โปรแกรมมวย ศึกท่อน้ำไทยเกียรติเพชรทีเคโอ วันที่ 14 ธันวาคม 2568 จัดที่เวทีมวยราชดำเนิน เริ่มเวลา 18.00 น. วันนี้มีทั้งหมด 4 คู่ โดยภาพรวมการชั่งน้ำหนักมีทั้งกรณี “ขาด” สองมุมแบบชัดเจนในคู่ที่ 1 และกรณี “ชั่งได้ตามพิกัด” ที่พบในมุมแดงของคู่ที่ 2 และมุมน้ำเงินของคู่ที่ 4 ซึ่งมักสะท้อนความลงตัวในการคุมน้ำหนัก ส่วนคู่ที่ 2–4 ยังมีตัวเลขรูปแบบติดลบในประกาศที่ควรอ่านให้ถูกว่าเป็น “เกิน” เพื่อไม่ให้สับสนเวลาประเมินสภาพร่างกาย

ตารางคู่ชกมวยวันนี้ (ศึกท่อน้ำไทยเกียรติเพชรทีเคโอ)
| คู่ชกที่ | มุมแดง | พิกัด (ปอนด์) | ชั่งได้มุมแดง | มุมน้ำเงิน | พิกัด (ปอนด์) | ชั่งได้มุมน้ำเงิน |
|---|---|---|---|---|---|---|
| 1 | ศิลาเพชร (ช.ชนะชัย) | 111 | 110.4 ขาด 0.6 | คนชลเล็ก (โชติบางแสน) | 111 | 110.2 ขาด 0.8 |
| 2 | ศิลปะไทย (ซูจีบะหมี่เกี๊ยว) | 110 | ชั่งได้ตามพิกัด | เพชรชุมพร (เกียรติยอดยิ่ง) | 110 | 110.5 เกิน 0.5 |
| 3 | ธีเดช (ช้างนครศรี) | 128 | 127.9 ขาด 0.1 | ตะวันฉาย (ศิริลักษณ์มวยไทย) | 128 | 128.8 เกิน 0.8 |
| 4 | เพชรกล้า (อินไฟลท์สไตล์) | 129 | 130 เกิน 1.0 | มหาสมุทร (แป๊ะมีนบุรี) | 129 | ชั่งได้ตามพิกัด |
หมายเหตุ: ตารางนี้สรุปตามประกาศโปรแกรมและผลการชั่งน้ำหนักที่ให้มา โดยบางคู่มีการเขียนตัวเลขลักษณะ “ชั่งได้ 110.5 – 0.5” ซึ่งในหน้านี้ตีความเป็น “เกิน 0.5” เพื่อให้สอดคล้องกับตัวเลขชั่งได้ที่มากกว่าพิกัด อย่างไรก็ตามในวันแข่งขันจริงอาจมีการตรวจซ้ำหรือมีประกาศยืนยันเพิ่มเติมจากผู้จัดและเวที จึงควรยึดข้อมูลหน้างานเป็นหลักหากมีการเปลี่ยนแปลง เพื่อการติดตามกีฬาที่ถูกต้องและเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย
มุมมองภาพรวมก่อนดู: ชั่งขาด–ชั่งเกิน มีผลกับเกมอย่างไร
การชั่ง “ขาด” คือการชั่งได้น้อยกว่าพิกัดที่กำหนด เช่น 110.4 ขาด 0.6 หมายถึงพิกัด 111 แต่ชั่งจริง 110.4 ในแง่การดูเกม คนที่ชั่งขาดอาจดูคล่องขึ้น เคลื่อนที่ไวขึ้น และออกอาวุธเป็นชุดได้ถี่ขึ้น แต่ก็ต้องจับตาว่าความอึดและแรงปลายยังอยู่หรือไม่ โดยเฉพาะถ้าขาดมากจนร่างกายแห้งเกินไป บางครั้งอาจทำให้ยกท้าย ๆ ช้าลงหรือรับแรงปะทะหนัก ๆ ได้ยากกว่าปกติ
ส่วนการชั่ง “เกิน” คือชั่งได้มากกว่าพิกัด เช่น พิกัด 110 แต่ชั่ง 110.5 ย่อมสะท้อนว่ามีส่วนเกิน 0.5 ซึ่งในเชิงเทคนิคอาจทำให้ดูแน่นขึ้นและแรงปะทะหนักขึ้น แต่ก็ต้องดูว่าเป็นการเกินที่เกิดจากความหนาแน่นของกล้ามเนื้อหรือเกิดจากการคุมน้ำหนักไม่ลงตัว เพราะถ้าคุมไม่ดี บางคนจะเหนื่อยเร็วเมื่อเกมเร่ง และการหายใจในช่วงยก 3–4 อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้รูปเกมพลิกได้ง่ายกว่าที่คาดไว้
รายละเอียดคู่ชกและวิเคราะห์รายคู่
คู่ที่ 1: ศิลาเพชร (ช.ชนะชัย) พบ คนชลเล็ก (โชติบางแสน) | พิกัด 111 ปอนด์
คู่เปิดรายการของโปรแกรมมวย ศึกท่อน้ำไทยเกียรติเพชรทีเคโอ วันนี้อยู่ที่พิกัด 111 ปอนด์ โดยศิลาเพชรชั่งได้ 110.4 ขาด 0.6 และคนชลเล็กชั่งได้ 110.2 ขาด 0.8 ถือว่า “ขาด” ทั้งสองมุมและน้ำเงินขาดมากกว่าเล็กน้อย จุดนี้ทำให้เกมน่าจะออกมาเร็วตั้งแต่ยกแรก เพราะทั้งคู่มีแนวโน้มเน้นความคล่องและจังหวะออกอาวุธไวเพื่อคุมคะแนนก่อน และหลีกเลี่ยงการยืนนานในวงในหากรู้สึกว่าแรงปลายยังไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์
สิ่งที่ควรจับตาคือการคุมระยะและการวางเท้า ใครคุมพื้นที่เวทีได้ก่อนมักคุมโทนเกมได้ก่อน เพราะพิกัดนี้ถ้าปล่อยให้คู่ต่อสู้เดินกดและบังคับให้ถอย จะเสียจังหวะการออกอาวุธอย่างเห็นได้ชัด อีกประเด็นคือเมื่อทั้งคู่ชั่งขาด ยกกลาง ๆ จะเป็นช่วงพิสูจน์ว่าใครรักษาความเร็วและความคมได้ต่อเนื่อง หากฝ่ายใดเริ่มช้าลง อีกฝ่ายอาจเร่งออกอาวุธเป็นชุดเพื่อปิดบัญชีคะแนนแบบชัด ๆ ในสายตากรรมการได้
คู่ที่ 2: ศิลปะไทย (ซูจีบะหมี่เกี๊ยว) พบ เพชรชุมพร (เกียรติยอดยิ่ง) | พิกัด 110 ปอนด์
คู่ที่ 2 พิกัด 110 ปอนด์ ศิลปะไทยมุมแดงชั่งได้ตามพิกัด ซึ่งโดยภาพรวมมักสื่อว่าคุมสภาพร่างกายได้ลงตัวและมีโอกาสยืนระยะได้ดีตลอดเกม ขณะที่เพชรชุมพรชั่งได้ 110.5 ซึ่งมากกว่าพิกัด 0.5 โดยในประกาศเดิมเขียนรูปแบบ “110.5 – 0.5” เราจึงสรุปให้เข้าใจง่ายว่าเป็น “เกิน 0.5” ทำให้คู่นี้มีความต่างเชิงสภาพร่างกายให้ดูว่าฝ่ายที่เกินจะใช้ความแน่นและแรงปะทะสร้างผลในช่วงต้นเกมได้หรือไม่
มุมวิเคราะห์สำหรับคู่นี้อยู่ที่การจัดการจังหวะและการเลือกเล่นเกม ถ้าแดงตามพิกัดและดูสดกว่า อาจเลือกคุมเกมแบบปลอดภัย เน้นอาวุธที่ชัดและไม่เสี่ยงแลกวงในนานเกินจำเป็น เพื่อเก็บแต้มทีละยกให้แน่น ส่วนฝั่งน้ำเงินที่เกินเล็กน้อย หากร่างกายแน่นจริงอาจพยายามเดินบด บังคับให้มีการปะทะ และใช้ความหนักของหมัดหรือเตะลำตัวเพื่อให้แดงเสียอาการ แต่ถ้าการเกินทำให้เหนื่อยง่าย ยกท้าย ๆ อาจกลายเป็นช่องให้แดงที่คุมแรงดีค่อย ๆ ขยายความได้เปรียบ
คู่ที่ 3: ธีเดช (ช้างนครศรี) พบ ตะวันฉาย (ศิริลักษณ์มวยไทย) | พิกัด 128 ปอนด์
คู่ที่ 3 พิกัด 128 ปอนด์ ธีเดชมุมแดงชั่งได้ 127.9 ขาด 0.1 ซึ่งเป็นการขาดเล็กน้อยมากและแทบไม่ส่งผลในเชิงความใหญ่ของร่างกาย แต่ช่วยให้หลายคนมองว่าแดงคุมน้ำหนักมาพอดีและน่าจะมีความคล่องครบถ้วน ขณะที่ตะวันฉายมุม น้ำเงินชั่งได้ 128.8 ซึ่งมากกว่าพิกัด 0.8 (ประกาศเดิมเขียน “128.8-0.8”) จึงเป็นคู่ที่น่าดูว่าฝั่งน้ำเงินจะใช้ความแน่นและแรงปะทะกดเกมได้ตั้งแต่ยกต้น ๆ หรือแดงจะใช้ความไวและความคมชิงจังหวะนำก่อน
คีย์สำคัญคือ “ใครคุมจังหวะเกมได้ในยก 2–3” เพราะพิกัดนี้เมื่อเริ่มจับทางกันได้แล้ว เกมจะเปลี่ยนจากการลองเชิงเป็นการวัดกันที่ความชัดของอาวุธหลัก หากน้ำเงินเดินติดและบี้ได้ จะทำให้แดงต้องใช้พลังในการหนีและกันเข่าเยอะขึ้น แต่ถ้าแดงคุมระยะนอกได้ด้วยการเตะนำ ดักแทง และคุมทรงให้ได้เปรียบภาพรวม น้ำเงินที่เกิน 0.8 อาจต้องระวังเรื่องการเร่งเกมเกินจนเหนื่อยเร็ว โดยเฉพาะถ้าแดงสามารถยื้อจังหวะให้เกมยาวและค่อย ๆ เก็บแต้มแบบไม่พลาดง่าย ๆ
คู่ที่ 4: เพชรกล้า (อินไฟลท์สไตล์) พบ มหาสมุทร (แป๊ะมีนบุรี) | พิกัด 129 ปอนด์
คู่ที่ 4 เป็นอีกคู่ที่สะท้อนความต่างเรื่องการชั่งน้ำหนักชัดเจน เพชรกล้ามุมแดงชั่งได้ 130 ซึ่งมากกว่าพิกัด 129 อยู่ 1.0 (ประกาศเดิมเขียน “130 – 1.0”) ขณะที่มหาสมุทรมุมน้ำเงินชั่งได้ตามพิกัด การเกินถึง 1 ปอนด์เป็นตัวเลขที่คนดูมักหยิบมาพูดถึง เพราะอาจสัมพันธ์กับความแน่นและแรงปะทะ แต่ก็พ่วงคำถามเรื่องการจัดการน้ำหนักและความฟิตที่ต้องพิสูจน์ในยกท้าย ๆ ว่าจะคุมลมหายใจและการออกอาวุธต่อเนื่องได้ไหม
มุมดูเกมคู่นี้คือการแบ่งช่วงเกมให้ชัด หากแดงแน่นและหนักจริง ยกแรก ๆ อาจพยายามเดินกดและทำให้เกิดการปะทะเพื่อเอาความหนักสร้างความได้เปรียบแบบเห็นภาพ แต่หากน้ำเงินที่ตามพิกัดคุมแรงได้ดี อาจเลือกเล่นเกมรับแล้วโต้ด้วยอาวุธที่ชัด เน้นความแม่นและการทรงตัวเพื่อให้รูปเกมดูเหนือกว่าในสายตากรรมการ เมื่อเข้ายก 3–4 จะเป็นช่วงตัดสินว่าแดงที่เกินพิกัดยังคงความสดได้หรือเริ่มช้าลง และถ้าเริ่มช้า น้ำเงินมีโอกาสเร่งเก็บแต้มช่วงปลายยกได้มากขึ้น
สำหรับคอวัวชนตัวจริง การติดตามชมการแข่งขันสดๆ
ไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหว เว็บดูวัวชนสด อันดับ 1 ที่ให้ประสบการณ์ที่ดีที่สุด
วิธีอ่าน “พิกัด–ชั่งได้–ขาด/เกิน” ในโปรแกรมมวยให้เข้าใจเร็ว
พิกัดคือกรอบน้ำหนักที่กำหนดไว้สำหรับคู่นั้น ๆ เช่น 111, 110, 128, 129 ปอนด์ ส่วนชั่งได้คือผลชั่งจริงในวันชั่งน้ำหนัก เมื่อเห็นคำว่า “ขาด” ให้เข้าใจว่าเลขชั่งได้น้อยกว่าพิกัดตามจำนวนที่ระบุ เช่น 110.2 ขาด 0.8 หมายถึงพิกัด 111 แต่ชั่งจริง 110.2 ขาดไป 0.8 ปอนด์ การขาดอาจเป็นการตั้งใจลดเพื่อเพิ่มความคล่อง หรืออาจเป็นผลจากการคุมน้ำหนักหนักเกินไปจนน่าห่วงเรื่องแรงปลาย จึงควรดูภาพรวมสภาพร่างกายประกอบเสมอ
กรณีตัวเลขที่เขียนแบบ “110.5 – 0.5” มักทำให้คนอ่านงง เพราะเห็นเครื่องหมายลบแล้วเผลอคิดว่าเป็น “ขาด” ทั้งที่จริงตัวเลขชั่งได้มากกว่าพิกัด เราจึงจัดรูปแบบใหม่ให้สื่อความหมายตรงกว่า โดยใช้คำว่า “เกิน 0.5” พร้อมใส่วงเล็บว่าเป็นรูปแบบการเขียนจากประกาศเดิม เพื่อให้คุณเทียบคู่ได้ถูกต้อง เช่น พิกัด 110 แต่ชั่ง 110.5 ย่อมเป็นเกิน 0.5 และพิกัด 128 แต่ชั่ง 128.8 ย่อมเป็นเกิน 0.8 การอ่านแบบนี้ช่วยลดความสับสนและทำให้การวิเคราะห์ก่อนชกมีเหตุผลมากขึ้น
ข้อมูลเวทีราชดำเนิน และเวลาเริ่มงาน
รายการวันนี้จัดที่เวทีมวยราชดำเนินและเริ่มเวลา 18.00 น. หากต้องการดูครบทุกคู่และเก็บบรรยากาศตั้งแต่คู่เปิด แนะนำให้เผื่อเวลามาถึงก่อนเริ่มอย่างน้อย 30–60 นาที เพื่อเข้าพื้นที่ หาที่นั่ง และฟังประกาศย้ำรายละเอียดหน้างาน เพราะบางวันอาจมีการขยับคิวขึ้นชกตามความเหมาะสมของรายการ การมาก่อนเวลายังช่วยให้คุณจับสังเกตสภาพนักมวยตอนวอร์มและอารมณ์ของกองเชียร์ ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่ทำให้การดูมวยสนุกขึ้นและอ่านเกมได้แม่นขึ้น
วิธีติดตามโปรแกรมและรายละเอียดที่อาจเปลี่ยนแปลงในวันชก ควรยึดประกาศจากผู้จัดและเวทีเป็นหลัก โดยเฉพาะประเด็นชั่งน้ำหนักในคู่ที่มีตัวเลขเกินพิกัด เพราะอาจมีการตรวจสอบเพิ่มเติมหรือการชี้แจงรูปแบบการบันทึกตัวเลข เมื่อคุณอ่านตารางในหน้านี้แล้ว แนะนำให้ใช้เป็น “ภาพรวมก่อนดู” จากนั้นไปฟังประกาศยืนยันหน้างานอีกครั้ง เพื่อให้ข้อมูลตรงกับสถานการณ์จริงและติดตามกีฬาอย่างรับผิดชอบที่สุด
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
โปรแกรมมวย ศึกท่อน้ำไทยเกียรติเพชรทีเคโอ 14 ธันวาคม 2568 เริ่มกี่โมง และจัดที่ไหน?
โปรแกรมมวย ศึกท่อน้ำไทยเกียรติเพชรทีเคโอ วันอาทิตย์ที่ 14 ธันวาคม 2568 เริ่มเวลา 18.00 น. ที่เวทีมวยราชดำเนิน โดยหากต้องการดูครบทุกคู่ตั้งแต่ต้นรายการ แนะนำให้ไปถึงก่อนเวลาเพื่อเข้าพื้นที่และฟังประกาศย้ำลำดับคู่ รวมถึงตรวจสอบรายละเอียดหน้างานในกรณีที่มีการปรับคิวหรือมีข้อมูลยืนยันเพิ่มเติมเกี่ยวกับการชั่งน้ำหนักของแต่ละคู่
วันนี้มีทั้งหมดกี่คู่ และพิกัดเท่าไหร่บ้าง?
วันนี้มีทั้งหมด 4 คู่ตามโปรแกรมที่ประกาศ โดยพิกัดคือ 111 ปอนด์ (คู่ที่ 1), 110 ปอนด์ (คู่ที่ 2), 128 ปอนด์ (คู่ที่ 3) และ 129 ปอนด์ (คู่ที่ 4) คุณสามารถดูภาพรวมได้จากตารางคู่ชกที่จัดรูปแบบให้อ่านเร็ว และหากต้องการรายละเอียดเชิงเกมให้กดข้ามไปอ่านวิเคราะห์รายคู่ ซึ่งจะสรุปความหมายของ “ขาด/เกิน” และจุดที่ควรจับตาในแต่ละคู่แบบเป็นขั้นเป็นตอน
“ชั่งได้ 110.4 ขาด 0.6” หมายถึงอะไร?
ข้อความ “ชั่งได้ 110.4 ขาด 0.6” หมายถึงพิกัดกำหนดไว้ 111 ปอนด์ แต่ชั่งจริงได้ 110.4 จึงต่ำกว่าพิกัดอยู่ 0.6 ปอนด์ ในเชิงการดูเกม อาจสะท้อนว่าฝ่ายนั้นลดน้ำหนักมาเพื่อความคล่องและความเร็ว แต่ควรดูประกอบกับสภาพร่างกายจริงบนเวทีว่าดูแห้งเกินไปหรือยังแน่นสด เพราะถ้าขาดมากอาจส่งผลต่อแรงปลายและความอึดเมื่อเกมยื้อถึงยกท้าย ๆ
เลขแบบ “110.5 – 0.5” หรือ “130 – 1.0” ควรอ่านว่าเกินหรือขาด?
ในหลายประกาศจะเขียนตัวเลขลักษณะ “ชั่งได้ 110.5 – 0.5” ซึ่งอาจทำให้สับสน แต่เมื่อเทียบกับพิกัด 110 แล้วน้ำหนัก 110.5 มากกว่า จึงควรอ่านเป็น “เกิน 0.5” เช่นเดียวกับ “130 – 1.0” เมื่อพิกัดคือ 129 แล้วชั่งได้ 130 ก็เป็น “เกิน 1.0” หน้านี้จึงแปลงให้เป็นคำว่าเกินพร้อมระบุรูปแบบเดิมในวงเล็บ เพื่อให้คนอ่านเข้าใจตรงกันและไม่ตีความผิดเวลาเทียบสภาพร่างกายก่อนชก
คู่ไหนน่าจับตาจากผลชั่งน้ำหนักมากที่สุดในวันนี้?
หากดูจากความต่างของการชั่งน้ำหนัก คู่ที่ 1 น่าจับตาเพราะทั้งสองมุมชั่งขาดและน้ำเงินขาดมากกว่าเล็กน้อย ซึ่งอาจทำให้เกมเร็วและวัดกันที่การยืนระยะ ส่วนคู่ที่ 4 น่าดูเพราะแดงชั่งเกินถึง 1 ปอนด์ขณะที่น้ำเงินตามพิกัด ทำให้มีคำถามเรื่องความแน่นกับความฟิตปลายยกให้ลุ้น เมื่อดูจริงให้สังเกตว่าใครคุมระยะและคุมแรงได้ดีกว่ากันในยก 3–4 ซึ่งมักเป็นช่วงที่เห็นผลของการคุมน้ำหนักชัดที่สุด
