ศึกมวยดีวิถีไทย ในวันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน 2568 ถือเป็นหนึ่งในรายการมวยไทยวันหยุดที่แฟนหมัดมวยให้ความสนใจอย่างมาก เพราะจัดขึ้นที่เวทีมวยจิตรเมืองนนท์ อตก.3 จังหวัดนนทบุรี อันเป็นเวทีที่ขึ้นชื่อเรื่องการคัดสรรคู่มวยคุณภาพมาให้ชมกันอย่างต่อเนื่อง โดยในครั้งนี้ศึกมวยดีวิถีไทย เริ่มชกตั้งแต่เวลา 11.00 น. เป็นต้นไป เหมาะสำหรับแฟนมวยที่อยากเริ่มต้นเช้าวันอาทิตย์ด้วยศิลปะแม่ไม้มวยไทยอย่างเต็มอรรถรสตั้งแต่ช่วงสายของวัน

โปรแกรมมวย ศึกมวยดีวิถีไทย 23 พฤศจิกายน 2568 : เวทีมวยจิตรเมืองนนท์ อตก.3 นนทบุรี

ภาพรวมศึกมวยดีวิถีไทย วันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน 2568

ศึกมวยดีวิถีไทย รอบนี้จัดเต็มด้วยโปรแกรมการแข่งขันทั้งหมด 8 คู่ ครอบคลุมทั้งมวยเด็กพิกัดกิโลกรัมและมวยอาชีพพิกัดปอนด์ สะท้อนให้เห็นถึงแนวคิดของรายการที่ต้องการสร้างสมดุลระหว่างการผลักดันเยาวชนสายมวยไทยรุ่นใหม่กับการนำเสนอเกมการชกที่เข้มข้นของมวยอาชีพ การจัดศึกมวยดีวิถีไทย ที่เวทีมวยจิตรเมืองนนท์ อตก.3 จึงกลายเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้ทั้งนักชกรุ่นเล็กและรุ่นใหญ่ได้แสดงฝีมือให้แฟนมวยทั่วประเทศรับชมพร้อมกัน

ด้วยช่วงเวลาแข่งขันตั้งแต่ 11.00 น. ศึกมวยดีวิถีไทย จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับแฟนมวยที่ต้องการใช้เวลาช่วงสายไปจนถึงเที่ยงวันอาทิตย์ในการติดตามมวยไทยอย่างจริงจัง ผู้ชมสามารถวางแผนเดินทางไปเชียร์ข้างเวที หรือเตรียมตัวรับชมที่บ้านได้อย่างสะดวกสบาย การที่รายการรวมคู่มวยหลากพิกัดตั้งแต่ 31 กิโลกรัมไปจนถึง 125 ปอนด์ ช่วยให้ผู้ชมได้สัมผัสทั้งความเร็ว ความแข็งแรง และแท็กติกหลากหลายรูปแบบในศึกมวยดีวิถีไทย เพียงบัตรเดียวอย่างครบถ้วน

ตารางการแข่งขัน ศึกมวยดีวิถีไทย เวทีมวยจิตรเมืองนนท์

เพื่อให้เห็นภาพรวมของโปรแกรมมวยในศึกมวยดีวิถีไทย วันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน 2568 อย่างชัดเจน ตารางด้านล่างนี้จะสรุปข้อมูลสำคัญของทุกคู่ ตั้งแต่ชื่อนักมวย พิกัดการชก หน่วยน้ำหนัก ไปจนถึงผลการชั่งน้ำหนักเบื้องต้น แฟนมวยสามารถใช้ตารางนี้เป็นข้อมูลประกอบการวิเคราะห์รูปมวย รวมถึงใช้เช็กลำดับคู่และพิกัดก่อนรับชมศึกมวยดีวิถีไทย จริงบนเวทีได้อย่างสะดวก

คู่ที่ มุมแดง พิกัด (หน่วย) ชั่งได้ มุมน้ำเงิน พิกัด (หน่วย) ชั่งได้ หมายเหตุ
1 ชลธารน้อย ก.อดิศักดิ์ 100.0 ปอนด์ ตามพิกัด เพชรอิทธิภูมิ 89คัลเลอร์ 100.0 ปอนด์ ตามพิกัด คู่เปิดศึกมวยดีวิถีไทย พิกัดเล็กเร็วจัด
2 รถโฟล์ค ศิษย์แก้วประพล 31.0 กก. ตามพิกัด หยกมณี เสี่ยกอล์ฟยานนาวา 31.0 กก. ตามพิกัด มวยเยาวชนพิกัด 31 กิโลกรัม
3 แข้งทอง ส.ซากีฟ 105.0 ปอนด์ ตามพิกัด เอฟ16 สจ.วิชิตแปดริ้ว 105.0 ปอนด์ ตามพิกัด มวยพิกัด 105 ปอนด์เกมเร็วดุดัน
4 ธีระภัทร ศิษย์ครูชาติ 100.0 ปอนด์ ชั่งได้ ฉัตรเงินเล็ก พชรยิมส์ 100.0 ปอนด์ ตามพิกัด สายมวยฝีมือ พบมวยจังหวะจัด
5 สิงห์ดำ ศักดิ์แสนพล 117.0 ปอนด์ ชั่งได้ เพชรพยัคฆ์ พุฒิประชาชื่น 117.0 ปอนด์ ชั่งได้ คู่พิกัด 117 ปอนด์ น่าจับตามอง
6 กระเหรี่ยงไทย ก.เพชรสิทธิพงษ์ 108.0 ปอนด์ ตามพิกัด ภาค9 พ.รัชกิจปราการ 108.0 ปอนด์ ตามพิกัด มวยสมดุล น้ำหนักพอดีทั้งคู่
7 ยางดำ จิตรเมืองนนท์ 124.0 ปอนด์ ตามพิกัด อสูรน้อย ศิษย์จ่าสิงห์ 125.0 ปอนด์ ตามพิกัด คู่เจ้าบ้านจิตรเมืองนนท์ พบมวยสายบู๊
8 ฟัดดะ ซันรัตภูมิ 108.0 ปอนด์ ตามพิกัด เสือดำ พชรยิมส์ 108.0 ปอนด์ ตามพิกัด คู่ปิดท้ายศึกมวยดีวิถีไทย เกมมันส์แน่นอน

จากตารางการแข่งขันจะเห็นได้ว่า ศึกมวยดีวิถีไทย รอบนี้มีการกระจายพิกัดอย่างหลากหลาย ทั้งมวยเด็ก 31 กิโลกรัม มวยเล็ก 100–105 ปอนด์ ไปจนถึงพิกัดกลางและค่อนไปทางใหญ่ที่ 117 และ 124–125 ปอนด์ ทำให้แฟนมวยสามารถชมความแตกต่างของสไตล์การชกตามน้ำหนักตัวได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ข้อมูลผลการชั่งน้ำหนักยังสะท้อนให้เห็นว่าหลายนักมวยในศึกมวยดีวิถีไทย เตรียมร่างกายมาอย่างดี ชั่งได้ตามพิกัดอย่างเรียบร้อย จึงพร้อมสำหรับเกมดุเดือดบนสังเวียนเต็มที่

วิเคราะห์คู่มวย ศึกมวยดีวิถีไทย 23 พฤศจิกายน 2568

หัวใจสำคัญของการติดตามศึกมวยดีวิถีไทย ไม่ได้อยู่แค่การรู้โปรแกรมว่ามีใครชกกับใครเท่านั้น แต่ยังอยู่ที่การวิเคราะห์รูปมวยและปัจจัยต่าง ๆ ที่อาจมีผลต่อผลแพ้ชนะ ทั้งในมุมของพิกัดน้ำหนัก การชั่งได้ตามพิกัดหรื ชั่งได้เฉย ๆ การเตรียมตัวของค่ายมวย และสไตล์การชกเฉพาะตัวของนักมวยแต่ละคน การวิเคราะห์ต่อไปนี้จะช่วยให้แฟนมวยเข้าใจภาพรวมของแต่ละคู่ในศึกมวยดีวิถีไทย ได้ลึกขึ้น และสนุกกับการรับชมมากยิ่งขึ้นทั้งบนเวทีและหน้าจอ

คู่ที่ 1 ชลธารน้อย ก.อดิศักดิ์ vs เพชรอิทธิภูมิ 89คัลเลอร์ (พิกัด 100 ปอนด์)

คู่เปิดหัวของศึกมวยดีวิถีไทย เป็นการพบกันของ ชลธารน้อย ก.อดิศักดิ์ กับ เพชรอิทธิภูมิ 89คัลเลอร์ ในพิกัด 100 ปอนด์เท่ากันทั้งสองฝ่าย โดยทั้งคู่ชั่งได้ตามพิกัดอย่างไม่มีปัญหา แสดงให้เห็นถึงการคุมร่างกายที่ดีและความพร้อมสำหรับการขึ้นชกในช่วงเช้าวันอาทิตย์ มวยพิกัดเล็กอย่าง 100 ปอนด์มักเน้นความเร็วและการออกอาวุธเป็นชุดมากกว่าการปะทะหนัก ๆ ทำให้คู่เปิดรายการของศึกมวยดีวิถีไทย มีแนวโน้มจะเป็นเกมเร็วสนุกตั้งแต่ระฆังยกแรกดังขึ้น

ด้านสไตล์การชก ชลธารน้อยอาจมีจุดเด่นในเรื่องการยืนระยะและการใช้แข้งคุมจังหวะ หากสามารถใช้ลูกเตะยาวและการรักษาระยะได้ดี ก็จะช่วยเปิดพื้นที่ให้ทำคะแนนได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนเพชรอิทธิภูมิ 89คัลเลอร์ อาจเป็นมวยที่เน้นความขยันเดิน ดักออกหมัดและแข้งเป็นชุดกดดันให้คู่ต่อสู้ต้องถอย ในศึกมวยดีวิถีไทย ไฟต์นี้แฟนมวยจึงควรจับตาว่าใครจะเป็นฝ่ายคุมจังหวะกลางเวทีได้ดีกว่า และใครจะสามารถเปลี่ยนความเร็วให้กลายเป็นคะแนนนำบนสกอร์ได้ก่อนกัน

คู่ที่ 2 รถโฟล์ค ศิษย์แก้วประพล vs หยกมณี เสี่ยกอล์ฟยานนาวา (พิกัด 31 กก.)

คู่ที่สองของศึกมวยดีวิถีไทย เป็นมวยเยาวชนพิกัด 31 กิโลกรัมระหว่าง รถโฟล์ค ศิษย์แก้วประพล และ หยกมณี เสี่ยกอล์ฟยานนาวา ทั้งสองชั่งได้ตามพิกัดอย่างเรียบร้อย สะท้อนถึงความตั้งใจของทั้งนักมวยรุ่นเล็กและทีมงานค่ายที่ดูแลเรื่องน้ำหนักและสภาพร่างกายอย่างดี มวยเยาวชนในศึกมวยดีวิถีไทย มักเป็นภาพสะท้อนของการปั้นนักชกรุ่นใหม่ที่มีทั้งความสด ความกล้า และความมุ่งมั่นที่จะพิสูจน์ตัวเองบนเวทีระดับประเทศ

ในแง่รูปเกม รถโฟล์คอาจใช้ความคล่องตัวและการออกอาวุธรวดเร็วเพื่อเก็บคะแนน ขณะที่หยกมณีซึ่งอยู่ใต้การดูแลของเสี่ยกอล์ฟยานนาวา น่าจะเน้นทั้งความแม่นของแข้งและหมัดผสมกัน สำหรับศึกมวยดีวิถีไทย คู่นี้แม้จะเป็นมวยเด็ก แต่ก็มักมีจังหวะแลกที่น่ารักและน่าลุ้นไปพร้อมกัน แฟนมวยที่ชื่นชอบการเห็นเยาวชนเติบโตบนเส้นทางมวยไทยไม่ควรพลาดไฟต์นี้อย่างยิ่ง

คู่ที่ 3 แข้งทอง ส.ซากีฟ vs เอฟ16 สจ.วิชิตแปดริ้ว (พิกัด 105 ปอนด์)

คู่ที่สามของศึกมวยดีวิถีไทย เป็นการดวลกันในพิกัด 105 ปอนด์ระหว่าง แข้งทอง ส.ซากีฟ และ เอฟ16 สจ.วิชิตแปดริ้ว ซึ่งทั้งสองชั่งได้ตามพิกัดอย่างพร้อมเพรียง ชื่อของแข้งทองเองก็สะท้อนถึงความโดดเด่นด้านลูกเตะ ส่วนชื่อ เอฟ16 ก็ชวนให้แฟนมวยนึกถึงสไตล์การชกที่รวดเร็วและพุ่งตรงคล้ายเครื่องบินรบ เมื่อทั้งสองมาเจอกันในศึกมวยดีวิถีไทย จึงมีแนวโน้มว่าจะเป็นไฟต์ที่เต็มไปด้วยการแลกแข้งและหมัดแบบไม่กลัวเจ็บ เพื่อชิงความได้เปรียบตั้งแต่ช่วงต้นยก

ในเชิงแท็กติก แข้งทอง ส.ซากีฟ อาจพยายามใช้ลูกเตะยาวคุมเกมจากด้านนอก ขณะที่เอฟ16อาจเน้นเดินเข้าหาเพื่อลดระยะและหวังใช้หมัดหรือศอกจบได้ในจังหวะใกล้ เกมประเภทนี้หากใครหลุดสมาธิเพียงเสี้ยววินาทีอาจโดนอาวุธสวนเต็ม ๆ จนเสียรูปมวยได้ทันที ศึกมวยดีวิถีไทย ไฟต์นี้จึงเหมาะสำหรับแฟนมวยที่ชื่นชอบเกมเร็วและการปะทะที่มีความดุเดือดในทุกยก

คู่ที่ 4 ธีระภัทร ศิษย์ครูชาติ vs ฉัตรเงินเล็ก พชรยิมส์ (พิกัด 100 ปอนด์)

คู่ที่สี่เป็นการพบกันในพิกัด 100 ปอนด์ระหว่าง ธีระภัทร ศิษย์ครูชาติ และ ฉัตรเงินเล็ก พชรยิมส์ โดยธีระภัทรระบุเพียงว่า “ชั่งได้” ส่วนฉัตรเงินเล็กชั่งได้ตามพิกัดอย่างชัดเจน แม้จะไม่มีการระบุว่าธีระภัทรขาดหรือเกิน แต่ก็นับว่าอยู่ในกรอบที่กรรมการรับรองให้ขึ้นชกได้ตามกติกา ทั้งสองมาจากค่ายที่ขึ้นชื่อด้านการฝึกมวยเชิงดีและระเบียบวินัย ทำให้แฟนมวยคาดหวังได้ว่าไฟต์นี้ในศึกมวยดีวิถีไทย จะเป็นการโจมตีกันด้วยฝีมือและชั้นเชิงมากกว่าการบู๊แลกกันอย่างเดียว

ธีระภัทร ศิษย์ครูชาติ น่าจะมีจุดแข็งด้านการอ่านเกมและการเลือกจังหวะเข้าออกอย่างชาญฉลาด ขณะที่ฉัตรเงินเล็กจากพชรยิมส์ขึ้นชื่อว่าเป็นมวยที่มีอาวุธครบเครื่องทั้งแข้งและหมัด ในศึกมวยดีวิถีไทย ไฟต์นี้จึงน่าจะเป็นเกมที่เน้นการหักเหลี่ยม เชิงมวยสวย ๆ และการชิงไหวชิงพริบกลางเวที หากใครออกอาวุธได้ชัดเจนและไม่เสียจังหวะมากนัก ก็มีโอกาสสร้างความประทับใจให้กรรมการและแฟนมวยได้อย่างมาก

คู่ที่ 5 สิงห์ดำ ศักดิ์แสนพล vs เพชรพยัคฆ์ พุฒิประชาชื่น (พิกัด 117 ปอนด์)

คู่ที่ห้าของศึกมวยดีวิถีไทย เป็นการปะทะกันในพิกัด 117 ปอนด์ระหว่าง สิงห์ดำ ศักดิ์แสนพล และ เพชรพยัคฆ์ พุฒิประชาชื่น ทั้งสองถูกระบุว่า “ชั่งได้” ในพิกัดเดียวกัน ซึ่งบ่งชี้ว่าทั้งคู่ผ่านการคุมร่างกายมาอย่างเหมาะสมสำหรับการขึ้นชกในรุ่นนี้ พิกัด 117 ปอนด์ถือเป็นระดับที่ผสมผสานระหว่างความเร็วและพละกำลัง ช่วยให้รูปเกมมีทั้งช่วงจังหวะออกอาวุธเร็วและช่วงปะทะหนัก ๆ ที่สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ชมในศึกมวยดีวิถีไทย ได้เป็นอย่างดี

สิงห์ดำ ศักดิ์แสนพล น่าจะเป็นมวยสายแข็งแรงดุดัน เดินหน้าชนและพยายามปักหลักออกอาวุธหนัก ๆ ทำร้ายลำตัวและลำคอคู่ต่อสู้ ส่วนเพชรพยัคฆ์ พุฒิประชาชื่น จากชื่อก็บ่งบอกถึงความดุดันและความคล่องตัวในการเข้าทำ เมื่อทั้งสองสไตล์มาเจอกันในศึกมวยดีวิถีไทย คู่นี้จึงมีโอกาสสูงที่จะกลายเป็นไฮไลต์ของรายการ เพราะโอกาสพลิกเกมด้วยหมัดหรือศอกเพียงครั้งเดียวสามารถเปลี่ยนผลการชกได้ทันที

คู่ที่ 6 กระเหรี่ยงไทย ก.เพชรสิทธิพงษ์ vs ภาค9 พ.รัชกิจปราการ (พิกัด 108 ปอนด์)

คู่ที่หกในศึกมวยดีวิถีไทย เป็นการพบกันของ กระเหรี่ยงไทย ก.เพชรสิทธิพงษ์ และ ภาค9 พ.รัชกิจปราการ ในพิกัด 108 ปอนด์เท่ากันทั้งคู่ โดยนักมวยทั้งสองชั่งได้ตามพิกัดอย่างสมบูรณ์ หมายความว่าร่างกายไม่ได้ถูกเค้นน้ำหนักจนตึงเกินไป สิ่งนี้เปิดโอกาสให้พวกเขาสามารถใช้ศักยภาพเต็มที่ทั้งในด้านความเร็วและความอึดเมื่อต้องยืนระยะหลายยกบนเวทีศึกมวยดีวิถีไทย รอบนี้

กระเหรี่ยงไทยน่าจะเป็นมวยใจสู้ที่เน้นความแข็งแกร่งและการเดินเข้าหาเพื่อกดดันให้คู่ต่อสู้อยู่ในเกมรับ ขณะที่ภาค9 พ.รัชกิจปราการ อาจมีความเด่นด้านความแน่นของยืนการ์ดและการตอบโต้ที่หนักหน่วง ในศึกมวยดีวิถีไทย ไฟต์นี้จึงน่าจะเป็นการวัดกันระหว่างการเดินชนอย่างไม่กลัวเจ็บกับการใช้จังหวะและเทคนิคในการโต้กลับ แฟนมวยที่ชื่นชอบเกมชนิดที่ใครใจใหญ่กว่าและนิ่งกว่าเป็นฝ่ายได้เปรียบไม่ควรพลาดไฟต์นี้เช่นกัน

คู่ที่ 7 ยางดำ จิตรเมืองนนท์ vs อสูรน้อย ศิษย์จ่าสิงห์ (พิกัด 124–125 ปอนด์)

คู่ที่เจ็ดของศึกมวยดีวิถีไทย เป็นการเจอกันของ ยางดำ จิตรเมืองนนท์ ตัวแทนค่ายเจ้าบ้าน กับ อสูรน้อย ศิษย์จ่าสิงห์ ในพิกัดใกล้เคียงกันคือ 124 ปอนด์ฝั่งมุมแดง และ 125 ปอนด์ฝั่งมุมน้ำเงิน ทั้งสองชั่งได้ตามพิกัดของตนเอง แสดงให้เห็นถึงการเตรียมตัวที่ดีจากทั้งสองค่าย การที่นักมวยเจ้าบ้านอย่างยางดำขึ้นชกในศึกมวยดีวิถีไทย ย่อมมีแรงเชียร์จากแฟนมวยในเวทีช่วยเสริมกำลังใจ ขณะเดียวกันอสูรน้อยเองก็น่าจะมาพร้อมความมุ่งมั่นที่จะบุกมาล้มเจ้าถิ่นให้ได้

ยางดำมีแนวโน้มจะเป็นมวยที่มีลูกบู๊ครบเครื่อง ใช้ทั้งแข้ง เข่า และหมัดในการเดินบี้คู่ต่อสู้ ส่วนอสูรน้อย ศิษย์จ่าสิงห์ อาจมีสไตล์เน้นความดุดันสมชื่อ พร้อมที่จะแลกทุกจังหวะหากเห็นโอกาส ศึกมวยดีวิถีไทย คู่นี้จึงอาจกลายเป็นไฟต์เดือดที่เสียงเชียร์ในสนามดังสนั่น เพราะทั้งสองต่างมีเหตุผลของตัวเองในการต้องคว้าชัยชนะ ไม่ว่าจะเป็นศักดิ์ศรีค่ายเจ้าบ้านหรือความมุ่งมั่นของผู้มาเยือน

คู่ที่ 8 ฟัดดะ ซันรัตภูมิ vs เสือดำ พชรยิมส์ (พิกัด 108 ปอนด์)

คู่ปิดท้ายของศึกมวยดีวิถีไทย คือการดวลกันในพิกัด 108 ปอนด์ระหว่าง ฟัดดะ ซันรัตภูมิ และ เสือดำ พชรยิมส์ ทั้งสองชั่งได้ตามพิกัดอย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้ไม่มีฝ่ายใดได้เปรียบเสียเปรียบด้านน้ำหนักก่อนเริ่มเกม ในฐานะคู่ปิดรายการ ศึกมวยดีวิถีไทย มักจัดให้เป็นคู่ที่มีสไตล์ดุเดือด ดูสนุก และสามารถสร้างความประทับใจส่งท้ายให้แฟนมวยทั้งในเวทีและทางบ้านได้อย่างคุ้มค่า

ฟัดดะ ซันรัตภูมิ น่าจะเป็นมวยที่มีหัวใจนักสู้เต็มร้อย พยายามเดินเข้าหาและใช้ลูกหนักเข้ากดดัน ขณะที่เสือดำ พชรยิมส์ น่าจะมีความคล่องตัวสูงและอาจได้เปรียบด้านเชิงมวย เมื่อทั้งสองต้องมาประชันกันในศึกมวยดีวิถีไทย จึงมีแนวโน้มว่ารูปเกมจะเต็มไปด้วยการแลกอาวุธอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ผู้ชมผิดหวังกับคู่ปิดท้าย หากใครคุมอารมณ์และรักษารูปมวยได้ดีกว่า ก็มีโอกาสปิดฉากรายการด้วยชัยชนะและเสียงปรบมือดังสนั่นทั้งเวที

เจาะลึกผลชั่งน้ำหนักและผลต่อเกม ศึกมวยดีวิถีไทย

เมื่อพิจารณาผลชั่งน้ำหนักโดยรวมของศึกมวยดีวิถีไทย ครั้งนี้ จะพบว่านักมวยส่วนใหญ่ชั่งได้ตามพิกัดที่กำหนด ทั้งในรุ่น 100 ปอนด์ 105 ปอนด์ 108 ปอนด์ และพิกัดอื่น ๆ ซึ่งหมายความว่าพวกเขาไม่ต้องเค้นลดน้ำหนักหนักเกินไปในช่วงก่อนชั่ง จึงมีแนวโน้มว่าร่างกายจะสดและยืนระยะได้ดีตลอดทั้งไฟต์ กรณีที่ระบุว่า “ชั่งได้” โดยไม่บอกว่าขาดหรือเกิน เช่น ธีระภัทร สิงห์ดำ และเพชรพยัคฆ์ ก็ยังอยู่ในกรอบน้ำหนักที่ผ่านเกณฑ์ ทำให้ออกสตาร์ทในศึกมวยดีวิถีไทย ได้อย่างมั่นใจเช่นกัน

สำหรับแฟนมวยสายวิเคราะห์ ผลชั่งน้ำหนักถือเป็นข้อมูลสำคัญที่ช่วยประเมินแนวโน้มของรูปเกมในศึกมวยดีวิถีไทย ได้อย่างมีเหตุผล เพราะหากนักมวยคนใดต้องลดเยอะเกินไปมักเสี่ยงต่อการแผ่วปลายในยกท้าย ๆ ขณะที่ผู้ที่ชั่งได้ตามพิกัดหรือขาดเล็กน้อยมักมีความคล่องตัวและมีแรงเหลือสำหรับการเร่งเครื่องช่วงท้าย แม้ในการ์ดนี้จะไม่เห็นตัวเลขการลดหรือขาดที่ชัดเจนทั้งหมด แต่การที่ส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ “ตามพิกัด” ก็ช่วยให้คาดหวังได้ว่าศึกมวยดีวิถีไทย รอบนี้จะเต็มไปด้วยเกมที่ยืนระยะได้ครบถ้วนและสนุกตลอดยก

แนะนำค่ายมวยและสังกัดของนักมวยในศึกมวยดีวิถีไทย

อีกหนึ่งจุดเด่นของศึกมวยดีวิถีไทย คือการที่รายการนี้รวมเอานักมวยจากค่ายต่าง ๆ ที่มีเอกลักษณ์หลากหลายมาพบกันบนเวทีเดียวกัน เราจะได้เห็นชื่อค่ายอย่าง ก.อดิศักดิ์ 89คัลเลอร์ ศิษย์แก้วประพล เสี่ยกอล์ฟยานนาวา ส.ซากีฟ สจ.วิชิตแปดริ้ว ศิษย์ครูชาติ พชรยิมส์ ศักดิ์แสนพล พุฒิประชาชื่น รวมถึง ก.เพชรสิทธิพงษ์ พ.รัชกิจปราการ จิตรเมืองนนท์ ศิษย์จ่าสิงห์ และซันรัตภูมิ ซึ่งล้วนมีสไตล์การปั้นมวยและปรัชญาการฝึกสอนเป็นของตัวเอง เมื่อทุกค่ายมารวมกันในศึกมวยดีวิถีไทย จึงทำให้เวทีนี้มีสีสันและกลายเป็นจุดนัดพบของมวยคุณภาพอย่างแท้จริง

ก.อดิศักดิ์ และ 89คัลเลอร์ สายมวยพิกัดเล็กเกมเร็ว

คู่เปิดหัวของศึกมวยดีวิถีไทย อย่างชลธารน้อย ก.อดิศักดิ์ และเพชรอิทธิภูมิ 89คัลเลอร์ ชี้ให้เห็นบทบาทของค่ายและผู้สนับสนุนในสายพิกัดเล็ก ทั้งสองค่ายให้ความสำคัญกับการสร้างมวยที่มีความเร็ว วินัยสูง และพร้อมลงชกในรายการทีวีสำคัญตั้งแต่ต้นบัตร การได้เปิดรายการในศึกมวยดีวิถีไทย ถือเป็นโอกาสสำคัญที่ทำให้ชื่อของนักมวยและค่ายได้รับการจดจำจากแฟนมวยในวงกว้างมากยิ่งขึ้น

ศิษย์แก้วประพล และ เสี่ยกอล์ฟยานนาวา กับบทบาทการสร้างมวยเยาวชน

รถโฟล์ค ศิษย์แก้วประพล และหยกมณี เสี่ยกอล์ฟยานนาวา ในพิกัด 31 กิโลกรัม เป็นตัวอย่างของการที่ค่ายมวยและผู้สนับสนุนเข้ามามีบทบาทในระดับเยาวชน ทั้งสองสังกัดมุ่งเน้นการเตรียมพื้นฐานมวยไทยที่ถูกต้อง ทั้งเชิงเทคนิคและด้านทัศนคติของนักมวย การได้พาเด็ก ๆ ขึ้นเวทีศึกมวยดีวิถีไทย จึงไม่ใช่แค่การแข่งขัน แต่เป็นการสร้างประสบการณ์และความมั่นใจให้พวกเขาเดินหน้าบนเส้นทางมวยไทยอย่างจริงจังในอนาคต

ส.ซากีฟ สจ.วิชิตแปดริ้ว ศิษย์ครูชาติ พชรยิมส์ และสายมวยฝีมือครบเครื่อง

ค่าย ส.ซากีฟ และ สจ.วิชิตแปดริ้ว ที่ส่งแข้งทองและเอฟ16 ขึ้นสังเวียนในศึกมวยดีวิถีไทย แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจสร้างมวยที่มีทั้งความดุดันและคุณภาพเกมรุกที่หลากหลาย ขณะที่ค่ายศิษย์ครูชาติ และ พชรยิมส์ ซึ่งส่งธีระภัทรและฉัตรเงินเล็ก ก็เป็นสายสอนมวยเชิงดีที่เน้นการอ่านเกมและจังหวะสวยงาม เมื่อมวยจากค่ายเหล่านี้มาพบกันบนเวทีเดียวในศึกมวยดีวิถีไทย จึงทำให้แฟนมวยได้เห็นทั้งความแข็งแรงและความประณีตของเชิงมวยไทยในเวลาเดียวกัน

ศักดิ์แสนพล พุฒิประชาชื่น ก.เพชรสิทธิพงษ์ พ.รัชกิจปราการ จิตรเมืองนนท์ ศิษย์จ่าสิงห์ และซันรัตภูมิ

ด้านค่าย ศักดิ์แสนพล กับ พุฒิประชาชื่น ที่ส่งสิงห์ดำและเพชรพยัคฆ์ลงชกในพิกัด 117 ปอนด์ เป็นตัวแทนของสายมวยพลังปะทะและจิตใจแข็งแกร่ง ขณะที่ ก.เพชรสิทธิพงษ์ และ พ.รัชกิจปราการ ซึ่งมีชื่อกระเหรี่ยงไทยและภาค9 ก็สะท้อนภาพค่ายที่เน้นมวยบู๊ไม่กลัวเจ็บ ส่วนค่ายจิตรเมืองนนท์ และศิษย์จ่าสิงห์ เจ้าของยางดำและอสูรน้อย ก็ถือเป็นค่ายที่แฟนมวยคุ้นชื่อจากหลากหลายรายการ ปิดท้ายด้วยซันรัตภูมิและพชรยิมส์ในคู่ฟัดดะและเสือดำ ทำให้ศึกมวยดีวิถีไทย รอบนี้เต็มไปด้วยสีสันของค่ายมวยที่มีฐานแฟนคลับแน่นทั่วประเทศ

ข้อมูลสำคัญสำหรับแฟนมวยที่ต้องการติดตามศึกมวยดีวิถีไทย

สำหรับแฟนมวยที่ต้องการเดินทางไปชมศึกมวยดีวิถีไทย ด้วยตนเองที่เวทีมวยจิตรเมืองนนท์ อตก.3 จังหวัดนนทบุรี แนะนำให้วางแผนออกเดินทางล่วงหน้าเล็กน้อยเพื่อให้มาถึงเวทีก่อนเวลาเริ่มชกช่วง 11.00 น. เนื่องจากในวันอาทิตย์พื้นที่โดยรอบอาจมีผู้คนคึกคักและการจราจรพอสมควร การมาถึงแต่เช้าจะช่วยให้มีเวลาจัดการเรื่องที่นั่ง เตรียมตัว และสัมผัสบรรยากาศก่อนเริ่มศึกมวยดีวิถีไทย ได้เต็มที่

ส่วนแฟนมวยที่สะดวกติดตามศึกมวยดีวิถีไทย จากที่บ้านก็สามารถใช้ข้อมูลโปรแกรมและการวิเคราะห์ในบทความนี้เป็นแนวทางในการเลือกคู่ที่อยากชมเป็นพิเศษ ทั้งคู่เปิดหัวพิกัด 100 ปอนด์ มวยเยาวชน 31 กิโลกรัม ไปจนถึงคู่ใหญ่ช่วงท้ายบัตร การรู้พิกัด คู่ชก และค่ายต้นสังกัดล่วงหน้า จะช่วยให้การรับชมมีอรรถรสมากขึ้น เพราะไม่ได้เพียงแค่ดูการชกต่อย แต่ยังได้เข้าใจเรื่องราวเบื้องหลังของแต่ละไฟต์ในศึกมวยดีวิถีไทย อีกด้วย

สรุปไฮไลต์ศึกมวยดีวิถีไทย 23 พฤศจิกายน 2568

โดยสรุปแล้ว ศึกมวยดีวิถีไทย วันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน 2568 ณ เวทีมวยจิตรเมืองนนท์ อตก.3 จังหวัดนนทบุรี ถือเป็นรายการที่จัดออกมาได้อย่างลงตัวทั้งในด้านจำนวนคู่และความหลากหลายของพิกัด ตั้งแต่มวยเยาวชนไปจนถึงมวยอาชีพพิกัดกลางและค่อนข้างใหญ่ การเริ่มชกตั้งแต่เวลา 11.00 น. ทำให้แฟนมวยมีโอกาสใช้เวลาช่วงสายของวันอาทิตย์ไปกับการติดตามศิลปะแม่ไม้มวยไทยในบรรยากาศของศึกมวยดีวิถีไทย ที่ทั้งเข้มข้นและเป็นกันเอง

คู่มวยที่ดูแล้วน่าจะเป็นไฮไลต์ของศึกมวยดีวิถีไทย รอบนี้ ได้แก่ คู่ที่ 3 ระหว่างแข้งทอง ส.ซากีฟ กับเอฟ16 สจ.วิชิตแปดริ้ว ในพิกัด 105 ปอนด์ที่น่าจะเดินเกมแลกเร็วตลอดยก คู่ที่ 5 สิงห์ดำ ศักดิ์แสนพล กับเพชรพยัคฆ์ พุฒิประชาชื่น ในพิกัด 117 ปอนด์ที่อัดแน่นด้วยพลังปะทะ และคู่ที่ 8 ฟัดดะ ซันรัตภูมิ กับเสือดำ พชรยิมส์ ซึ่งรับหน้าที่ปิดรายการ ศึกมวยดีวิถีไทย ครั้งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งบัตรมวยที่แฟนหมัดมวยไม่ควรพลาด ทั้งในมุมของความมันส์บนเวทีและในฐานะเวทีสำคัญของนักมวยจากหลายค่ายทั่วประเทศ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับศึกมวยดีวิถีไทย (FAQ)

ศึกมวยดีวิถีไทย วันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน 2568 เริ่มชกกี่โมง?

ศึกมวยดีวิถีไทย ในวันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน 2568 มีกำหนดเริ่มชกตั้งแต่เวลา 11.00 น. เป็นต้นไป โดยภายในบัตรมีโปรแกรมการแข่งขันทั้งหมด 8 คู่เรียงต่อกันอย่างต่อเนื่อง แฟนมวยที่ต้องการชมครบทุกคู่จึงควรจัดเวลาให้พร้อมตั้งแต่ก่อน 11.00 น. ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปชมที่เวทีมวยจิตรเมืองนนทน์ อตก.3 หรือการเตรียมตัวรับชมจากที่บ้าน เพื่อไม่ให้พลาดคู่เปิดหัวที่มักชกกันอย่างสนุกเร้าใจในศึกมวยดีวิถีไทย

ศึกมวยดีวิถีไทย จัดที่ไหน?

ศึกมวยดีวิถีไทย รอบวันที่ 23 พฤศจิกายน 2568 จัดขึ้นที่เวทีมวยจิตรเมืองนนท์ ภายในพื้นที่ อตก.3 จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นเวทีมวยที่แฟนหมัดมวยรู้จักกันดีจากการจัดรายการมวยคุณภาพมาอย่างต่อเนื่องหลายปี บรรยากาศของเวทีแห่งนี้ผสมผสานระหว่างความเป็นกันเองและความดุเดือดของเกมการชก ทำให้การมาชมศึกมวยดีวิถีไทย ที่นี่สักครั้งเป็นประสบการณ์ที่แฟนมวยหลายคนประทับใจไม่รู้ลืม

ศึกมวยดีวิถีไทย วันนี้มีกี่คู่ และมีพิกัดอะไรบ้าง?

ในศึกมวยดีวิถีไทย วันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน 2568 มีโปรแกรมการแข่งขันทั้งหมด 8 คู่ ประกอบด้วยมวยเยาวชนพิกัด 31 กิโลกรัม 1 คู่ และมวยอาชีพในพิกัด 100 ปอนด์ 105 ปอนด์ 108 ปอนด์ 117 ปอนด์ และพิกัดใกล้เคียง 124–125 ปอนด์ การกระจายพิกัดในลักษณะนี้ช่วยให้แฟนมวยได้ชมทั้งความเร็วของมวยเล็ก ความหนักแน่นของมวยพิกัดกลาง และความดุดันของมวยรุ่นใหญ่ในศึกมวยดีวิถีไทย รอบเดียวอย่างครบเครื่อง

คู่ไหนในศึกมวยดีวิถีไทย วันนี้น่าจับตามองเป็นพิเศษ?

ในบรรดา 8 คู่ของศึกมวยดีวิถีไทย รอบนี้ คู่ที่ได้รับการจับตามองเป็นพิเศษ ได้แก่ แข้งทอง ส.ซากีฟ พบ เอฟ16 สจ.วิชิตแปดริ้ว ในพิกัด 105 ปอนด์ ซึ่งมีโอกาสสูงที่จะแลกแข้งหมัดกันอย่างดุเดือด และคู่สิงห์ดำ ศักดิ์แสนพล พบเพชรพยัคฆ์ พุฒิประชาชื่น ในพิกัด 117 ปอนด์ที่เต็มไปด้วยพลังปะทะ รวมถึงคู่ปิดท้ายระหว่างฟัดดะ ซันรัตภูมิ กับเสือดำ พชรยิมส์ ในพิกัด 108 ปอนด์ ซึ่งมักถูกวางให้เป็นไฟต์มันส์ส่งท้ายรายการ แฟนมวยที่ติดตามศึกมวยดีวิถีไทย จึงไม่ควรพลาดชมทั้งสามคู่ไฮไลต์นี้เป็นอย่างยิ่ง