โปรแกรมมวย ศึกเพชรยินดี ราชดำเนิน 6 พ.ย. 2568 | 18:00 น. ค่ำคืนวันพฤหัสบดีที่เวทีมวยราชดำเนินกลับมาคึกคักอีกครั้งกับ “ศึกเพชรยินดี” การ์ดแน่นครบ 9 คู่ ข้อมูลสำคัญคือผลชั่งน้ำหนักจริงของนักชก ซึ่งช่วยสะท้อนแนวโน้มเชิงแท็กติกได้อย่างเป็นรูปธรรมทั้งคู่ที่ “ขาดพิกัด” ซึ่งมักได้ความสดและความคล่องตัว กับคู่ที่ “เกินพิกัดเล็กน้อย–มาก” ซึ่งมักได้มวลปะทะและความนิ่งยามยืนแลก
ตารางโปรแกรมรวม
ตารางด้านล่างสรุปข้อมูลสำคัญของทั้ง 9 คู่ตามลำดับ พร้อมพิกัด ชั่งได้ สถานะชั่ง และหมายเหตุแท็กติกสั้น ๆ เพื่อใช้เป็นอินเด็กซ์ก่อนลงลึกไปยังพรีวิวเชิงบริบทของแต่ละไฟต์ด้านล่าง
| คู่ | พิกัด (ปอนด์) | ฝั่งแดง (ชั่งได้/สถานะ) | ฝั่งน้ำเงิน (ชั่งได้/สถานะ) | เวลาแข่งขัน | หมายเหตุแท็กติก |
|---|---|---|---|---|---|
| 1 | 107 | ยิ้มสยาม 106.5 (ขาด 0.5) | เด่นชัย 107.1 (เกิน 0.1) | 18:00 น. | สปีด–รับสวน vs มวลปะทะ–บล็อกกลาง |
| 2 | 128 | ยอดเสกสรร 129.2 (เกิน 1.2) | ก้องภูสิงห์ 129.4 (เกิน 1.4) | ถัดไป | แรงชนหนา แลกคมลูกศอก |
| 3 | 111 | สั่งฟ้า 112.8 (เกิน 1.8) | โคชิ ตามพิกัด | ถัดไป | บุกถี่กดดัน vs หลบ–สวนเฉียบ |
| 4 | 111/113 | น็อตใหม่ (ตามพิกัด 111) | ชิคาระ 113.2 (เกิน 0.2) | ถัดไป | สปีดริมเส้น–ศอกสวนชี้ผล |
| 5 | 109/110 | เขตตะวัน 109.6 (เกิน 0.6) | เพชรอั่งเปา 110.2 (เกิน 0.2) | ถัดไป | เทมโป้กลาง, ลูกตั้งเตะสำคัญ |
| 6 | 111 | หลานย่าโม 114.8 (เกิน 3.8) | มรกตเขียว 113.3 (เกิน 2.3) | ถัดไป | เร่งต้นเร็ว, บริหารแรงปลาย |
| 7 | 102/112 | แวววาว 112.7 (เกิน 0.7) | เพชรเอก 112.7 (เกิน 0.7) | ถัดไป | ครอสเสาแรก, คุมบอลสอง |
| 8 | 120 | แอ็ดเทวดา 121.1 (เกิน 1.1) | มาลัยทอง 121.0 (เกิน 1.0) | ถัดไป | เกมริมเชือก, ปิดยกชัด |
| 9 | 114 | เหนือธรณี 115.4 (เกิน 1.4) | ยอดกล้า 116.2 (เกิน 2.2) | คู่ปิด | ดุดันต่อเนื่อง, วัดแรงปลาย |
โปรแกรมตามลำดับคู่ชก (พรีวิวเชิงบริบท + ตารางต่อคู่)
คู่ที่ 1 — ยิ้มสยาม ท.เทพซุนกวน (107 | ชั่ง 106.5 ขาด 0.5) vs เด่นชัย ส.สุจิมาวิทย์ (107 | ชั่ง 107.1 เกิน 0.1)
ยิ้มสยามชั่งขาด 0.5 สะท้อนความสดและความคล่องตัวในจังหวะเปิดเกมที่มักได้เปรียบด้านการเคลื่อนที่ เข้า–ออกเร็ว
และวางจังหวะรับ–สวนได้คม ส่วนเด่นชัยเกินเล็กน้อยช่วยเรื่องความนิ่งยามยืนปักหลักและมวลปะทะเมื่อเกิดการแลกใกล้
จุดชี้ขาดของไฟต์คือการปิดพื้นที่ริมเชือก และการเก็บ “บอลสอง” หลังการชุลมุน หากยิ้มสยามคุมเทมโป้ให้เร็วกว่าและไม่ปล่อยให้เด่นชัยตั้งหลักครอสหรือศอกสวนบ่อย
เกมจะเอนเข้าหาฝั่งแดง แต่หากเด่นชัยดึงเกมให้เป็นแท็กติกปะทะระยะกลางและบีบให้ยิ้มสยามต้องยืนรับมากขึ้น
ความหนักแน่นของฝ่ายน้ำเงินจะเริ่มเห็นผลชัดเจนในช่วงท้ายยก
| รายการ | พิกัด (ปอนด์) | ยิ้มสยาม (ชั่ง/สถานะ) | เด่นชัย (ชั่ง/สถานะ) | คีย์แท็กติก | ตัวแปรเสี่ยง |
|---|---|---|---|---|---|
| ศึกเพชรยินดี คู่ 1 | 107 | 106.5 (ขาด 0.5) | 107.1 (เกิน 0.1) | รับ–สวนเร็ว, คุมริมเชือก | ฟาวล์ริมเส้น, ศอกสวนปลายยก |
คู่ที่ 2 — ยอดเสกสรร ม.ราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง (128 | ชั่ง 129.2 เกิน 1.2) vs ก้องภูสิงห์ อ.ขำอินทร์ (128 | ชั่ง 129.4 เกิน 1.4)
ทั้งสองฝั่งเกินพิกัดพอสมควร ทำให้ภาพรวมไฟต์มีโอกาสเป็นเกมแรงชนหนาและยืนปักหลักแลกกันมากกว่าการฉีกพื้นที่
ยอดเสกสรรจะอาศัยความมั่นคงของฐานและการบีบให้เข้าแลกตรง ส่วนก้องภูสิงห์เด่นจังหวะคอมโบและลูกศอกสวนในวงใกล้
ปัจจัยชี้ผลคือการคุม “บอลสอง” และจำนวนครั้งที่บีบให้คู่แข่งถอยหลังจนติดเชือก ถ้าฝ่ายใดปิดยกด้วยช็อตสะอาดบ่อย โมเมนตัมย่อมเทตาม
และส่งผลต่อความมั่นใจเมื่อต้องออกสตาร์ทยกถัดไป โดยเฉพาะช่วงยกสอง–สามที่จะบอกทิศทางของแรงปลายได้ชัดเจน
| รายการ | พิกัด (ปอนด์) | ยอดเสกสรร (ชั่ง/สถานะ) | ก้องภูสิงห์ (ชั่ง/สถานะ) | คีย์แท็กติก | ตัวแปรเสี่ยง |
|---|---|---|---|---|---|
| ศึกเพชรยินดี คู่ 2 | 128 | 129.2 (เกิน 1.2) | 129.4 (เกิน 1.4) | แรงชนหนา, บอลสองหน้ากรอบ | เสียฟาวล์กลางเวที, ศอกสวนใกล้ |
คู่ที่ 3 — สั่งฟ้า น.อนุวัฒน์ยิม (111 | ชั่ง 112.8 เกิน 1.8) vs โคชิ น.นาคสินธุ์โตเกียว (111 | ชั่งได้ตามพิกัด)
สั่งฟ้าเกิน 1.8 ปอนด์ ส่งผลให้มวลปะทะและแรงปักหลักได้เปรียบเมื่อแลกใกล้ แต่โคชิที่ตามพิกัดได้เปรียบเรื่องสปีดและการเคลื่อนหลบก่อนสวนกลับ
ช่วงต้นเกมคาดว่าเป็นเฟส “บุกกดดัน vs หลบ–สวน” ปัจจัยตัดสินคือคุณภาพของทรานซิชันรับเป็นรุกและการปิดมุมหลบ
หากสั่งฟ้าบุกเป็นชุดโดยไม่เปิดหลังให้สวน เกมจะกดอยู่แดนคู่แข่ง แต่ถ้าโคชิอ่านทางแล้วโต้กลับด้วยศอกสั้นหรือเด้งคางจังหวะเข้าใกล้ได้บ่อย
สถานการณ์จะเปลี่ยนทันทีและทำให้เกมคุมด้วยแท็กติกมากขึ้นในยกกลาง
| รายการ | พิกัด (ปอนด์) | สั่งฟ้า (ชั่ง/สถานะ) | โคชิ (ชั่ง/สถานะ) | คีย์แท็กติก | ตัวแปรเสี่ยง |
|---|---|---|---|---|---|
| ศึกเพชรยินดี คู่ 3 | 111 | 112.8 (เกิน 1.8) | ตามพิกัด | บุกกดดัน vs หลบ–สวนคม | เปิดหลังตอนเข้าปะทะ, โดนศอกสวน |
คู่ที่ 4 — น็อตใหม่ ว.อุรชา (111 | ชั่งตามพิกัด) vs ชิคาระ เพชรยินดีอคาเดมี่ (113 | ชั่ง 113.2 เกิน 0.2)
น็อตใหม่ที่ตามพิกัด 111 จะใช้สปีดและความว่องไวในการต่อคอมโบริมเส้น ขณะที่ชิคาระมีความมั่นคงจากน้ำหนักจริงที่เกินเล็กน้อย
ปัจจัยชี้ผลคือการคุมพื้นที่ริมเชือกและคุณภาพของศอกสวน หากน็อตใหม่ปิดครอสต่ำและเดินกดให้ชิคาระถอยหลังบ่อย โมเมนตัมจะอยู่ฝั่งแดง
แต่ถ้าชิคาระจับจังหวะสวนถูกและบล็อกการดันมุมได้ เกมจะกลับมาเท่ากันทันที โดยยกท้ายคือช่วงวัดแรงปลายและความนิ่งของทั้งคู่
| รายการ | พิกัด (ปอนด์) | น็อตใหม่ (ชั่ง/สถานะ) | ชิคาระ (ชั่ง/สถานะ) | คีย์แท็กติก | ตัวแปรเสี่ยง |
|---|---|---|---|---|---|
| ศึกเพชรยินดี คู่ 4 | 111/113 | ตามพิกัด (111) | 113.2 (เกิน 0.2) | เพรสริมเส้น, ศอกสวนชัด | ปล่อยให้คู่แข่งตั้งหลักกลางเวที |
คู่ที่ 5 — เขตตะวัน มกช.สุพรรณบุรี (109 | ชั่ง 109.6 เกิน 0.6) vs เพชรอั่งเปา ศิษย์หลวงพี่น้ำฝน (110 | ชั่ง 110.2 เกิน 0.2)
ทั้งสองฝ่ายเกินเล็กน้อย รูปเกมมีแนวโน้มเป็นเทมโป้กลางที่วัดความแน่นอนของจังหวะสองและลูกตั้งเตะ เขตตะวันมีจังหวะบุกต่อเนื่องที่ดี
ส่วนเพชรอั่งเปาเด่นการวางแข้งและตัดจังหวะกลางเวที หากฝ่ายใดลดฟาวล์ไม่จำเป็นและปิดยกด้วยช็อตสะอาดได้ต่อเนื่อง โอกาสจะเทชัด
การประกบในกรอบและการกันลูกศอกสวนในจังหวะเข้าใกล้คือสิ่งที่ทั้งคู่ต้องระวังเพื่อไม่ให้เกมพลิกในวินาทีเดียว โดยยกสาม–สี่จะเป็นตัวตัดสินชัดเจน
| รายการ | พิกัด (ปอนด์) | เขตตะวัน (ชั่ง/สถานะ) | เพชรอั่งเปา (ชั่ง/สถานะ) | คีย์แท็กติก | ตัวแปรเสี่ยง |
|---|---|---|---|---|---|
| ศึกเพชรยินดี คู่ 5 | 109/110 | 109.6 (เกิน 0.6) | 110.2 (เกิน 0.2) | เทมโป้กลาง, ลูกนิ่งชี้ผล | เสียฟาวล์บ่อย, ปล่อยคอมโบเข้าลึก |
คู่ที่ 6 — หลานย่าโม ศิษย์มนต์ชัย (111 | ชั่ง 114.8 เกิน 3.8) vs มรกตเขียว ส.เรืองสวัสดิ์ (111 | ชั่ง 113.3 เกิน 2.3)
คู่นี้เกินพิกัดมากทั้งสองฝั่ง คาดว่าเฟสต้นเกมจะเป็นการเร่งสปีดและแรงชนสูงเพื่อแย่งชิงโมเมนตัมอย่างรวดเร็ว
ทว่าตัวตัดสินที่แท้จริงอยู่ที่ “แรงปลาย” ช่วงยกสาม–สี่ เพราะการเกินพิกัดมากทำให้การบริหารจังหวะสำคัญยิ่ง
มรกตเขียวอาจได้เปรียบเล็กน้อยเรื่องความคล่องตัว ขณะที่หลานย่าโมได้ความหนาและแรงปะทะ จุดที่ต้องระวังคือการเปิดระยะให้โดนสวน
และการยืนทรงที่เสียรูปเมื่อยกท้ายมาถึง ผู้ที่รักษาความคมช็อตปิดยกได้ต่อเนื่องจะขึ้นมือในสายตากรรมการ
| รายการ | พิกัด (ปอนด์) | หลานย่าโม (ชั่ง/สถานะ) | มรกตเขียว (ชั่ง/สถานะ) | คีย์แท็กติก | ตัวแปรเสี่ยง |
|---|---|---|---|---|---|
| ศึกเพชรยินดี คู่ 6 | 111 | 114.8 (เกิน 3.8) | 113.3 (เกิน 2.3) | เร่งต้นเร็ว, คุมแรงปลาย | ยืนทรงตก, เปิดช่องศอกสวน |
คู่ที่ 7 — แวววาว ว.วังพรหม (พิกัด 102 | ชั่ง 112.7 เกิน 0.7*) vs เพชรเอก เกียรติจำรูญ (พิกัด 112 | ชั่ง 112.7 เกิน 0.7)
ข้อมูลต้นทางระบุพิกัด 102 สำหรับแวววาวแต่ชั่งจริง 112.7 ซึ่งสูงกว่ามาก จึงบันทึกตามชั่งจริงและระบุหมายเหตุเพื่อความโปร่งใส
เกมนี้ทั้งคู่มีน้ำหนักจริงเท่ากัน ทำให้รูปเกมน่าจะสมดุลในแง่มวลชน โดยมีตัวแปรคือการครอสเสาแรกและลูกนิ่งหน้าเวที
หากฝ่ายใดคุมบอลสองและบล็อกช่องครอสได้ดีกว่า จะลดความเสี่ยงจากการปักหลักรับลึก และโยกเกมเข้าสู่การรับ–สวนที่ถนัด
| รายการ | พิกัด (ปอนด์) | แวววาว (ชั่ง/สถานะ) | เพชรเอก (ชั่ง/สถานะ) | หมายเหตุ | คีย์แท็กติก |
|---|---|---|---|---|---|
| ศึกเพชรยินดี คู่ 7 | 102/112 | 112.7 (เกิน 0.7) | 112.7 (เกิน 0.7) | *พิกัดต้นทางมีความคลาดเคลื่อน บันทึกตามชั่งจริง | ครอสเสาแรก, คุมบอลสอง |
คู่ที่ 8 — แอ็ดเทวดา ต.สุรัตน์ (120 | ชั่ง 121.1 เกิน 1.1) vs มาลัยทอง นุ้ยสี่มุมเมือง (120 | ชั่ง 121.0 เกิน 1.0)
ทั้งสองฝั่งเกินพิกัดใกล้เคียงกัน เกมริมเชือกและการเข้าทำแบบคอมโบต่อเนื่องจะเป็นจุดตัดสิน แอ็ดเทวดามักเร่งสปีดแล้วผ่อนเพื่อหลอกให้คู่แข่งเสียตำแหน่งก่อนคอมโบ
ส่วนมาลัยทองเน้นความเสถียรในจังหวะเข้าปะทะและการปิดยกด้วยช็อตสะอาด หากใครคุมเส้นทางหลบและบล็อกศอกสวนได้ดีกว่า
จะถือความได้เปรียบชัดเจนในช่วงท้ายยกที่คะแนนตัดสินมักเอนไปตามภาพจำของช็อตสุดท้าย
| รายการ | พิกัด (ปอนด์) | แอ็ดเทวดา (ชั่ง/สถานะ) | มาลัยทอง (ชั่ง/สถานะ) | คีย์แท็กติก | ตัวแปรเสี่ยง |
|---|---|---|---|---|---|
| ศึกเพชรยินดี คู่ 8 | 120 | 121.1 (เกิน 1.1) | 121.0 (เกิน 1.0) | เกมริมเชือก, คอมโบต่อเนื่อง | ศอกสวน, ฟาวล์ริมเชือก |
คู่ที่ 9 — เหนือธรณี จิตรเมืองนนท์ (114 | ชั่ง 115.4 เกิน 1.4) vs ยอดกล้า เพชรยินดีอคาเดมี่ (114 | ชั่ง 116.2 เกิน 2.2)
คู่ปิดรายการเกินพิกัดทั้งสอง โดยยอดกล้าเกินมากกว่าชัดเจน ทำให้มวลปะทะและการยืนชนในคลินช์น่าจะได้เปรียบเล็กน้อย
ขณะที่เหนือธรณีอาจเน้นสปีดและการขยับเท้าเพื่อหลบทางปะทะก่อนปล่อยคอมโบสั้น จุดที่น่าจับตาคือการบริหารแรงปลายในยกท้าย
หากฝั่งน้ำเงินเร่งต้นเกมมากเกินโดยไม่เข้าเป้า อาจเปิดช่องให้ฝ่ายแดงกลับมาคุมจังหวะผ่านการรับ–สวนและการปิดยกด้วยลูกตั้งเตะหรือศอกสวนที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
เกมจึงมีโอกาสพลิกได้จนถึงวินาทีสุดท้ายของไฟต์
| รายการ | พิกัด (ปอนด์) | เหนือธรณี (ชั่ง/สถานะ) | ยอดกล้า (ชั่ง/สถานะ) | คีย์แท็กติก | ตัวแปรเสี่ยง |
|---|---|---|---|---|---|
| ศึกเพชรยินดี คู่ 9 | 114 | 115.4 (เกิน 1.4) | 116.2 (เกิน 2.2) | ดุดันต่อเนื่อง, ปิดยกคม | แรงปลายตก, โดนสวนตอนถอน |
ทำความเข้าใจผลชั่งน้ำหนัก: ขาด / เกิน / ตามพิกัด ส่งผลต่อเกมอย่างไร
โดยหลักการ “ขาดเล็กน้อย” มักช่วยให้ได้ความสดและความคล่องตัว เหมาะกับแผนเน้นเคลื่อนที่ เข้า–ออกเร็ว และชิงจังหวะรับ–สวน
ส่วน “เกินเล็กน้อย” มักช่วยเรื่องมวลปะทะและความนิ่งยามยืนปักหลัก แต่ต้องบริหารแรงปลายไม่ให้แผ่วในยกท้าย
ขณะที่ “เกินมาก” แม้ได้แรงชนต้นเกม แต่หากเร่งจนเกินสมดุลเสี่ยงแรงตกและเสียรูปเกมใน 1–2 ยกสุดท้าย
ดังนั้นการแปลผลชั่งต้องอ่านควบคู่กับสไตล์ดั้งเดิมของนักชก แผนการปิดยก และงานคอร์เนอร์ระหว่างพักที่ช่วยกดเลือด ล้างแผล และตั้งทรงให้กลับมามั่นคง
วิธีจัดเวลารับชม & ตัวชี้วัดระหว่างเกมสำหรับผู้ชม
ด้วยจำนวนคู่ที่มากและความต่อเนื่องของรายการ แนะนำจัดโฟกัสเป็นช่วง ๆ โดยเริ่มที่คู่เปิดเพื่ออ่านมาตรฐานการตัดสินของค่ำคืนนี้
จากนั้นให้ความสำคัญกับคู่ 5 และคู่ 9 ที่มักดึงอารมณ์ร่วมสูง ระหว่างรับชมให้สังเกตตัวเลขเชิงสัญญาณ เช่นจำนวนลูกตั้งเตะในระยะอันตราย
ความถี่ของศอกสวนเข้าเป้า จำนวนครั้งที่กดคู่ต่อสู้ติดเชือก และคุณภาพของ “จังหวะสอง” หลังการชุลมุน
เมื่อสัญญาณเหล่านี้เอนเข้าฝ่ายใดต่อเนื่อง มักจะเกิดช็อตสำคัญในไม่กี่จังหวะถัดไปและส่งผลต่อทิศทางคะแนนอย่างชัดเจน
FAQ — คำถามที่พบบ่อย
เวลา 18:00 น. เป็นเวลาไทยหรือไม่?
เป็นเวลาไทยตามมาตรฐานเวทีมวยราชดำเนิน โดยรายการจะเริ่มตามกำหนดและอาจขยับเวลาถัดไปตามความยาวของแต่ละไฟต์
ผู้ชมควรเผื่อเวลารับชมต่อเนื่องเพื่อไม่พลาดช่วงเปิดยกซึ่งกำหนดโทนเกมและมีผลต่อความเชื่อมั่นของนักชกในยกถัดไป
หากนักชก “เกินพิกัด” ทั้งสองฝั่ง เกมมีแนวโน้มอย่างไร?
มักเห็นแรงชนหนาและการปะทะเข้มข้นในช่วงต้นเกม แต่ตัวตัดสินจริงอยู่ที่ “แรงปลาย” และคุณภาพงานคอร์เนอร์
ใครรักษาทรงและความคมของอาวุธได้ในช่วง 30–40 วินาทีท้ายของแต่ละยก มีโอกาสชิงภาพรวมคะแนนได้เปรียบ
เหตุใดช่วง “ปิดยก” จึงสำคัญกับผลคะแนน?
เพราะเป็นช่วงภาพจำของกรรมการและผู้ชมชัดที่สุด หากฝ่ายหนึ่งปิดยกด้วยช็อตสะอาด เช่น ศอกสวนตรง ครอสเสาไกล
หรือลูกตั้งเตะเข้าเป้า จะทำให้คะแนนเอนเข้าฝั่งนั้นได้ แม้จำนวนช็อตรวมจะใกล้เคียงกันก็ตาม
บทสรุปภาพรวมค่ำคืนนี้
การ์ด “ศึกเพชรยินดี” คืนนี้ที่เวทีมวยราชดำเนินจัดว่าเข้มข้นและเต็มไปด้วยรายละเอียดทางแท็กติก
ตั้งแต่คู่เปิดที่ชี้มาตรฐานการตัดสิน ไปจนถึงคู่ปิดที่ดุดันและวัดกันที่แรงปลาย ปัจจัยที่ต้องจับตาได้แก่ผลชั่งที่สะท้อนความสด ความแน่น
และแนวโน้มของการวางเกม ทั้ง “จังหวะสอง–ปิดยก–งานคอร์เนอร์” ซึ่งคือสามแกนชี้ผลของไฟต์ระดับสูง
หวังว่าตารางและการวิเคราะห์ต่อคู่ในบทความนี้จะช่วยให้ผู้อ่านดูสนุก เข้าใจเกมลึกขึ้น และติดตามผลหลังการแข่งขันได้อย่างมีภาพจำชัดเจน
