มวยวันนี้ ศึกท่อน้ำไทยเกียรติเพชรTKO 7/09/68 ศึกท่อน้ำไทยเกียรติเพชร TKO เป็นอีกหนึ่งเวทีที่แฟนมวยไทยให้ความสนใจ ด้วยชื่อเสียงและมาตรฐานการแข่งขันที่เข้มข้น นักชกแต่ละคนที่ขึ้นสังเวียนล้วนผ่านการฝึกซ้อมมาอย่างหนัก การชั่งน้ำหนักก่อนขึ้นเวทีถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะบอกได้ถึงความฟิตและความพร้อมของนักมวยทั้งสองฝ่าย บทความนี้จะพาไปเจาะลึกทีละคู่ วิเคราะห์จุดเด่น จุดอ่อน และแนวโน้มของไฟต์ที่จะเกิดขึ้น
มวยวันนี้ ศึกท่อน้ำไทยเกียรติเพชรTKO 7/09/68
โปรแกรมการแข่งขันศึกท่อน้ำไทยเกียรติเพชรTKO
วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2568
ณ เวทีมวยราชดำเนิน เวลา 18:00 น.
อัพเดตข่าวสาร ตารางมวย พร้อมลิ้งก์ดูมวยสด ที่นี่
คู่ที่ | มุมแดง | พิกัด | ชั่งได้ | มุมน้ำเงิน | พิกัด | ชั่งได้ |
---|---|---|---|---|---|---|
1 | สไนเปอร์ โกลิตะมวยไทย | 101 ปอนด์ | ตามพิกัด | ยอดอัจฉริยะ ท๊อปแฟรี่ยิม | 101 ปอนด์ | 101.7 (เกิน 0.7) |
2 | เพชรรุ่งโรจน์ ว. สุขสันต์ | 113 ปอนด์ | 112.7 (ขาด 0.3) | แคมมารูน ศิษย์ลมหนาว | 113 ปอนด์ | 114.3 (เกิน 1.3) |
3 | เด็กดอย ที.เอ็น. มวยไทย | 123 ปอนด์ | 123.4 (เกิน 0.4) | เทอดเกียรติ ศิษย์เจ๊กานต์ | 123 ปอนด์ | 123.3 (เกิน 0.3) |
4 | เพชรเหนือ ต๋องขาวเชียงใหม่ | 138 ปอนด์ | 135.4 (ขาด 2.6) | สิทธิศักดิ์ ศิษย์เจ๊กานค์ | 138 ปอนด์ | ตามพิกัด |
คู่ที่ 1 สไนเปอร์ โกลิตะมวยไทย vs ยอดอัจฉริยะ ท๊อปแฟรี่ยิม
สไนเปอร์ โกลิตะมวยไทย ชั่งได้ตามพิกัด 101 ปอนด์ แสดงให้เห็นถึงการควบคุมน้ำหนักที่มีวินัยและความฟิตที่ดี ส่วนยอดอัจฉริยะ ท๊อปแฟรี่ยิม ชั่งได้ 101.7 ปอนด์ เกินพิกัดเล็กน้อย 0.7 ปอนด์ ซึ่งแม้จะไม่มาก แต่ก็อาจบ่งบอกได้ว่าการคุมน้ำหนักของเจ้าตัวอาจมีจุดอ่อนบ้าง จุดน่าสนใจคือความฟิตของสไนเปอร์ที่ทำได้ตามเป๊ะ อาจทำให้ได้เปรียบเรื่องแรงปลายและความทนทาน ขณะที่ยอดอัจฉริยะจะต้องใช้พละกำลังและประสบการณ์เข้าต่อสู้เพื่อสร้างความได้เปรียบตั้งแต่ยกต้น
คู่ที่ 2 เพชรรุ่งโรจน์ ว.สุขสันต์ vs แคมมารูน ศิษย์ลมหนาว
เพชรรุ่งโรจน์ ว.สุขสันต์ พิกัด 113 ปอนด์ ชั่งได้ 112.7 ปอนด์ ขาดไปเพียง 0.3 ปอนด์ แสดงถึงการเตรียมร่างกายที่มีความละเอียดและมีความมั่นคง ส่วนแคมมารูน ศิษย์ลมหนาว กลับเกินพิกัดถึง 1.3 ปอนด์ การเกินน้ำหนักเช่นนี้อาจทำให้การฟื้นฟูร่างกายไม่เต็มร้อย และยังสะท้อนถึงความเหนื่อยล้าจากการลดน้ำหนักก่อนวันแข่ง ในเชิงมวย เพชรรุ่งโรจน์จึงอาจได้เปรียบในเรื่องของความฟิตและความเร็วในการออกอาวุธ แต่แคมมารูนยังคงมีจุดแข็งในด้านพละกำลังและแรงปะทะที่หนักหน่วง
คู่ที่ 3 เด็กดอย ที.เอ็น.มวยไทย vs เทอดเกียรติ ศิษย์เจ๊กานต์
ไฟต์นี้จัดขึ้นในพิกัด 123 ปอนด์ เด็กดอย ที.เอ็น.มวยไทย ชั่งได้ 123.4 ปอนด์ เกินเล็กน้อย 0.4 ปอนด์ ขณะที่เทอดเกียรติ ศิษย์เจ๊กานต์ ชั่งได้ 123.3 ปอนด์ เกิน 0.3 ปอนด์ เรียกได้ว่าทั้งคู่ทำได้ใกล้เคียงกันมากจนแทบไม่มีความแตกต่างที่ชัดเจน การแข่งขันจึงขึ้นอยู่กับกลยุทธ์การชกและการวางแผนบนเวที ใครสามารถควบคุมจังหวะและออกอาวุธได้ต่อเนื่องกว่ากันย่อมมีโอกาสชนะสูง คู่นี้ถือว่าเป็นหนึ่งในคู่ที่น่าจับตามอง เพราะนักชกทั้งสองต่างมีความมั่นใจและสไตล์ที่ชัดเจน
คู่ที่ 4 เพชรเหนือ ต๋องขาวเชียงใหม่ vs สิทธิศักดิ์ ศิษย์เจ๊กานต์
เพชรเหนือ ต๋องขาวเชียงใหม่ พิกัด 138 ปอนด์ แต่ชั่งได้เพียง 135.4 ปอนด์ ขาดไปถึง 2.6 ปอนด์ ซึ่งถือว่ามากพอสมควร อาจส่งผลให้ความแข็งแรงและแรงปะทะลดลงเมื่อเทียบกับสิทธิศักดิ์ ศิษย์เจ๊กานต์ ที่สามารถชั่งได้ตามพิกัดพอดี สิทธิศักดิ์จึงอาจได้เปรียบในด้านพละกำลังและความมั่นคงในการออกอาวุธ อย่างไรก็ตาม การขาดน้ำหนักของเพชรเหนืออาจทำให้ได้เปรียบในเรื่องความเร็วและความคล่องตัว คู่นี้จึงเป็นไฟต์ที่น่าสนใจ เพราะเป็นการปะทะกันระหว่างพลังหนักแน่นกับความเร็วปราดเปรียว
บทสรุปศึกท่อน้ำไทยเกียรติเพชร TKO
ศึกท่อน้ำไทยเกียรติเพชร TKO ครั้งนี้มีความน่าสนใจในหลายคู่ โดยเฉพาะคู่แรกที่เน้นการวัดกันระหว่างความฟิตกับพละกำลัง คู่กลางที่เต็มไปด้วยความสูสีใกล้เคียงกัน และคู่สุดท้ายที่เป็นการดวลกันระหว่างความเร็วกับความหนักหน่วง ผลชั่งน้ำหนักที่แตกต่างกันของนักมวยแต่ละฝ่ายจะส่งผลโดยตรงต่อแทคติกและรูปแบบการชกจริงบนเวที ทำให้แฟนมวยไม่ควรพลาดแม้แต่ไฟต์เดียว เพราะทุกคู่ต่างมีเสน่ห์และเรื่องราวที่น่าติดตามอย่างยิ่ง