างกายพร้อมเต็มที่ในการขึ้นชก
จึงคาดว่าคืนนี้จะเป็นอีกหนึ่งวันแห่งความมันของแฟนมวย ที่จะได้เห็นทั้งความเร็ว ความแม่นยำ ความบู๊ และความตื่นเต้นของมวยไทยอย่างแท้จริง
หากแฟนมวยกำลังมองหาศึกที่มีทั้งดาวรุ่งและมวยฝีมือเต็มคุณภาพ ศึกจิตรเมืองนนท์ครั้งนี้ถือเป็นรายการที่ไม่ควรพลาดแม้แต่วินาทีเดียว