ไฮไลท์ฟุตบอล เลเวอร์คูเซ่น VS ปารีส แซงต์แชร์กแมง 21/10/2568 ปารีส แซงต์-แชร์กแมงบุกถล่มไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น 7–2 ในเกมที่ BayArena (21 ต.ค. 2025) — นัดนี้มีทั้งประตูถล่มประตู, จุดโทษ, และไฮไลท์ดราม่าด้วยไล่แดงสองใบ ทำให้คืนนี้กลายเป็นหนึ่งในเกมที่ปั่นป่วนที่สุดของรอบแบ่งกลุ่ม (และทำให้เปแอสเชเก็บ 9 แต้มเต็มจาก 3 นัด)

ไฮไลท์ฟุตบอล เลเวอร์คูเซ่น VS ปารีส แซงต์แชร์กแมง 21/10/2568

ยิ่งเล่น ยิ่งได้ลุ้น เดิมพันขั้นต่ำ 20 บาท
U-QUIZ ทายผลลุ้น ucoin ทายถูกครบ3ข้อ รับฟรี20 ucoin (เล่นได้ 3 รอบต่อสัปดาห์)”

โปรแกรมฟุตบอล วันที่ 2 ตุลาคม 2568

บทสรุปเกมและผลการแข่งขัน

เกมเปิดฉากเร็วด้วยประตูแลกเปลี่ยนหลายลูกในครึ่งแรก ก่อนที่เปแอสเชจะผูกเกมแน่นและยิงถล่มอย่างต่อเนื่อง — Desire Doué ทำสองประตู, อีกลูก ๆ มาจาก Khvicha Kvaratskhelia, Nuno Mendes, Ousmane Dembélé (ประตูแรกหลังกลับมาจากเจ็บ) และ Vitinha ขณะที่เลเวอร์คูเซ่นตีได้สองจาก Álex Grimaldo (พลาดจุดโทษก่อน) และ Álex García แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะต้านแนวรุกปารีสไว้ได้. เกมยังมีเหตุการณ์รุนแรง — ทั้งสองทีมถูกไล่ออกคนละราย (Robert Andrich ของเลเวอร์คูเซ่น และ Illia Zabarnyi ของเปแอสเช) — ทำให้บรรยากาศยิ่งชุลมุน.


เหตุการณ์สำคัญในสนาม (Timeline / Key Moments)

(ไทม์ไลน์เหตุการณ์เต็มอ่านได้จากรายงานแมตช์ของ ESPN/Reuters/Vavel).


จุดโทษชี้ชะตา

ครึ่งแรกมีการให้ จุดโทษสองครั้ง ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญของแมตช์ — จังหวะจุดโทษและการสังหาร (รวมการพลาดจุดโทษของฝั่งเจ้าบ้านตามรายงาน) ทำให้สกอร์ภายใน 45 นาทีนั้นพลิกผันอย่างรวดเร็ว และท้ายที่สุดเปแอสเชสามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสเหล่านี้ได้ดีเพื่อตั้งฐานก่อนที่เกมจะเปิดกว้างมากขึ้นในครึ่งหลัง.


นักเตะคนสำคัญ (Key Players)

(ผู้เล่นสำคัญที่กล่าวมาถูกไฮไลท์ในสื่อหลักหลายสำนักที่รายงานแมตช์นี้).


ตารางสถิติแมตช์ (Match snapshot — ที่มา: ESPN / FotMob)

สถิติ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ปารีส แซงต์-แชร์กแมง
ผลการแข่งขัน 2 7
การครองบอล (%) 29.2% 70.8%
ยิงทั้งหมด (Shot attempts) 6 24
ยิงเข้ากรอบ (Shots on target) 3 8
มุม (Corners) 2 9
ใบเหลือง / แดง 2 / 1 1 / 1
เซฟ (Saves) 3 1

ที่มา: ESPN / FotMob — ตัวเลขแสดงการครอบงำของเปแอสเชทั้งในเชิงครองบอลและโอกาสยิง.


วิเคราะห์เชิงแท็กติก — ทำไมสกอร์ถึงออกมากขนาดนี้

  1. ครองบอลเชิงรุก + ความหลากหลายในแนวรุกของเปแอสเช: เปแอสเชครองบอลมากกว่า ~71% และสร้างโอกาสยิงซ้ำ ๆ (24 attempts) — การหมุนบอลเร็วและการเติมเข้ากรอบจากปีก-กองกลางทำให้แนวรับเลเวอร์คูเซ่นถูกกดดันจนผิดพลาดหลายจังหวะ.

  2. บทบาทของตัวสำรองและความลึกตัวผู้เล่น: การที่เปแอสเชมีตัวเลือกเชิงรุกที่หลากหลาย (Kvaratskhelia, Dembélé, Doué) ทำให้เลเวอร์คูเซ่นต้องปรับการมาร์กและพื้นที่บ่อยครั้ง — เมื่อต้องการเปลี่ยนแท็กติกช่วงเกม เลเวอร์คูเซ่นไม่มีตัวเลือกเพียงพอจะหยุดการไหลของบอล.

  3. ปัจจัยเชิงวินัย (แดง & จุดโทษ): การถูกไล่ออกของ Robert Andrich ฝั่งเจ้าบ้าน (และใบแดงของ Illia Zabarnyi ฝั่งเปแอสเช) พร้อมเหตุจังหวะจุดโทษสองครั้ง ทำให้เกมมีความปั่นป่วนและเปิดโอกาสให้ทั้งสองฝ่ายยิงสลับกัน แต่เปแอสเชใช้ประโยชน์เชิงจังหวะได้ดีกว่า.

สรุปคือ ผลต่างสูงเกิดจากการผสานกันของการครองบอลแบบกดดัน, ความคมในการจบสกอร์ของแนวรุกเปแอสเช และเหตุการณ์วินัยในสนามที่ทำให้เกมเปิดกว้างมากขึ้น.


บทสรุปโดยย่อ

ปารีส แซงต์-แชร์กแมงเอาชนะไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น 7–2 ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกที่เต็มไปด้วยประตู จุดโทษ และไล่แดง — ผลการแข่งขันช่วยยืนยันว่าปารีสยังคงเป็นกำลังรุกสำคัญในรอบแบ่งกลุ่ม ขณะที่เลเวอร์คูเซ่นต้องกลับไปทบทวนทั้งเกมรับและวินัยในสนามก่อนเกมต่อไป.