ศึกเกียรติเพชร TOP KING ถือเป็นอีกหนึ่งรายการที่แฟนมวยไทยทั่วประเทศต่างจับตามอง เพราะเต็มไปด้วยนักชกที่มีชื่อเสียงและประสบการณ์สูง การชั่งน้ำหนักก่อนการแข่งขันในแต่ละคู่ไม่เพียงเป็นขั้นตอนสำคัญในการควบคุมน้ำหนักเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความพร้อม ความมีวินัย และการวางแผนของนักชกแต่ละฝ่าย การแข่งขันครั้งนี้ประกอบด้วย 4 คู่ที่มีความน่าสนใจและความสูสีสูง ซึ่งเราจะมาเจาะลึกทีละคู่
มวยวันนี้ ศึกเกียรติเพชร TOP KING 30/08/68
โปรแกรมการแข่งขันศึกจ้าวมวยไทย
วันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม 2568
ณ เวทีมวยสยามอ้อมน้อย เวลา 14.30 น.
อัพเดตข่าวสาร ตารางมวย พร้อมลิ้งก์ดูมวยสด ที่นี่
คู่ที่ | มุมแดง | พิกัด | ชั่งได้ | มุมน้ำเงิน | พิกัด | ชั่งได้ |
---|---|---|---|---|---|---|
1 | เพชรอาวุธ กิ๊ก พระราม 7 | 100 ปอนด์ | ตามพิกัด | เพชรฟูจิ ศิษย์ทหารเอก | 100 ปอนด์ | ตามพิกัด |
2 | ท็อปกัน ลูกเจ้าพ่อโรงต้ม | 130 ปอนด์ | ตามพิกัด | เอกอาวุธ วันดีทวีชัย | 130 ปอนด์ | 129.8 (ขาด 0.2) |
3 | บัวแก้ว สส. ปกรณ์สุรินทร์ | 132 ปอนด์ | ตามพิกัด | เพชรอุบล ส. เทียนชัย | 132 ปอนด์ | 132.4 (เกิน 0.4) |
4 | สิทธิชัย ส. เดชะพันธ์ | 127 ปอนด์ | ตามพิกัด | เมาคลี วันของโอม WKO | 127 ปอนด์ | 128.8 (เกิน 1.8) |
คู่ที่ 1 : เพชรอาวุธ กิ๊ก พระราม 7 vs เพชรฟูจิ ศิษย์ทหารเอก
รายละเอียดการชั่งน้ำหนัก
-
🔴 เพชรอาวุธ กิ๊ก พระราม 7 พิกัด 100 ปอนด์ ชั่งได้ตามพิกัด
-
🔵 เพชรฟูจิ ศิษย์ทหารเอก พิกัด 100 ปอนด์ ชั่งได้ตามพิกัด
การวิเคราะห์
คู่เปิดสนามถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่สมดุลที่สุด เพราะทั้งสองนักชกสามารถคุมน้ำหนักได้ตรงพิกัด ไม่มีฝ่ายใดเสียเปรียบหรือได้เปรียบในเรื่องของร่างกาย ดังนั้นการชี้ขาดจะอยู่ที่ฝีมือ การออกอาวุธ และการวางเกมที่เฉียบคม การเจอกันของสองนักชกที่ต่างก็มีความแข็งแกร่งและความสามารถครบเครื่องแบบนี้ ย่อมทำให้แฟนมวยได้เห็นการแลกอาวุธที่เข้มข้นตั้งแต่ยกแรก
คู่ที่ 2 : ท็อปกัน ลูกเจ้าพ่อโรงต้ม vs เอกอาวุธ วันดีทวีชัย
รายละเอียดการชั่งน้ำหนัก
-
🔴 ท็อปกัน ลูกเจ้าพ่อโรงต้ม พิกัด 130 ปอนด์ ชั่งได้ตามพิกัด
-
🔵 เอกอาวุธ วันดีทวีชัย พิกัด 130 ปอนด์ ชั่งได้ 129.8 ปอนด์ (ขาด 0.2 ปอนด์)
การวิเคราะห์
คู่ที่สองนี้ก็มีความสูสีไม่แพ้กัน ฝ่ายแดงชั่งได้ตรงตามพิกัด ขณะที่ฝ่ายน้ำเงินชั่งได้ต่ำกว่าพิกัดเล็กน้อยเพียง 0.2 ปอนด์ ซึ่งแทบไม่มีผลต่อความสมดุลในสังเวียน การขาดเล็กน้อยอาจกลับเป็นข้อดี เพราะทำให้นักชกมีความคล่องตัวมากขึ้น คู่ชกนี้จึงเป็นการวัดกันระหว่างพละกำลังของท็อปกันที่มีสไตล์บู๊ดุดัน กับความเร็วและชั้นเชิงของเอกอาวุธที่มีความแม่นยำสูง
คู่ที่ 3 : บัวแก้ว สส.ปกรณ์สุรินทร์ vs เพชรอุบล ส.เทียนชัย
รายละเอียดการชั่งน้ำหนัก
-
🔴 บัวแก้ว สส.ปกรณ์สุรินทร์ พิกัด 132 ปอนด์ ชั่งได้ตามพิกัด
-
🔵 เพชรอุบล ส.เทียนชัย พิกัด 132 ปอนด์ ชั่งได้ 132.4 ปอนด์ (เกิน 0.4 ปอนด์)
การวิเคราะห์
คู่นี้ถือว่ามีความน่าสนใจอย่างมาก ฝ่ายแดงคุมน้ำหนักได้พอดี ขณะที่ฝ่ายน้ำเงินเกินมาเล็กน้อย 0.4 ปอนด์ ซึ่งแม้จะไม่มาก แต่ก็อาจส่งผลให้เพชรอุบลมีแรงปะทะและพละกำลังมากกว่าเล็กน้อย ในทางกลับกัน บัวแก้วที่คุมน้ำหนักเป๊ะอาจได้เปรียบในเรื่องความฟิต ความทนทาน และการเคลื่อนไหวอย่างคล่องตัว การชกครั้งนี้จึงน่าจะเป็นเกมที่เข้มข้นและต้องใช้ทั้งพลังและทักษะเข้าวัดกันอย่างสูสี
คู่ที่ 4 : สิทธิชัย ส.เดชะพันธ์ vs เมาคลี วันของโอม WKO
รายละเอียดการชั่งน้ำหนัก
-
🔴 สิทธิชัย ส.เดชะพันธ์ พิกัด 127 ปอนด์ ชั่งได้ตามพิกัด
-
🔵 เมาคลี วันของโอม WKO พิกัด 127 ปอนด์ ชั่งได้ 128.8 ปอนด์ (เกิน 1.8 ปอนด์)
การวิเคราะห์
คู่ปิดท้ายรายการนี้นับว่าเป็นคู่ที่มีความแตกต่างด้านน้ำหนักมากที่สุด ฝ่ายแดงคุมน้ำหนักได้ตรงพิกัดเป๊ะ ขณะที่ฝ่ายน้ำเงินเกินไปถึง 1.8 ปอนด์ ซึ่งอาจทำให้เมาคลีได้เปรียบในด้านพลังและแรงปะทะ แต่สิ่งที่ต้องจับตาคือความทนทานและสภาพร่างกาย เพราะการเกินพิกัดอาจสะท้อนถึงการควบคุมน้ำหนักที่ยังไม่สมบูรณ์ สิทธิชัยในฐานะผู้คุมน้ำหนักเป๊ะจึงอาจมีความฟิตและความอึดมากกว่า ทำให้ไฟท์นี้กลายเป็นการเจอกันของ “ความฟิต vs พลังปะทะ” ที่แฟนมวยไม่ควรพลาด
บทสรุปภาพรวมศึกเกียรติเพชร TOP KING
จากผลการชั่งน้ำหนักและการวิเคราะห์ทั้ง 4 คู่ใน ศึกเกียรติเพชร TOP KING จะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่สามารถคุมน้ำหนักได้ดี มีเพียงบางคู่ที่มีการเกินหรือขาดเล็กน้อย จุดที่น่าสนใจคือคู่ที่ 1 และ 2 ที่สมดุลเกือบสมบูรณ์แบบ ขณะที่คู่ที่ 3 และ 4 มีตัวเลขที่ต่างออกไปบ้างแต่ก็ยังไม่เสียเปรียบมากนัก รายการนี้จึงรับประกันได้ถึงความมัน ความเข้มข้น และความสูสีที่แฟนมวยไทยทุกคนตั้งตารอชมอย่างแน่นอน