ไฮไลท์ฟุตบอล สเปน VS บัลแกเรีย 14/10/2568 สเปนถล่มบัลแกเรีย 4–0 ที่ Estadio José Zorrilla (Valladolid) ในเกมคัดเลือกฟุตบอลโลก เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2025 — ฟอร์มโดดเด่นของ Mikel Merino (สองประตู), ลูกทำเข้าประตูตัวเองของแนวรับบัลแกเรีย และจุดโทษที่สังหารโดย Mikel Oyarzabal ทำให้เจ้าบ้านยังคงเก็บชัยแบบสมบูรณ์และขยับเข้าใกล้การผ่านเข้ารอบ.

ไฮไลท์ฟุตบอล สเปน VS บัลแกเรีย 14/10/2568

ยิ่งเล่น ยิ่งได้ลุ้น เดิมพันขั้นต่ำ 20 บาท
U-QUIZ ทายผลลุ้น ucoin ทายถูกครบ3ข้อ รับฟรี20 ucoin (เล่นได้ 3 รอบต่อสัปดาห์)”

โปรแกรมฟุตบอล วันที่ 2 ตุลาคม 2568

บทสรุปเกมและผลการแข่งขัน

สเปนคุมเกมตั้งแต่ต้นด้วยการครองบอลและสร้างโอกาสต่อเนื่อง — Merino ขึ้นโหม่งยิงสองลูก (หนึ่งในนั้นก่อนพักครึ่งและอีกลูกช่วงครึ่งหลัง), บัลแกเรียต้องรับมือกับแรงกดดันตลอดทั้งเกมจนมี own-goal หนึ่งลูก และสุดท้าย Oyarzabalยิงจุดโทษช่วงทดเจ็บยืนยันสกอร์ 4–0 ให้สเปนคว้าสามแต้มแบบชัดเจน.


เหตุการณ์สำคัญในสนาม (Timeline / Key Moments)


จุดโทษชี้ชะตา

มีการให้ จุดโทษช่วงทดเวลาบาดเจ็บหลังจาก Merino ถูกกดดันและล้มในกรอบ — ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษและ Oyarzabal รับหน้าที่สังหารเข้าไป ช่วยให้สเปนยืนยันชัยชนะ 4–0 ก่อนหมดเวลา. จังหวะจุดโทษนี้เป็นการตอกย้ำความครอบครองและความกดดันต่อแนวรับบัลแกเรียตลอดทั้งเกม.


นักเตะคนสำคัญ (Key Players)


ตารางสถิติสำคัญ (Match snapshot )

สถิติ สเปน (ESP) บัลแกเรีย (BUL)
ผลการแข่งขัน 4 0
การครองบอล (%) 77.7% 22.3%
ยิงทั้งหมด (Shot attempts) 33 3
ยิงเข้ากรอบ (Shots on goal) 11 0
มุม (Corners) 11 0
เซฟ (Saves)** 0 8
ผู้ชม (Attendance) 24,526

วิเคราะห์เชิงแท็กติก (ลงลึก)

  1. ครองบอลเชิงรุกเพื่อเปิดช่อง: สเปนใช้ระบบการต่อบอลสั้น-กลาง ส่งบอลหมุนเวียนจากหลังสู่หน้า (possession football) เพื่อดึงแนวรับบัลแกเรียออกจากตำแหน่งและสร้างช่องให้ปีกและกองกลางเติมเข้าทำ — การครองบอลสูง (≈78%) ไม่ใช่เพื่อครองเวลาเพียงอย่างเดียว แต่เพื่อสร้างโอกาสยิงซ้ำ ๆ จนแนวรับคู่แข่งเกิดความผิดพลาด.

  2. ประสิทธิภาพจากลูกกลางอากาศ: Merino สองลูกมาจากการขึ้นโหม่ง — แสดงให้เห็นว่าสเปนไม่ได้พึ่งแต่การเล่นพื้น แต่ยังใช้เซ็ตพีซ/ครอสจากกราบทั้งสองข้างให้เป็นอาวุธ ทำให้บัลแกเรียต้องตั้งรับทั้งลูกพื้นและลูกกลางอากาศ.

  3. กดดันจนเกิดความผิดพลาด (pressure -> mistake -> goal): own-goal ของ Chernev เกิดจากการกดดันต่อเนื่องในกรอบ — นี่คือรูปแบบที่เห็นบ่อยเมื่อทีมที่ครองบอลแบบเชิงรุกไม่หยุดโจมตีจนผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามเสียสติ หรือบีบกันจนผิดพลาด.

  4. การใช้ม้านั่งสำรอง/การจัดการเกม: การส่งผู้เล่นอย่าง Oyarzabal ที่มีความเยือกเย็นในจังหวะจบสกอร์ (และรับหน้าที่สังหารจุดโทษ) แสดงให้เห็นว่าสเปนมีความลึกในการจัดทีมและแผนการใช้ตัวสำรองอย่างเป็นระบบเพื่อรักษาความกดดันและเก็บผลลัพธ์.

สรุปเชิงแท็กติก: สเปนชนะเพราะ “คุณภาพการครองบอล + การสร้างโอกาสซ้ำ ๆ + ใช้เซ็ตพีซ/กลางอากาศเป็นจังหวะจบท้าย” — ส่วนบัลแกเรียเสียรูปแบบเพราะถูกบีบพื้นที่จนไม่สามารถสร้างโอกาสตอบโต้ได้.


บทสรุปโดยย่อ

สเปนไล่ถล่มบัลแกเรีย 4–0 ด้วยฟอร์มที่ครองเกมแบบเบ็ดเสร็จ — Merino ทำสองประตู, own-goal และจุดโทษของ Oyarzabalช่วยยืนยันชัยชนะต่อหน้าแฟนบอลใน Valladolid ผลลัพธ์ทำให้สเปนยังเก็บชัยต่อเนื่องในรอบคัดเลือกและยิ่งตอกย้ำความแข็งแกร่งของสไตล์การเล่นที่เน้นการครองบอลและการจบสกอร์.