ศึกวันแชมเปียนชิพ ONE 173 ถือเป็นอีเวนต์ระดับซูเปอร์ไฟต์ที่แฟนหมัดมวยทั่วโลกต่างรอคอย เพราะจัดขึ้นในสนามอาริอาเกะ อารีนา กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นหนึ่งในสนามมาตรฐานสากลที่มักใช้สำหรับการแข่งขันกีฬาระดับโลกเสมอ โดยครั้งนี้เริ่มชกตั้งแต่เวลา 11.00 น. ตามเวลาประเทศญี่ปุ่น และมีคู่แข่งขันมากถึง 16 คู่ ครอบคลุมทั้งมวยไทย คิกบ็อกซิ่ง MMA และกราบเบิล โดยแต่ละคู่ถือว่ามีระดับฝีมือและชื่อเสียง ซึ่งนักสู้หลายรายเป็นแชมป์โลกหรืออดีตผู้ท้าชิงตำแหน่ง ส่งผลให้ไฟต์ดังกล่าวถูกจับตามองอย่างมาก ทั้งจากแฟนชาวไทยและแฟนต่างชาติทั่วโลก

โปรแกรมมวยศึกวันแชมเปียนชิพ ONE 173 – วิเคราะห์มวยครบ 16 คู่ จากอาริอาเกะ อารีนา กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โปรแกรมมวยศึกวันแชมเปียนชิพ ONE 173 – วิเคราะห์มวยครบ 16 คู่ จากอาริอาเกะ อารีนา กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

ตารางโปรแกรมชกศึกวันแชมเปียนชิพ ONE 173

คู่ที่ นักสู้มุมแดง นักสู้มุมน้ำเงิน พิกัด ชั่งแดง ชั่งน้ำเงิน
1 เว่ย รุย ฮิโรกิ อากิโมโตะ 145 ปอนด์ ขาด 1.2 ขาด 1.0
2 ชิฮิโร ซาวาดะ อิตซูกิ ฮิราตะ 115 ปอนด์ ขาด 0.4 ขาด 0.6
3 ชินยะ อาโอกิ ฮิโรยูกิ เทตซูกะ 170 ปอนด์ ขาด 3.8 ขาด 1.2
4 ริวโก ทาเคอูชิ ชามิล เออร์โดกัน 265 ปอนด์ ขาด 27.0 ขาด 23.0
5 เจก พีค็อก เสือคิม 145 ปอนด์ ขาด 1.0 ขาด 0.8
6 จันคาร์โล โบโดนี ราฟาเอล โลวาโต จูเนียร์ 205 ปอนด์ ขาด 3.0 ขาด 1.6
7 โชโสะ อิโซจิมะ ไท รูโทโล 170 ปอนด์ ขาด 1.8 ขาด 0.2
8 แสตมป์ แฟร์เท็กซ์ คานะ โมริโมโตะ 115 ปอนด์ ขาด 0.2 ขาด 0.8
9 นาบิล อานาน ฮิโรมิ วาจิมะ 155 ปอนด์ ขาด 1.2 ขาด 1.6
10 ซุปเปอร์เล็ก ยูกิ โยซะ 145 ปอนด์ ขาด 0.4 ขาด 0.4
11 มารัต กริกอเรียน รูคิยะ อันโปะ 155 ปอนด์ ขาด 0.8 ลด 0.4
12 ทาเครุ เซกาวา เดนิส พูริช 135 ปอนด์ ขาด 0.8 ขาด 0.8
13 คริสเตียน ลี อาลิเบก ราซูลอฟ 170 ปอนด์ ตามพิกัด ขาด 0.6
14 นาดากะ โยชินาริ หนุ่มสุรินทร์ 115 ปอนด์ ตามพิกัด ขาด 0.2
15 ยูยะ วากามัตสึ โจชัวว์ พาซิโอ 135 ปอนด์ ตามพิกัด ขาด 1.0
16 ซุปเปอร์บอน มาซาอากิ โนอิริ 155 ปอนด์ ขาด 0.8 ขาด 1.0

วิเคราะห์คู่มวยศึกวันแชมเปียนชิพ ONE 173 แบบละเอียด

คู่ที่ 1: เว่ย รุย vs ฮิโรกิ อากิโมโตะ

คู่เปิดรายการระหว่างเว่ย รุย และฮิโรกิ อากิโมโตะถือเป็นไฟต์ที่แฟนคิกบ็อกซิ่งต่างรอคอย เพราะทั้งสองนักสู้เป็นตัวแทนของสไตล์ที่แตกต่างกัน เว่ย รุยมีจุดเด่นที่การออกหมัดเร็วและการเตะลำตัวที่แม่นยำ ส่วนฮิโรกิเป็นมวยญี่ปุ่นสไตล์สปีดสูง ที่สามารถออกอาวุธได้ต่อเนื่องแม้ในระยะใกล้ ผลชั่งน้ำหนักที่ขาดเพียงเล็กน้อยทั้งคู่สะท้อนถึงความพร้อมระดับดีมาก แต่สิ่งที่น่าสนใจคือความได้เปรียบด้านช่วงชกของเว่ย รุย ซึ่งอาจทำให้เขาคุมระยะได้ดีในยกแรก ต่อให้ฮิโรกิจะมีเกมรุกที่หนักแน่น แต่หากไม่สามารถปิดระยะได้ทัน โอกาสเสียคะแนนจะมีสูงมากในช่วงต้นเกม

คู่ที่ 2: ชิฮิโร ซาวาดะ vs อิตซูกิ ฮิราตะ

ไฟต์นี้เป็นการปะทะกันของนักสู้หญิงจากญี่ปุ่นทั้งคู่ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในคู่ที่มีฐานแฟนคลับมากที่สุดในอีเวนต์ ซาวาดะเป็นนักสู้ที่มีความครบเครื่องและมีทักษะการออกอาวุธหลากหลาย โดยเฉพาะเกมภาคพื้นในสาย MMA ส่วนฮิราตะเป็นนักสู้สายพละกำลังที่เข้าทำดุดันและอาศัยแรงกดดันเข้าโจมตี ผลชั่งน้ำหนักที่ขาดเพียงเล็กน้อยทั้งสองฝ่าย ทำให้เกมนี้มีความสูสีอย่างมาก แต่ประสบการณ์บนเวทีระดับโลกของซาวาดะอาจเป็นตัวแปรที่ ทำให้เธอสามารถควบคุมเกมได้ดีในช่วงท้าย ทำให้เป็นคู่ที่ต้องดูแบบห้ามกะพริบตา

คู่ที่ 3: ชินยะ อาโอกิ vs ฮิโรยูกิ เทตซูกะ

ชินยะ อาโอกิ ตำนานสายจับล็อกแห่งญี่ปุ่นกลับมาชกอีกครั้งใน ONE 173 และต้องพบกับเทตซูกะซึ่งเป็นมวยที่มีพละกำลังสูงกว่าพอสมควร น้ำหนักของอาโอกิที่ขาดถึง 3.8 ปอนด์ทำให้หลายคนกังวลเรื่องความแข็งแรงของเจ้าตัว จนมีแนวโน้มว่าอาโอกิจะเน้นเกมภาคพื้นเข้าจับล็อกเร็ว เพื่อไม่ให้เสียจังหวะการปะทะ ส่วนเทตซูกะชี้ชัดว่าจะเน้นการยืนสู้และใช้หมัดหนักเพื่อทำลายจังหวะของอาโอกิ ไฟต์นี้ขึ้นอยู่กับว่าอาโอกิจะปิดระยะเร็วแค่ไหน หากทำได้อาจปิดเกมได้ตั้งแต่ช่วงกลางยก

คู่ที่ 4: ริวโก ทาเคอูชิ vs ชามิล เออร์โดกัน

พิกัดยักษ์ใหญ่ 265 ปอนด์ แต่ทั้งสองนักสู้ชั่งน้ำหนักได้ขาดค่อนข้างมาก สะท้อนถึงการเตรียมร่างกายที่อาจยังไม่ถึงจุดที่ดีที่สุด ทาเคอูชิมีความคล่องตัวสูงกว่าเล็กน้อย ขณะที่ชามิลมีพละกำลังมหาศาลและมีสไตล์บู๊ระเบิดพลังเป็นหลัก ไฟต์นี้เป็นไฟต์ที่ไม่ควรคาดหวังว่าจะยืดเยื้อ เพราะทั้งคู่ต่างมีอาวุธหนักและมีความเป็นไปได้สูงว่าจะจบแบบรวดเร็วในยกต้น ๆ ใครที่ออกอาวุธก่อนอาจคว้าความได้เปรียบในทันที

คู่ที่ 5: เจก พีค็อก vs เสือคิม

คู่ที่ห้าเป็นไฟต์มวยไทยที่แฟนชาวไทยให้ความสนใจอย่างมาก เพราะเสือคิมถือเป็นนักสู้ที่ได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากแฟนมวยไทย แม้ทั้งคู่จะชั่งน้ำหนักขาดทั้งคู่ แต่ถือว่าอยู่ในสภาพดี พีค็อกเป็นนักมวยที่มีความเร็วสูงและมีหมัดลำตัวแรง ส่วนเสือคิมมีลูกเตะซ้ายที่หนักและออกหมัดเป็นชุดได้ดี เกมนี้จะต้องวัดกันที่จังหวะเข้าทำและความนิ่งของแต่ละฝ่าย เพราะมวยไทยในระดับ ONE จะมีความเร็วสูงมาก ใครหลุดจังหวะอาจเสียคะแนนได้ทันที

คู่ที่ 6: จันคาร์โล โบโดนี vs ราฟาเอล โลวาโต จูเนียร์

ไฟต์กราบเบิลที่หลายคนพูดถึง เพราะทั้งจันคาร์โลและโลวาโตเป็นระดับท็อปของวงการ BJJ ระดับโลก ผลชั่งน้ำหนักที่ขาดพอสมควรสะท้อนว่านักสู้ต้องเน้นความฟิตและความแม่นยำของทักษะมากกว่าเรื่องพละกำลัง โลวาโตมีประสบการณ์กว่า แต่จันคาร์โลมีความรวดเร็วและเทคนิคพลิกแพลงสูง ไฟต์นี้น่าจะเป็นศึกเชิงเทคนิคที่วัดกันละเอียดทุกจังหวะ

คู่ที่ 7: โชโสะ อิโซจิมะ vs ไท รูโทโล

อิโซจิมะจากญี่ปุ่นต้องเผชิญกับไท รูโทโล หนึ่งในจอมยุทธ์ MMA ที่ถูกจับตามองมากที่สุดของสหรัฐอเมริกา เพราะรูโทโลมีทักษะกราวด์เกมเหนือระดับและการชั่งน้ำหนักที่ขาดน้อยแสดงถึงความพร้อม แม้อิโซจิมะจะมีสไตล์ตั้งรับที่เหนียวแน่น แต่หากถูกลากเข้าพื้นและเสียตำแหน่ง อาจโดนซับมิชชั่นได้เร็ว นี่คืออีกหนึ่งไฟต์ที่มีโอกาสจบแบบไม่ครบยก

คู่ที่ 8: แสตมป์ แฟร์เท็กซ์ vs คานะ โมริโมโตะ

แสตมป์ แฟร์เท็กซ์ ซูเปอร์สตาร์ชาวไทยต้องเจอกับนักสู้สาวชาวญี่ปุ่น คานะ โมริโมโตะ ซึ่งถือว่าเป็นคู่ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะสไตล์การชกของทั้งคู่เน้นความเร็ว ความแม่นยำ และมีทักษะทั้งยืนสู้และภาคพื้น แสตมป์ชั่งขาดเพียง 0.2 ปอนด์ แสดงถึงความพร้อมที่ดีมาก ขณะที่โมริโมโตะขาด 0.8 ปอนด์ ทำให้เรื่องความสดอาจด้อยลงเล็กน้อย แต่ไฟต์นี้จะขึ้นอยู่กับการจับจังหวะเข้าทำ หากแสตมป์ออกอาวุธก่อนและคุมกลางเวทีได้ เธอจะได้เปรียบชัดเจน

คู่ที่ 9: นาบิล อานาน vs ฮิโรมิ วาจิมะ

คู่ที่เก้าเป็นไฟต์มวยไทยที่มีความน่าสนใจเช่นกันเพราะทั้งนาบิลและวาจิมะมีชื่อเสียงในด้านความดุดัน ผลชั่งน้ำหนักที่ขาดพอสมควรทั้งคู่ทำให้เกมนี้มีความเร็วสูง เนื่องจากรูปร่างที่บางลงช่วยให้เคลื่อนที่ได้เร็วขึ้น แต่ข้อเสียคืออาจเสียแรงปลายเร็ว หากวาจิมะเร่งเกมตั้งแต่ต้นยก นาบิลต้องระวังหมัดสวนที่ทรงพลังของคู่ต่อสู้ แต่ถ้านาบิลสามารถตั้งกำแพงป้องกันและดักเตะได้ เขามีโอกาสเก็บคะแนนก่อนเข้าสู่ยกท้าย

คู่ที่ 10: ซุปเปอร์เล็ก vs ยูกิ โยซะ

ซุปเปอร์เล็ก ซุปเปอร์เล็กมวยไทย นักสู้ชาวไทยที่ติดอันดับต้น ๆ ของวงการมวยไทยระดับสากล ต้องเจอกับยูกิ โยซะ นักสู้ชาวญี่ปุ่นที่มีสไตล์บู๊และเดินเข้าหาอย่างหนัก การชั่งน้ำหนักที่เท่ากันทั้งคู่สะท้อนว่ามีความพร้อมสูงมาก เกมนี้จะเป็นเกมที่ต้องวัดกันที่ความแม่นยำและสไตล์ทำแต้ม ซุปเปอร์เล็กมีจุดเด่นด้านเตะขวาหนักและการคุมระยะ ขณะที่ยูกิมีลูกหมัดอันตรายและเข้าไว ถ้าไฟต์นี้ซุปเปอร์เล็กหาจังหวะเตะตัดขาคู่ต่อสู้ได้เร็ว เขาจะคุมเกมได้ดีตั้งแต่ต้น

คู่ที่ 11: มารัต กริกอเรียน vs รูคิยะ อันโปะ

คู่นี้เป็นไฟต์คิกบ็อกซิ่งที่แฟนชาวญี่ปุ่นตั้งตารอ เพราะมารัต กริกอเรียนถือเป็นหนึ่งในนักคิกบ็อกซิ่งระดับโลก ส่วนอันโปะเป็นตัวแทนเจ้าถิ่นที่มีสไตล์ดุดัน การลดน้ำหนักของอันโปะเพียง 0.4 ปอนด์ถือว่าเหมาะสมมาก ส่วนมารัตที่ขาด 0.8 ปอนด์ยังคงมีพละกำลังที่ดี เกมนี้จะต้องลุ้นว่ามารัตจะสามารถใช้ประสบการณ์เอาชนะความเร็วของอันโปะได้หรือไม่

คู่ที่ 12: ทาเครุ เซกาวา vs เดนิส พูริช

คู่ที่สิบสองเป็นการปะทะกันของสองนักสู้ที่มีความทนทานสูง ทั้งคู่ชั่งขาดพิกัดเท่ากันที่