ศึกมวยมันส์สนั่นเมืองคืนวันอังคารที่ 21 ตุลาคม 2568 พร้อมระเบิดความมันตั้งแต่เวลา 18.00 น. ณ เวทีมวยนานาชาติรังสิต รายการนี้คัดสรรนักชกสายฝีมือและดาวรุ่งพุ่งแรงรวม 10 คู่
ครบถ้วนทั้งพิกัดเล็ก–กลาง พร้อมผลชั่งน้ำหนักเป็นทางการเพื่อประเมินแทคติก รูปเกม และปัจจัยที่อาจชี้เป็นชี้ตายตั้งแต่ยกแรกจนกระทั่งระฆังยกสุดท้าย แฟนมวยสามารถใช้บทความนี้เป็นคู่มือก่อนชมถ่ายทอดสดและติดตามผลสดยกต่อยกได้อย่างมั่นใจ

ค่ำคืนนี้มีสีสันจากคู่เปิดหัวพิกัดเยาวชนไปจนถึงคู่ปิดท้ายที่ตัวเลขชั่งน้ำหนักต่างกันชัด ซึ่งส่งผลต่อความเร็ว แรงชน และการยืนระยะอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากข้อมูลทางการ
บทความยังวิเคราะห์เชิงแทคติกแบบอ่านง่าย แต่ครบทั้งประเด็นวงนอก–วงใน จังหวะสอง ฟุตเวิร์ก การคุมศูนย์กลางเวที และการบริหารแรงปลายยก เพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพล่วงหน้าว่าคู่ใดน่าจะดุเดือด คู่ใดต้องวัดความละเอียด และจุดไหนของเกมที่ไม่ควรกะพริบตา

โปรแกรมมวย ศึกมวยมันส์สนั่นเมือง 21 ตุลาคม 2568 เวทีมวยนานาชาติรังสิต | 18:00 น.

รายการแข่งขันและผลชั่งน้ำหนักอย่างเป็นทางการ

การชั่งน้ำหนักคือด่านแรกที่สะท้อนวินัย ความฟิต และแนวทางการวางเกมของค่ายแต่ละฝั่ง โดยตัวเลข “เกิน/ขาด/ตามพิกัด” ส่งผลต่อสปีด ความหนาแน่นของกล้ามเนื้อ และความสามารถในการยืนชนหรือถอยฉาบฉวยอย่างชัดเจน เมื่อเชื่อมกับสไตล์ถนัดของนักชกแต่ละคน เราจึงสามารถคาดการณ์ทิศทางรูปเกมได้เป็นเบื้องต้น ดังรายละเอียดรายคู่ต่อไปนี้

คู่ที่ 1 เพชรทอง ส.จารุวรรณ vs ตะวันดำ ศิษย์พนันเชิง (พิกัด 40 กก.)

คู่ที่ มุมแดง พิกัด ชั่งได้ มุมน้ำเงิน พิกัด ชั่งได้
1 เพชรทอง ส.จารุวรรณ 40 กก. 40.6 (เกิน 0.6) ตะวันดำ ศิษย์พนันเชิง 40 กก. ตามพิกัด

เพชรทองชั่งเกิน 0.6 กก. บ่งชี้ถึงแรงปะทะและความแน่นของลำตัวที่อาจเหนือกว่านิด ๆ ขณะตะวันดำตามพิกัดเป๊ะ สื่อว่าความเร็วและความกระฉับกระเฉงน่าจะทำงานดี โดยเฉพาะช่วงยกแรกที่ความสดยังเต็ม เป้าของแดงคือไม่ปล่อยให้เกมเปิดโล่งเกินไป ส่วนของน้ำเงินคืออย่าแลกตรง ๆ ตั้งแต่เนิ่น เพราะอาจเสียต้นทุนแรงเมื่อโดนบี้ประชิดต่อเนื่องหลายชุด

แทคติกที่ควรจับตาคือการคุมระยะด้วยแข้งนำของตะวันดำ และการเร่งเพรสหลังโดนแตะยาวของเพชรทอง หากน้ำเงินเข้า–ออกได้คล่องและเก็บช็อตชัดในช่วงหัว–ท้ายยก คะแนนจะค่อย ๆ ไหลเข้าข้าง แต่หากแดงปิดมุมได้เร็ว ล็อกตัวและยัดเข่าเป็นแพตเทิร์น เกมจะขยับเข้าสู่แดนถนัดของเพชรทองทันทีและบั่นทอนความเร็วฝั่งน้ำเงินอย่างเห็นได้ชัด

คู่ที่ 2 เพชรสองภาค เปิ้ลนคร vs กังวานเล็ก ซุ้มไก่เพชรศิลา (พิกัด 38 กก.)

คู่ที่ มุมแดง พิกัด ชั่งได้ มุมน้ำเงิน พิกัด ชั่งได้
2 เพชรสองภาค เปิ้ลนคร 38 กก. ตามพิกัด กังวานเล็ก ซุ้มไก่เพชรศิลา 38 กก. 37.9 (ขาด 0.1)

แม้ตัวเลขชั่งของกังวานเล็กจะขาดเพียง 0.1 กก. แต่ในพิกัดเล็กความต่างเล็กน้อยส่งผลต่อสปีดและการเปลี่ยนแกนโจมตีได้จริง เพชรสองภาคที่ตามพิกัดมีความสมดุลดี คาดหวังความเนียนของฟอร์มภาพรวม ขณะที่กังวานเล็กต้องอาศัยความปราดเปรียวและการสวนกลับแบบฉับไวเพื่อชิงแต้มชัดในจังหวะเด่นสายตา กุญแจคือใคร “ชิงลูกแรก” ได้บ่อยและไม่เสียรูปตอนรีเซ็ตเกม

ในทางยุทธวิธี เพชรสองภาคควรวางแข้งยาวตัดจังหวะให้คู่แข่งเสียสเต็ปก่อน แล้วค่อยสาดหมัดสอง–สามปิดท้ายช่วงยกเพื่อจบภาพสวย ส่วนกังวานเล็กต้องรักษาความต่อเนื่อง ไม่ให้เกมสะดุดและหลุดจังหวะสอง หากน้ำเงินรักษาจิตคอนิ่งและไม่พลาดช่วงท้ายนาที ย่อมมีลุ้นคะแนนสูสีจนตัดสินกันด้วยความละเอียดจริง ๆ

คู่ที่ 3 เพชรประกาย ศิษย์หลวงพี่น้ำฝน vs ดีเซลเล็ก สิงห์เดชา (พิกัด 38 กก.)

คู่ที่ มุมแดง พิกัด ชั่งได้ มุมน้ำเงิน พิกัด ชั่งได้
3 เพชรประกาย ศิษย์หลวงพี่น้ำฝน 38 กก. ตามพิกัด ดีเซลเล็ก สิงห์เดชา 38 กก. ตามพิกัด

ทั้งสองตามพิกัด เป็นสัญญาณว่าความฟิตและความสมดุลของสรีระใกล้เคียงกันมาก เกมจึงน่าจะวัดกันที่ความแม่นยำ ความสม่ำเสมอ และวินัยเกมรับ–โต้เป็นหลัก เพชรประกายมีจุดเด่นในจังหวะสองและการเข้าทำที่เป็นระบบ ส่วนดีเซลเล็กขึ้นชื่อเรื่องแรงชนและความดุดันเมื่อกิจกรรมในวงในเริ่มเข้าที่ การสลับวงใน–วงนอกอย่างมีแบบแผนจะเป็นตัวตัดสินโมเมนตัม

สำหรับภาพรวมการตัดสินใจ เพชรประกายควรรักษารีจึ่มและไม่ยอมถูกล็อกมุมหลังเชือก ขณะที่ดีเซลเล็กต้องเร่งเพรสหลังจับจังหวะของแดงได้ ไม่ปล่อยให้เกมช้าและยืดเยื้อเกินไป หากฝ่ายใดพลาดเสียรูปช่วงท้ายยก แม้เพียงวินาทีเดียว ก็อาจทำให้คะแนนพลิกไปอีกฝั่งได้ทันที

คู่ที่ 4 เพชรพชร ศูนย์กีฬากุดฉิม vs โชคดี เพชรแสงทอง (พิกัด 121 ปอนด์)

คู่ที่ มุมแดง พิกัด ชั่งได้ มุมน้ำเงิน พิกัด ชั่งได้
4 เพชรพชร ศูนย์กีฬากุดฉิม 121 ปอนด์ 121.1 (เกิน 0.1) โชคดี เพชรแสงทอง 121 ปอนด์ ตามพิกัด

ตัวเลขใกล้กันมาก เพชรพชรเกินเล็กน้อย สื่อว่ามีความแน่นของลำตัวเพิ่ม ขณะที่โชคดีตามพิกัดพร้อมโชว์ความสมดุลทั้งเกมรุก–รับ คู่นี้น่าจะเป็นงานละเอียดยิบที่วัดกันที่การยึดศูนย์กลางเวที การวางแข้งเปิดช่อง และการปิดด้วยหมัด–ศอกในจังหวะที่คู่ต่อสู้เผลอถ่ายน้ำหนักผิด หากใครทำให้เกมอยู่ในแดนถนัดต่อเนื่อง โอกาสเก็บแต้มจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ

สิ่งที่แฟนมวยควรจับตา คือการสลับจังหวะบุก–ถอยอย่างมีชั้นเชิงและการคุมความเร็วของเกมให้สม่ำเสมอ หากเพชรพชรบี้จนได้วงในบ่อยครั้งคะแนนจะไหล ส่วนหากโชคดีคุมระยะและตัดมุมได้เนียน รูปเกมจะเป็นใจให้การทำคะแนนชัดในสายตากรรมการมากกว่า

คู่ที่ 5 แฟนฉัน ว.วันนำโชค vs เพชรภาคภูมิ ศิษย์พนัญเชิง (พิกัด 108 ปอนด์)

คู่ที่ มุมแดง พิกัด ชั่งได้ มุมน้ำเงิน พิกัด ชั่งได้
5 แฟนฉัน ว.วันนำโชค 108 ปอนด์ 107.6 (ขาด 0.4) เพชรภาคภูมิ ศิษย์พนัญเชิง 108 ปอนด์ ตามพิกัด

แฟนฉันขาดเล็กน้อย ทำให้ได้เปรียบเรื่องสปีดและการฉาบฉวย ส่วนเพชรภาคภูมิตามพิกัด โดดเด่นความแน่นอนและความสม่ำเสมอของจังหวะรุก–รับ เกมนี้ผู้ชนะจะมาจากฝ่ายที่รักษาความคมในลูกเปิดและไม่เสียรูปตอนปิดยก แฟนฉันควรใช้แข้งยาวชิงลูกแรกและหมุนมุมหลบการบี้ ขณะที่เพชรภาคภูมิควรกดดันเป็นชั้น ๆ ลดช่วงว่างหลังปล่อยชุด

หากน้ำเงินบีบพื้นที่ได้และบังคับให้แดงยืนแลกข้างเชือก โอกาสทำคะแนนจะสูงมาก ทว่า ถ้าแดงเปลี่ยนแกนได้ต่อเนื่องและไม่ให้เกมตกไปอยู่ในวงใน รูปเกมจะโปร่งโล่งและเห็นความแตกต่างของสปีดมากขึ้น ซึ่งกรรมการมักมองเห็นชัดเมื่อยกจบ

คู่ที่ 6 เด่นพิชัย ยุทธการมวยไทย vs แก้ว อัศวินมือถือ (พิกัด 43 กก.)

คู่ที่ มุมแดง พิกัด ชั่งได้ มุมน้ำเงิน พิกัด ชั่งได้
6 เด่นพิชัย ยุทธการมวยไทย 43 กก. ตามพิกัด แก้ว อัศวินมือถือ 43 กก. ตามพิกัด

ทั้งสองตามพิกัด ทำให้เกมมีสมดุลสูงและต้องวัดฝีมือแบบเพียว ๆ เด่นพิชัยเก่งการเปิดเกมชุดยาวและการจบด้วยหมัด–ศอก ส่วนแก้วเด่นจังหวะสองและการเปลี่ยนแกนหลอกให้คู่แข่งถ่ายน้ำหนักผิด การชิงพื้นที่กลางเวทีและการปิดงานท้ายยกด้วยจังหวะคม ๆ จะเป็นตัวชี้ผลคะแนนที่ต่างกันอย่างมีนัยสำคัญในสายตากรรมการ

สำหรับแนวทางการเล่น เด่นพิชัยควรใช้ความต่อเนื่องของคอมโบคุมโมเมนตัมไม่ให้ตก ขณะที่แก้วต้องใจเย็นและรอโอกาสสวนในช็อตที่คู่ต่อสู้เสียสมดุล หากน้ำเงินอ่านทางได้เร็วและไม่ยอมเสียตำแหน่งหลังปล่อยชุด ความคมของการสวนจะกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของไฟต์นี้ทันที

คู่ที่ 7 พงษ์เพชรเล็ก ส.สุภาพร vs ซันจิ ก็อตชี้มวยชอบ (พิกัด 37 กก.)

คู่ที่ มุมแดง พิกัด ชั่งได้ มุมน้ำเงิน พิกัด ชั่งได้
7 พงษ์เพชรเล็ก ส.สุภาพร 37 กก. 36.7 (ขาด 0.3) ซันจิ ก็อตชี้มวยชอบ 37 กก. 37.2 (เกิน 0.2)

พงษ์เพชรเล็กขาดเล็กน้อยจึงได้ความเร็วและการหลบหลีกที่คล่อง ส่วนซันจิเกิน 0.2 กก. ให้แรงปะทะและการยืนชนที่มั่นคงกว่า เกมนี้คือ “เบา–เร็ว” ปะทะ “แน่น–หนัก” ผู้ชนะคือฝ่ายที่ทำให้คู่แข่งเสียจังหวะถนัดก่อน หากแดงคุมจังหวะและไม่ยืนแลกตรง ๆ คะแนนจะเข้าข้าง ขณะที่น้ำเงินต้องบีบพื้นที่และลดความเร็วของเกมเพื่อให้ความหนักหน่วงของอาวุธสร้างความต่างอย่างต่อเนื่อง

สิ่งที่ควรจับตาเป็นพิเศษคือการปิดท้ายยกด้วยจังหวะชัด ๆ และการคุมเส้นกลางเวที หากซันจิลากเกมเข้าวงในและจัดคอมโบหมัด–ศอกได้สม่ำเสมอ การชี้นำสายตากรรมการจะชัดเจน ทว่า หากพงษ์เพชรเล็กฉาบฉวยเข้า–ออกได้คม เกมจะหักไปทางความเนียนและความแม่นที่ทำให้คะแนนทยอยสะสมอย่างเงียบ ๆ
คู่ที่ 8 เพชรอัศวิน มวยหูทวีศักดิ์เล็ก vs ยอดธันวา ธ.เมืองสีมา (พิกัด 34.5 กก.)

คู่ที่ มุมแดง พิกัด ชั่งได้ มุมน้ำเงิน พิกัด ชั่งได้
8 เพชรอัศวิน มวยหูทวีศักดิ์เล็ก 34.5 กก. ตามพิกัด ยอดธันวา ธ.เมืองสีมา 34.5 กก. 34.7 (เกิน 0.2)

พิกัดเยาวชนเช่นนี้มักเป็นเกมเร็วล้วน เพชรอัศวินตามพิกัดพร้อมฉายสปีดและการเปลี่ยนแกน ส่วนยอดธันวาเกินเล็กน้อยน่าจะได้แรงชนเพิ่ม แต่ต้องระวังการฟื้นตัวช่วงปลายยก การควบคุมบอลานซ์หลังเข้าทำและการถอยรีเซ็ตให้ไวคือหัวใจสำคัญ หากใครเสียทรงบ่อยจะถูกสาดคะแนนสวนกลับทันทีและทำให้ภาพรวมเสียหายอย่างรวดเร็ว

จากมุมมองแทคติก แดงควรชิงลูกแรกด้วยแข้ง–หมัดที่คมและเลี่ยงวงในยืดเยื้อ น้ำเงินควรบังคับให้เกิดการปะทะสั้นถี่เพื่อใช้ความแน่นของร่างกายกดทับ หากน้ำเงินทำสำเร็จ เกมจะช้าลงและความหนักของอาวุธจะสร้างความต่างชัด ทว่า หากแดงพากลับไปสู่เกมเปิดโล่ง คะแนนจะไหลเข้าข้างอย่างต่อเนื่อง

คู่ที่ 9 ตะเกียบเหล็ก แดงรถดีมวยไทยยิม vs นิวแสนชัย มวยหูทวีศักดิ์เล็ก (พิกัด 38.5 กก.)

คู่ที่ มุมแดง พิกัด ชั่งได้ มุมน้ำเงิน พิกัด ชั่งได้
9 ตะเกียบเหล็ก แดงรถดีมวยไทยยิม 38.5 กก. 38.7 (เกิน 0.2) นิวแสนชัย มวยหูทวีศักดิ์เล็ก 38.5 กก. ตามพิกัด

ตะเกียบเหล็กเกิน 0.2 กก. ทำให้แรงชนและการยืนชนดูแน่นขึ้นเล็กน้อย ส่วนนิวแสนชัยตามพิกัดพร้อมใช้ความเนียนและสปีด เกมนี้ถ้าฝ่ายแดงปิดมุมและบีบพื้นที่ได้ คะแนนจะเข้าทาง แต่ถ้าน้ำเงินไม่ยอมยืนแลกตรงและดึงเกมสู่วงนอกจังหวะสอง รูปเกมจะพลิกเป็นฝ่ายน้ำเงินที่เก็บแต้มคม ๆ ได้บ่อยและต่อเนื่องกว่า

แฟนมวยควรจับตาการปิดท้ายยกสี่ซึ่งมักเป็นจุดที่ทั้งสองต้องทิ้งของ ถ้าฝ่ายใดคุมสมาธิและไม่หลุดบาลานซ์หลังคอมโบยาว ๆ จะได้เปรียบมาก เพราะกรรมการเห็นภาพรวมชัดในช่วงสัญญาณจบยก และความนิ่งในวินาทีสุดท้ายคือสิ่งที่บ่งชี้ถึงความเป็นมืออาชีพระดับสูง

คู่ที่ 10 เพชรอนันต์ ต.สุรัตน์ vs ท้าชนเล็ก เกียรติฉัตรชัย (พิกัด 102 ปอนด์)

คู่ที่ มุมแดง พิกัด ชั่งได้ มุมน้ำเงิน พิกัด ชั่งได้
10 เพชรอนันต์ ต.สุรัตน์ 102 ปอนด์ 101.7 (ขาด 0.3) ท้าชนเล็ก เกียรติฉัตรชัย 102 ปอนด์ 103.9 (เกิน 1.9)

คู่ปิดรายการมีความต่างตัวเลขชัด เพชรอนันต์ขาดเล็กน้อยได้ความเร็วและการฉาบฉวยที่ว่องไว ท้าชนเล็กเกินถึง 1.9 ปอนด์มีแรงชนและความหนาของลำตัวเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด แดงต้องเล่นเกมเร็ว เข้า–ออกสั้น ๆ ไม่ยืนรับการบี้ติดเชือก ส่วนน้ำเงินควรปิดทางหนีและเพิ่มอัตราปะทะให้ถี่เพื่อตัดสปีดคู่ต่อสู้ตั้งแต่ยกต้น

หากเพชรอนันต์รักษาความคมและไม่เปิดจังหวะให้โดนล็อกตัว เกมจะไหลเป็นของแดงด้วยความเนียน แต่ถ้าท้าชนเล็กกดดันจนความเร็วของแดงตกลงทีละน้อย ภาพรวมจะสวิงเข้าหาน้ำเงิน และยิ่งเมื่อเข้าสู่ยกสี่–ห้า การยืนระยะของผู้ที่มีมวลตัวมากกว่ามักสร้างความแตกต่างให้คะแนนชัดเป็นพิเศษ

วิเคราะห์คู่เดือดน่าสนใจเพิ่มเติม

เพชรพชร vs โชคดี (พิกัด 121 ปอนด์)

นี่คือไฟต์ที่ละเอียดยิบ วัดกันที่การคุมศูนย์กลางและการวางแข้งเปิดช่องก่อนปิดด้วยหมัด–ศอก ใครรักษาความสม่ำเสมอได้ดีกว่ามักชนะคะแนนแบบคมชัด
เพชรพชรควรกดเพรสหลังโดนแตะยาวให้เกมไม่ช้าเกินไป ขณะที่โชคดีห้ามเสียจังหวะสองและต้องเก็บภาพสวยช่วงจบยกให้ได้สม่ำเสมอ

เพชรอนันต์ vs ท้าชนเล็ก (พิกัด 102 ปอนด์)

ความต่างตัวเลข 2 ปอนด์น้อย ๆ แต่มีผลจริงต่อรูปเกม แดงต้องพึ่งความเร็วและการออกก่อนเพื่อบังคับรีธึ่ม ส่วนน้ำเงินต้องยืนชนและไม่ปล่อยให้เกมเปิดโล่ง
หากน้ำเงินล็อกตัวและบี้จนแดงเสียบาลานซ์บ่อย ๆ โมเมนตัมจะไหลเข้าข้างทันทีโดยแทบไม่ต้องลุ้นน็อก

แฟนฉัน vs เพชรภาคภูมิ (พิกัด 108 ปอนด์)

แฟนฉันขาดเล็กน้อยทำให้เร็ว แต่การป้องกันหลังปล่อยชุดคือจุดต้องระวัง ขณะที่เพชรภาคภูมิเนียนและนิ่งกว่าหากไม่ถูกยั่วให้แลกตรง ภาพรวมมีแนวโน้มตัดสินด้วยความละเอียดในงานรับ–โต้
ใครพลาดน้อยกว่าและปิดท้ายยกได้คมกว่ามักเป็นฝ่ายชนะคะแนน

สรุปภาพรวมและคำแนะนำก่อนชมถ่ายทอดสด

โปรแกรมคืนนี้ของศึกมวยมันส์สนั่นเมืองสะท้อนความหลากหลายครบถ้วน: คู่พิกัดเล็กที่สปีดสูง เกมกลางที่ต้องวัดความเนียน และคู่ปิดที่แรงชนดุดัน จุดร่วมของผู้ชนะมักไม่ใช่แค่แรงอย่างเดียว แต่คือ
“การพาเกมไปอยู่ในแดนถนัด” พร้อมรักษาวินัยรุก–รับและสมาธิปลายยกให้แน่นตลอดสามยกสำคัญ แนะนำผู้ชมตรวจสอบตารางออกอากาศและช่องทางอัปเดตจากผู้จัดหรือเวทีโดยตรง เพื่อไม่พลาดทุกไฮไลต์และผลสดที่อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์หน้างาน

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ศึกมวยมันส์สนั่นเมืองคืนนี้เริ่มกี่โมงและจัดที่ไหน

รายการเริ่มชกเวลา 18.00 น. ณ เวทีมวยนานาชาติรังสิต โดยลำดับคู่ตามประกาศด้านบนครบ 10 คู่ แนะนำไปถึงก่อนเวลาเล็กน้อยหรือเข้าชมถ่ายทอดสดตามแพลตฟอร์มที่ได้รับสิทธิ์เพื่อติดตามบรรยากาศตั้งแต่คู่เปิดหัว

ผลชั่งน้ำหนักมีผลต่อรูปเกมอย่างไร

ตัวเลข “เกิน/ขาด/ตามพิกัด” ส่งผลต่อสปีด ความแน่นของลำตัว และการยืนชนเมื่อเจอการบี้ ประกอบกับสไตล์ถนัดของนักชก ทำให้เราคาดการณ์ได้ว่าคู่ใดน่าจะเน้นฉาบฉวย
หรือคู่ใดต้องเร่งเพรสต่อเนื่องเพื่อบั่นทอนแรงของอีกฝ่าย

ควรจับตาคู่ไหนเป็นพิเศษ

คู่เดือดที่ควรจับตา ได้แก่ เพชรพชร–โชคดี (121 ปอนด์) ที่วัดกันด้วยความละเอียด เพชรอนันต์–ท้าชนเล็ก (102 ปอนด์) ที่ต่างตัวเลขชัด และแฟนฉัน–เพชรภาคภูมิ (108 ปอนด์)
ที่เกมน่าจะสูสีและชี้ขาดด้วยงานรับ–สวนคม ๆ ปลายยก

 

ชมถ่ายทอดสด ทุกคู่ทุกสนาม ให้ค่าชนที่ดีที่สุด ในเอเชียโปรแกรมไก่ชน