มวยวันนี้ ศึกมวยไทย 7 สี 21/09/68 เตรียมระเบิดศึกดุเดือดที่เวทีช่อง 7 สีในช่วงบ่ายของวันอาทิตย์ โดยจะเริ่มถ่ายทอดสดตั้งแต่เวลา 14.30 น. สำหรับรายการในครั้งนี้ประกอบด้วย 6 คู่ชกสุดมันส์ ที่มีการวางตัวนักชกระดับแนวหน้าและดาวรุ่งฝีมือจัดจ้านลงประชันฝีมือกันอย่างเข้มข้น ซึ่งการชั่งน้ำหนักล่าสุดเผยให้เห็นถึงความพร้อมของนักมวยที่เตรียมตัวกันมาอย่างเต็มที่
มวยวันนี้ ศึกมวยไทย 7 สี 21/09/68
โปรแกรมการแข่งขัน ศึกมวยไทย 7 สี
วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน 2568
ณ เวทีมวย ช่อง 7 สี เริ่มชกตั้งแต่เวลา 14.30 น.
อัพเดตข่าวสาร ตารางมวย พร้อมลิ้งก์ดูมวยสด ที่นี
| คู่ที่ | ฝ่ายแดง | พิกัด | ชั่งได้ | ฝ่ายน้ำเงิน | พิกัด | ชั่งได้ |
|---|---|---|---|---|---|---|
| 1 | บุเรงนอง ลูกเจ้าพ่อโรงต้ม |
117.0 ปอนด์ | ตามพิกัด | ไนท์ฮอว์ก ราชานนท์ |
117.0 ปอนด์ | ลด 0.8 ปอนด์ |
| 2 | เดชภานุ ส.พงษ์อมร |
115.0 ปอนด์ | ขาด 0.2 ปอนด์ | เพชรนพเดช นพเดชมวยไทย |
115.0 ปอนด์ | ตามพิกัด |
| 3 | พันศักดิ์ ว.วรรณทวี |
112.0 ปอนด์ | ลด 0.4 ปอนด์ | เพชรน้ำหนึ่ง ต.สุรัตน์ |
112.0 ปอนด์ | ลด 1.0 ปอนด์ |
| 4 | เก่งกล้า ยูโสบคาน ต.ละงู |
128.0 ปอนด์ | ตามพิกัด | โอชิ ศรีสุบัติมวยไทย |
128.0 ปอนด์ | ขาด 0.4 ปอนด์ |
| 5 | เพชรดาวมล นพเดชมวยไทย |
126.0 ปอนด์ | ลด 2.4 ปอนด์ | ฤทธิ์ ส.พงษ์อมร |
126.0 ปอนด์ | ตามพิกัด |
| 6 | เฟสบุ๊ค นวพลฟาร์มสุขกระบือไทย |
45.0 กก. | ขาด 0.3 กก. | สุดรักเล็ก เกียรติสมนิตย์ |
45.0 กก. | ลด 0.5 กก. |
ผลชั่งน้ำหนักและความพร้อมของนักชกแต่ละคู่
คู่ที่ 1 – บุเรงนอง vs ไนท์ฮอว์ก
-
🔴 บุเรงนอง ลูกเจ้าพ่อโรงต้ม ชั่งได้ตามพิกัด 117.0 ปอนด์
-
🔵 ไนท์ฮอว์ก ราชานนท์ ชั่งได้ลด 0.8 ปอนด์
เปิดศึกคู่แรกของรายการด้วยการเจอกันระหว่างมวยฝีมือดุเดือดอย่างบุเรงนอง ที่สามารถชั่งได้ตามพิกัดเป๊ะ แสดงถึงการควบคุมน้ำหนักที่แม่นยำ ขณะที่ไนท์ฮอว์กแม้จะลดลงเล็กน้อยแต่ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ซึ่งการลดน้ำหนักเล็กน้อยของเขาอาจมีผลต่อพละกำลังในช่วงท้ายเกม แฟนมวยต้องจับตาให้ดี
คู่ที่ 2 – เดชภานุ vs เพชรนพเดช
-
🔴 เดชภานุ ส.พงษ์อมร ชั่งได้ขาด 0.2 ปอนด์
-
🔵 เพชรนพเดช นพเดชมวยไทย ชั่งได้ตามพิกัด
เดชภานุเป็นนักชกที่ขึ้นชื่อเรื่องหมัดหนักและบู๊ดุดัน การขาดน้ำหนักเล็กน้อยอาจแปลว่าเขามีความคล่องตัวสูง ขณะที่เพชรนพเดชควบคุมน้ำหนักมาได้ตามมาตรฐานเป๊ะ ถือว่าทั้งสองฝ่ายมีความพร้อมสูง การเผชิญหน้าระหว่างมวยบู๊ทั้งคู่น่าจะทำให้เวทีเดือดตั้งแต่ยกแรก
คู่ที่ 3 – พันศักดิ์ vs เพชรน้ำหนึ่ง
-
🔴 พันศักดิ์ ว.วรรณทวี ชั่งได้ลด 0.4 ปอนด์
-
🔵 เพชรน้ำหนึ่ง ต.สุรัตน์ ชั่งได้ลดถึง 1.0 ปอนด์
น้ำหนักที่ลดลงของเพชรน้ำหนึ่งค่อนข้างมาก แสดงถึงการควบคุมร่างกายในระดับเข้มข้น ซึ่งอาจกระทบต่อความแข็งแกร่งในช่วงท้าย ขณะที่พันศักดิ์ลดไม่มาก จึงอาจมีความสดและพลังหมัดที่เหนือกว่า เป็นอีกคู่ที่สู้กันด้วยเทคนิคและพละกำลังอย่างสมดุล
คู่ที่ 4 – เก่งกล้า ยูโสบคาน vs โอชิ
-
🔴 เก่งกล้า ต.ละงู ชั่งได้ตามพิกัด
-
🔵 โอชิ ศรีสุบัติมวยไทย ชั่งได้ขาด 0.4 ปอนด์
คู่นี้จัดว่าเป็นมวยสไตล์ศิลปะแม่ไม้มวยไทยที่แท้จริง เก่งกล้ามาพร้อมความแม่นยำของน้ำหนัก ขณะที่โอชิก็ถือว่าทำได้ดีเยี่ยม การที่ทั้งสองมีน้ำหนักเกือบเท่ากันเป๊ะน่าจะทำให้เกมชกออกมาสูสีและสนุกตลอดทั้ง 5 ยก
คู่ที่ 5 – เพชรดาวมล vs ฤทธิ์
-
🔴 เพชรดาวมล นพเดชมวยไทย ชั่งได้ลดถึง 2.4 ปอนด์
-
🔵 ฤทธิ์ ส.พงษ์อมร ชั่งได้ตามพิกัด
แม้เพชรดาวมลจะต้องลดน้ำหนักมาก แต่ก็แสดงให้เห็นถึงวินัยและความตั้งใจอย่างแรงกล้า ขณะที่ฤทธิ์สามารถทำได้ตามเกณฑ์ ถือเป็นข้อได้เปรียบเล็กน้อยในด้านพละกำลัง คู่นี้ถือเป็นหนึ่งในคู่ที่น่าจับตามอง เพราะมีผลต่อแรงกดดันและอันดับคะแนนในรุ่น
คู่ที่ 6 – เฟสบุ๊ค vs สุดรักเล็ก
-
🔴 เฟสบุ๊ค นวพลฟาร์มสุขกระบือไทย ชั่งได้ขาด 0.3 กก.
-
🔵 สุดรักเล็ก เกียรติสมนิตย์ ชั่งได้ลด 0.5 กก.
แม้จะเป็นคู่ชกรุ่นเล็ก แต่น้ำหนักและสถิติการชั่งบ่งบอกถึงความพร้อมสูง ทั้งสองฝ่ายมีประสบการณ์ในระดับเยาวชนแต่เทคนิคครบเครื่อง การที่ชั่งได้ในช่วงที่ใกล้เคียงกันมากทำให้เกมน่าจะเปิดหน้าสู้แบบไม่มีถอยตั้งแต่ยกแรก
วิเคราะห์แนวโน้มการชกจากการชั่งน้ำหนัก
การชั่งน้ำหนักของนักมวยในรายการ ศึกมวยไทย 7 สี บ่งบอกถึงระดับความฟิตของร่างกาย และความตั้งใจที่นักชกแต่ละคนมีต่อไฟต์นี้อย่างชัดเจน นักชกหลายคนสามารถทำได้ “ตามพิกัด” หรือ “ขาดเล็กน้อย” ซึ่งถือเป็นสัญญาณบวกสำหรับการแข่งขันที่เข้มข้นและมีคุณภาพ
ในบางคู่ที่ต้องลดน้ำหนักมาก เช่น เพชรดาวมล หรือเพชรน้ำหนึ่ง อาจต้องบริหารร่างกายให้กลับมาสมดุลทันก่อนขึ้นเวที ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่อาจส่งผลต่อแรงปลายในยกที่ 4-5 อย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในการชกที่ดุเดือดและมีการปะทะต่อเนื่อง
ชมสด ศึกมวยไทย 7 สี ได้ที่ไหน?
แฟนมวยสามารถรับชมการถ่ายทอดสด มวยวันนี้ 21/09/68 ได้ทาง ช่อง 7HD กด 35 ตั้งแต่เวลา 14.30 น. เป็นต้นไป และยังสามารถติดตามผ่านเพจมวย หรือช่อง YouTube ที่มีการถ่ายทอดสดและวิเคราะห์เกมแบบเรียลไทม์ให้ชมอย่างครบถ้วน
อย่าพลาดการสนับสนุนและให้กำลังใจนักชกคนโปรดของคุณ เพราะทุกคู่ในวันนี้ล้วนเต็มไปด้วยไฟต์คุณภาพ พร้อมสร้างความมันส์ระดับเต็มสิบให้คอมวยได้ตื่นเต้นตลอดวัน!