มวยวันนี้ ศึกมวยไทยเกียรติเพชร 13/09/68 ที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ทุกคู่ผ่านการชั่งน้ำหนักเรียบร้อยแล้ว แม้บางรายจะต้องลดน้ำหนัก แต่ก็ยังพร้อมเต็มที่สำหรับการชกในค่ำคืนนี้ แต่ละคู่ต่างมีเอกลักษณ์ สไตล์การชกที่น่าจับตามอง และเป็นการวัดฝีมือที่แฟนมวยรอชมอย่างใจจดใจจ่อ

มวยวันนี้ ศึกมวยไทยเกียรติเพชร 13/09/68

มวยวันนี้ ศึกมวยไทยเกียรติเพชร 13/09/68

โปรแกรมการแข่งขันศึกมวยไทยเกียรติเพชร
วันเสาร์ที่ 13 กันยายน 2568
ณ เวทีมวยสยามอ้อมน้อย เวลา 15:00 น.
อัพเดตข่าวสาร ตารางมวย พร้อมลิ้งก์ดูมวยสด ที่นี่

คู่ที่ ฝ่ายแดง พิกัด (ปอนด์) ชั่งได้ ฝ่ายน้ำเงิน พิกัด (ปอนด์) ชั่งได้
1 ศิลาลาด สจ.เล็กเมืองนนท์ 107.0 ลด 0.2 เป็ปซี่ ซูจีบะหมี่เกี๊ยว 107.0 ตามพิกัด
2 สิงห์ปืนใหญ่ ส.ดำเนิน 129.0 ลด 0.6 ปราบดา แอ๊ดสันป่าตอง 129.0 ลด 0.2
3 ไอยรา กระเป๋าลิงกี้ 125.0 ลด 3.0 ทหารเอก นายกเอท่าศาลา 125.0 ตามพิกัด
4 วันปิยะ อ.อู๊ดดี้ยิมส์ 100.0 ตามพิกัด เพชรแสงดาว ส.โชคมีชัย 100.0 ตามพิกัด

คู่ที่ 1: ศิลาลาด สจ.เล็กเมืองนนท์ vs เป็ปซี่ ซูจีบะหมี่เกี๊ยว

ในพิกัด 107 ปอนด์ คู่เปิดหัวเป็นการปะทะกันระหว่าง ศิลาลาด สจ.เล็กเมืองนนท์ ฝ่ายแดง ที่ต้องลดน้ำหนักลง 0.2 ปอนด์ แสดงถึงความตั้งใจจริงในการคุมร่างกาย และ เป็ปซี่ ซูจีบะหมี่เกี๊ยว ฝ่ายน้ำเงิน ที่ชั่งได้ตรงตามพิกัดพอดี จุดเด่นของไฟต์นี้อยู่ที่การเผชิญหน้าของมวยบู๊ดุดันกับมวยฝีมือจัดจ้าน ศิลาลาดเป็นนักชกที่มีแข้งแรง หมัดหนัก และไม่กลัวการปะทะ ส่วนเป็ปซี่เป็นนักชกที่มีสภาพร่างกายดีเยี่ยมและออกอาวุธแม่นยำ คู่นี้น่าจะเป็นไฟต์ที่ทำให้คนดูตื่นเต้นตั้งแต่ยกแรก เพราะต่างฝ่ายต่างมีของดีที่พร้อมปล่อยออกมาเต็มที่


คู่ที่ 2: สิงห์ปืนใหญ่ ส.ดำเนิน vs ปราบดา แอ๊ดสันป่าตอง

พิกัด 129 ปอนด์ สิงห์ปืนใหญ่ ส.ดำเนิน ฝ่ายแดง ลดน้ำหนักไป 0.6 ปอนด์ ถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่กระทบต่อพละกำลังมากนัก ขณะที่ ปราบดา แอ๊ดสันป่าตอง ฝ่ายน้ำเงิน ลดไปเพียง 0.2 ปอนด์ ทำให้ร่างกายยังคงความสมบูรณ์พร้อม จุดที่น่าสนใจคือ สิงห์ปืนใหญ่เป็นมวยบู๊ที่เดินหน้าตลอดเวลา ใช้หมัดและแข้งเข้ากดดันคู่ต่อสู้ ส่วนปราบดาเป็นนักชกที่มีชั้นเชิง รู้จักการรักษาระยะและสวนกลับได้อย่างมีประสิทธิภาพ การปะทะของทั้งคู่จึงไม่ใช่แค่การวัดกำลัง แต่เป็นการวัดสมองและจังหวะการชกด้วย คู่นี้มีโอกาสสูงที่จะออกมาอย่างสนุก และอาจชิงเดือดจนถึงยกสุดท้าย


คู่ที่ 3: ไอยรา กระเป๋าลิงกี้ vs ทหารเอก นายกเอท่าศาลา

ในพิกัด 125 ปอนด์ ไอยรา กระเป๋าลิงกี้ ฝ่ายแดง ต้องลดน้ำหนักไปมากถึง 3.0 ปอนด์ ซึ่งอาจมีผลต่อความฟิตและการยืนระยะ ขณะที่ ทหารเอก นายกเอท่าศาลา ฝ่ายน้ำเงิน ชั่งได้ตามพิกัดพอดี แสดงถึงความพร้อมเต็มร้อย จุดเด่นของไฟต์นี้คือ ไอยราเป็นมวยที่มีสไตล์การบุกดุดัน ร่างกายแข็งแรง และออกอาวุธหนักหน่วง แต่การลดน้ำหนักมากอาจทำให้แรงปลายในยกหลังลดลง ส่วนทหารเอกขึ้นชื่อว่าเป็นนักชกที่มีจังหวะคุมเกมดี ใช้แข้งและศอกได้อย่างชาญฉลาด การเจอกันครั้งนี้จึงถือเป็นการพิสูจน์ว่าพละกำลังของไอยราจะยังคงอันตรายหรือจะถูกทหารเอกใช้ฝีมือคุมเกมไว้ได้


คู่ที่ 4: วันปิยะ อ.อู๊ดดี้ยิมส์ vs เพชรแสงดาว ส.โชคมีชัย

คู่ปิดท้ายของค่ำคืนในพิกัด 100 ปอนด์ เป็นการดวลกันระหว่าง วันปิยะ อ.อู๊ดดี้ยิมส์ ฝ่ายแดง และ เพชรแสงดาว ส.โชคมีชัย ฝ่ายน้ำเงิน ทั้งคู่ชั่งได้ตามพิกัด ไม่มีปัญหาในการควบคุมน้ำหนัก จุดเด่นของไฟต์นี้คือการปะทะกันของมวยหนุ่มไฟแรงที่มีความสดใหม่ วันปิยะมีจุดแข็งคือความเร็ว ออกอาวุธฉับไว และมีหมัดคม ส่วนเพชรแสงดาวเป็นมวยที่อาศัยจังหวะสวนกลับได้อย่างเฉียบคม การเจอกันครั้งนี้คาดว่าจะเป็นการแลกหมัด แลกแข้งที่ดุเดือด โดยมีโอกาสสูงที่ผลการชกจะตัดสินกันที่ความแม่นยำและการอ่านเกมที่เฉียบกว่า


บทสรุป ศึกมวยไทยเกียรติเพชร

จากการชั่งน้ำหนักทั้งหมด นักมวยทุกคู่ต่างผ่านพิกัดอย่างไม่มีปัญหา แม้บางรายต้องลดมากกว่าคนอื่น แต่ทุกคนยังพร้อมเต็มที่ในการขึ้นเวที ศึกมวยไทยเกียรติเพชร จึงเป็นอีกค่ำคืนที่แฟนมวยไม่ควรพลาด เพราะแต่ละคู่ต่างมีความมันส์ ความเข้มข้น และความน่าติดตามในแบบฉบับของมวยไทยแท้

ค่ำคืนนี้เวทีเกียรติเพชรจะเต็มไปด้วยเสียงเชียร์ ความเร้าใจ และการต่อสู้ที่แฟนมวยต้องพูดถึงอย่างแน่นอน ศึกนี้ไม่เพียงแต่เป็นการชิงชัย แต่ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงศักดิ์ศรีและคุณค่าของศิลปะแม่ไม้มวยไทยที่ยังคงยืนหยัดบนสังเวียนสากลได้อย่างสง่างาม