มวยวันนี้ ศึกมวยไทย 7 สี 14/09/68 ที่แฟนมวยทั่วประเทศรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ รายการนี้มีคู่มวยเด็ด 6 คู่ ที่แต่ละคู่ต่างมีความพร้อมและความน่าสนใจแตกต่างกันไป การชั่งน้ำหนักจึงสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่น ความฟิต และความเป็นมืออาชีพของนักมวย วันนี้เราจะมาวิเคราะห์ทีละคู่แบบละเอียด เพื่อให้แฟนมวยได้เห็นภาพรวมและคาดการณ์ความเป็นไปได้ก่อนขึ้นสังเวียน

มวยวันนี้ ศึกมวยไทย 7 สี 14/09/68

มวยวันนี้ ศึกมวยไทย 7 สี 14/09/68

โปรแกรมการแข่งขันศึกมวยไทย 7 สี
วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน 2568
ณ เวทีมวย ช่อง 7 สี เริ่มชกตั้งแต่เวลา 14.30 น.
อัพเดตข่าวสาร ตารางมวย พร้อมลิ้งก์ดูมวยสด ที่นี่

คู่ที่ ฝ่ายแดง พิกัด ชั่งได้ ฝ่ายน้ำเงิน พิกัด ชั่งได้
1 อนันตชัย ลานนาวอเตอร์ไซด์ 112.0 ปอนด์ ตามพิกัด ก้องสนั่น ส.เทียนโพธิ์ 112.0 ปอนด์ ตามพิกัด
2 พลายพยัคฆ์ ทต.พลับพลานารายณ์ 112.0 ปอนด์ ตามพิกัด ยอดเหล็กแหลม ต.พิทักษ์ชัย 112.0 ปอนด์ ขาด 0.4 ปอนด์
3 ยอดเสกสรร รถสวยจ่าเจต 132.0 ปอนด์ ตามพิกัด ยอดวิทยา สท.เหี่ยวบางแสน 132.0 ปอนด์ ตามพิกัด
4 ชาติพยัคฆ์ ศักดิ์สตูล 128.0 ปอนด์ ขาด 0.2 ปอนด์ พรเสน่ห์ ส.ภูมิภัทร 128.0 ปอนด์ ขาด 0.4 ปอนด์
5 สมิงขาวเล็ก พีเอส.มวยไทยยิม 113.0 ปอนด์ ลด 0.6 ปอนด์ ซุปเปอร์แชมป์ ทต.พลับพลานารายณ์ 113.0 ปอนด์ ขาด 0.4 ปอนด์
6 พันธ์พยัคฆ์เล็ก ป.ประพิศยิม 118.0 ปอนด์ ลด 0.8 ปอนด์ เป็นเอก ชิดชลยิมส์ 118.0 ปอนด์ ขาด 0.8 ปอนด์

 

คู่ที่ 1: อนันตชัย ลานนาวอเตอร์ไซด์ vs ก้องสนั่น ส.เทียนโพธิ์

คู่เปิดสนามของ ศึกมวยไทย 7 สี มวยวันนี้ 14/09/68 เป็นการเจอกันระหว่าง อนันตชัย ลานนาวอเตอร์ไซด์ ฝ่ายแดง ที่พิกัด 112.0 ปอนด์ ชั่งได้ตามพิกัดพอดี และ ก้องสนั่น ส.เทียนโพธิ์ ฝ่ายน้ำเงิน ที่ชั่งได้ตรงพิกัดเช่นกัน นับว่าเป็นการเริ่มต้นที่สมบูรณ์แบบเพราะไม่มีใครต้องลดหรือขาดน้ำหนัก

การที่ทั้งคู่ชั่งได้ตามพิกัด แสดงถึงการเตรียมร่างกายที่ดีและความมั่นใจในการขึ้นเวที การชกจึงน่าจะออกมาเข้มข้นตั้งแต่ยกแรก ทั้งสองน่าจะเน้นการแลกอาวุธอย่างดุเดือด โดยไม่มีข้อกังวลเรื่องสภาพร่างกาย ถือเป็นการเปิดหัวที่น่าจับตามองสุด ๆ


คู่ที่ 2: พลายพยัคฆ์ ทต.พลับพลานารายณ์ vs ยอดเหล็กแหลม ต.พิทักษ์ชัย

พลายพยัคฆ์ ทต.พลับพลานารายณ์ ฝ่ายแดง ขึ้นชั่งได้ตามพิกัด 112.0 ปอนด์อย่างไม่มีปัญหา ส่วน ยอดเหล็กแหลม ต.พิทักษ์ชัย ฝ่ายน้ำเงิน กลับชั่งได้ “ขาด” 0.4 ปอนด์ การชั่งขาดถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่อาจส่งผลต่อความมั่นใจและพลังในระหว่างการชก

แม้จะขาดไม่มาก แต่การไม่สามารถคุมให้อยู่พอดีพิกัด อาจสะท้อนถึงความฟิตที่ยังไม่เต็มร้อย ฝ่ายแดงจึงดูมีความได้เปรียบในแง่ความพร้อม อย่างไรก็ตาม ยอดเหล็กแหลมก็มีชื่อเสียงเรื่องความแข็งแกร่งและการออกอาวุธที่เฉียบคม หากสามารถคุมเกมได้ดี ก็ยังมีโอกาสสร้างความกดดันกลับคืนได้


คู่ที่ 3: ยอดเสกสรร รถสวยจ่าเจต vs ยอดวิทยา สท.เหี่ยวบางแสน

ยอดเสกสรร รถสวยจ่าเจต ฝ่ายแดง และ ยอดวิทยา สท.เหี่ยวบางแสน ฝ่ายน้ำเงิน ต่างชั่งได้ตรงพิกัด 132.0 ปอนด์พอดีทั้งคู่ การเจอกันครั้งนี้จึงเต็มไปด้วยความสูสีตั้งแต่ก่อนขึ้นเวที

การที่ไม่มีฝ่ายใดต้องลดน้ำหนักหรือขาดพิกัด ชี้ให้เห็นว่าทั้งคู่มีความฟิตและการเตรียมการที่ยอดเยี่ยม การชกน่าจะเน้นไปที่เชิงมวยและความเร็ว ใครที่สามารถอ่านเกมและจับจังหวะได้ก่อน จะมีโอกาสครองความได้เปรียบและสร้างคะแนนสำคัญในแต่ละยก


คู่ที่ 4: ชาติพยัคฆ์ ศักดิ์สตูล vs พรเสน่ห์ ส.ภูมิภัทร

ชาติพยัคฆ์ ศักดิ์สตูล ฝ่ายแดง ชั่งได้ขาด 0.2 ปอนด์ ส่วน พรเสน่ห์ ส.ภูมิภัทร ฝ่ายน้ำเงิน ก็ชั่งได้ขาดเช่นกัน แต่ขาดมากกว่าเล็กน้อยที่ 0.4 ปอนด์ ทั้งสองฝ่ายจึงเจอสถานการณ์คล้าย ๆ กัน คือไม่สามารถคุมให้อยู่พอดีพิกัดได้

อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างนี้อาจไม่ได้ส่งผลชัดเจนมากนัก เพราะทั้งคู่ต่างก็ชั่งขาดเหมือนกัน สิ่งสำคัญจึงอยู่ที่การปรับสภาพร่างกายและความสามารถในการรักษาพละกำลัง เมื่อถึงเวลาขึ้นสังเวียน การแข่งขันจึงอาจเป็นการวัดกันที่ความอึดและการใช้กลยุทธ์อย่างแท้จริง


คู่ที่ 5: สมิงขาวเล็ก พีเอส.มวยไทยยิม vs ซุปเปอร์แชมป์ ทต.พลับพลานารายณ์

สมิงขาวเล็ก พีเอส.มวยไทยยิม ฝ่ายแดง ต้องลดน้ำหนัก 0.6 ปอนด์ก่อนการชั่ง ขณะที่ ซุปเปอร์แชมป์ ทต.พลับพลานารายณ์ ฝ่ายน้ำเงิน ชั่งได้ขาด 0.4 ปอนด์ คู่มวยนี้จึงน่าสนใจเพราะต่างฝ่ายต่างมีปัญหาการชั่งในคนละรูปแบบ

ฝ่ายแดงอาจเผชิญความเหนื่อยล้าจากการไล่น้ำหนัก ในขณะที่ฝ่ายน้ำเงินอาจเสียเปรียบด้านความสมบูรณ์ของร่างกายเพราะชั่งขาด หากพิจารณาโดยรวมแล้ว คู่นี้น่าจะออกมาสูสีและขึ้นอยู่กับการฟื้นตัวและจิตใจมากกว่าตัวเลขบนตาชั่ง


คู่ที่ 6: พันธ์พยัคฆ์เล็ก ป.ประพิศยิม vs เป็นเอก ชิดชลยิมส์

พันธ์พยัคฆ์เล็ก ป.ประพิศยิม ฝ่ายแดง ต้องลดน้ำหนัก 0.8 ปอนด์ ขณะที่ เป็นเอก ชิดชลยิมส์ ฝ่ายน้ำเงิน ชั่งได้ขาด 0.8 ปอนด์ เท่ากับว่าทั้งคู่ต่างมีจุดอ่อนจากการชั่งในคนละแบบ แต่ปริมาณที่พอ ๆ กันทำให้กลายเป็นคู่ที่น่าติดตามอย่างมาก

ฝ่ายแดงอาจเสียพลังงานไปกับการลดน้ำหนัก ส่วนฝ่ายน้ำเงินอาจดูเหมือนเบากว่าคู่ชกเล็กน้อย ซึ่งอาจทำให้เสียเปรียบในเรื่องของแรงปะทะ การแข่งขันจึงน่าจะเป็นการแลกอาวุธที่เข้มข้น และแฟนมวยน่าจะได้เห็นเกมที่เร้าใจตลอดทั้งยก


บทสรุป: ศึกมวยไทย 7 สี มวยวันนี้ 14/09/68

ภาพรวมของการชั่งน้ำหนักในศึกมวยไทย 7 สี วันที่ 14 กันยายน 2568 มีความหลากหลายและน่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง หลายคู่ชั่งได้ตรงพิกัดอย่างสมบูรณ์ แต่ก็มีหลายคู่ที่ต้องลดหรือขาดน้ำหนัก ซึ่งอาจเป็นตัวแปรสำคัญในการตัดสินผลแพ้ชนะ

แฟนมวยไม่ควรพลาด เพราะทุกคู่ต่างมีความน่าสนใจในแง่การวิเคราะห์และการต่อสู้บนสังเวียนอย่างแท้จริง