มวยวันนี้ ศึกจ้าวมวยไทย 6/09/68 ศึกจ้าวมวยไทย 6 กันยายน 2568 คือหนึ่งในรายการมวยไทยที่ได้รับความนิยมสูงสุดในเมืองไทย ด้วยการจัดคู่มวยคุณภาพที่เต็มไปด้วยฝีมือและชื่อเสียงของนักชกทั้งรุ่นเล็กและรุ่นใหญ่ การแข่งขันครั้งนี้ยังคงดึงดูดแฟนมวยทั้งในสนามและทางบ้านด้วยการถ่ายทอดสด และแต่ละคู่ก็ต่างมีความสูสีและน่าสนใจ บทความนี้จะพาทุกท่านไปวิเคราะห์เจาะลึกทุกคู่ที่จัดขึ้นในวันนี้

มวยวันนี้ ศึกจ้าวมวยไทย 6/09/68

มวยวันนี้ ศึกจ้าวมวยไทย 6/09/68

โปรแกรมการแข่งขันศึกจ้าวมวยไทย
วันพฤหัสบดีที่ 4 กันยายน 2568
ณ เวทีมวยสยามอ้อมน้อย เวลา 12:30 น.
อัพเดตข่าวสาร ตารางมวย พร้อมลิ้งก์ดูมวยสด ที่นี่

คู่ที่ มุมแดง พิกัด ชั่งได้ มุมน้ำเงิน พิกัด ชั่งได้
1 ฟ้าใหม่ พีเค. แสนชัยมวยไทยยิม 119 ปอนด์ ตามพิกัด ขงเบ้ง ส. ทองภูบาล 119 ปอนด์ 118 (ขาด 1.0)
2 เพชรป่าสัก ส. สละชีพ 115 ปอนด์ 115.4 (เกิน 0.4) เผด็จศึก ค. แย้มสวน 115 ปอนด์ ตามพิกัด
3 เพชรเมืองกัณฑ์ ช. ห้าพยัคฆ์ 107 ปอนด์ 106.8 (ขาด 0.2) ลาวสตาร์ เกียรติธงยศ 108 ปอนด์ 109 (เกิน 1.0)
4 พลังทรัพย์ ลานนาวอเตอร์ไซด์ 120 ปอนด์ ตามพิกัด พีระพงศ์ ที 20 เอ็นทีเอ็น 120 ปอนด์ 119 (ขาด 1.0)

 

คู่ที่ 1 ฟ้าใหม่ พีเค. แสนชัยมวยไทยยิม vs ขงเบ้ง ส. ทองภูบาล

คู่เปิดสนามระหว่าง ฟ้าใหม่ พีเค. แสนชัยมวยไทยยิม นักมวยที่ขึ้นชั่งได้ตามพิกัด 119 ปอนด์พอดี แสดงให้เห็นถึงความพร้อมที่เต็มร้อยทั้งร่างกายและจิตใจ ฝั่งตรงข้ามคือ ขงเบ้ง ส. ทองภูบาล ที่แม้จะพิกัดเท่ากัน แต่ชั่งได้เพียง 118 ปอนด์ ขาดไป 1 ปอนด์ ซึ่งอาจได้เปรียบเรื่องความเบาและคล่องตัว จุดเด่นของคู่นี้คือการปะทะระหว่างนักมวยที่คุมร่างกายได้ดีเยี่ยมกับนักมวยที่มีน้ำหนักเบาและน่าจะว่องไวกว่า การต่อสู้ครั้งนี้จึงเป็นการเปิดเกมที่ดุเดือดและอาจวัดผลกันที่ความแม่นยำและสภาพจิตใจของนักชก


คู่ที่ 2 เพชรป่าสัก ส. สละชีพ vs เผด็จศึก ค. แย้มสวน

การชกในพิกัด 115 ปอนด์ เพชรป่าสัก ส. สละชีพ ชั่งได้ 115.4 ปอนด์ เกินไปเล็กน้อย 0.4 ปอนด์ ซึ่งสะท้อนถึงพละกำลังที่เพิ่มขึ้น อาจทำให้สามารถปล่อยหมัดได้หนักหน่วงและทรงพลังมากขึ้น ในขณะที่ เผด็จศึก ค. แย้มสวน สามารถชั่งได้ตามพิกัดพอดี แสดงให้เห็นถึงการเตรียมร่างกายที่ดีและมีความฟิตสูงสุด คู่นี้น่าสนใจตรงที่เป็นการปะทะกันระหว่างพละกำลังกับการคุมร่างกายอย่างแม่นยำ เชื่อว่าจะเป็นไฟต์ที่ต้องอาศัยแทคติกและไหวพริบมากพอสมควร เพราะต่างฝ่ายต่างก็มีจุดแข็งที่น่ากลัวทั้งคู่


คู่ที่ 3 เพชรเมืองกัณฑ์ ช. ห้าพยัคฆ์ vs ลาวสตาร์ เกียรติธงยศ

อีกหนึ่งคู่ที่แฟนมวยจับตามองคือพิกัด 107–108 ปอนด์ เพชรเมืองกัณฑ์ ช. ห้าพยัคฆ์ ชั่งได้ 106.8 ปอนด์ ขาดเล็กน้อย 0.2 ปอนด์ ทำให้ได้เปรียบเรื่องความเร็ว ส่วน ลาวสตาร์ เกียรติธงยศ กลับชั่งได้ 109 ปอนด์ เกินไป 1 ปอนด์ ส่งผลให้มีพละกำลังและการยืนระยะที่เหนือกว่า แต่ความเร็วอาจเสียไปบ้าง ความน่าสนใจของไฟต์นี้คือการดวลกันระหว่างนักชกที่คล่องแคล่วกับนักมวยที่มีกำลังเหนือกว่า และแน่นอนว่าผลการต่อสู้ขึ้นอยู่กับจังหวะและการวางหมากของทั้งสองฝ่ายว่าจะทำได้ดีกว่าในยกท้าย ๆ หรือไม่


คู่ที่ 4 พลังทรัพย์ ลานนาวอเตอร์ไซด์ vs พีระพงศ์ ที 20 เอ็นทีเอ็น

ในพิกัด 120 ปอนด์ พลังทรัพย์ ลานนาวอเตอร์ไซด์ ขึ้นชั่งได้ตรงตามพิกัดพอดี เป็นเครื่องยืนยันว่าการเตรียมร่างกายสมบูรณ์แบบและมีความพร้อมเต็มที่ ส่วน พีระพงศ์ ที 20 เอ็นทีเอ็น ชั่งได้เพียง 119 ปอนด์ ขาดไป 1 ปอนด์ ซึ่งทำให้อาจได้เปรียบในด้านความเร็ว แต่ต้องระวังในช่วงปะทะที่อาจจะสู้แรงปะทะของคู่ต่อสู้ไม่ได้มากนัก จุดเด่นของคู่นี้คือการชกที่น่าจะรวดเร็ว ตื่นเต้น และต้องอาศัยการออกอาวุธที่แม่นยำเป็นพิเศษ เพราะเพียงเล็กน้อยก็อาจเป็นตัวตัดสินผลแพ้ชนะได้


สรุปความมันส์จากศึกจ้าวมวยไทย 6 กันยายน 2568

ภาพรวมของ ศึกจ้าวมวยไทย 6 กันยายน 2568 เป็นอีกหนึ่งรายการที่มีความหลากหลาย ทั้งการเจอกันของนักมวยที่ขาดน้ำหนักเล็กน้อยและนักมวยที่เกินพิกัด ซึ่งต่างก็มีผลโดยตรงต่อสไตล์การชกในเวที การแข่งขันครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่านักชกแต่ละคนมีความพร้อมและความมุ่งมั่นที่จะโชว์ฝีมืออย่างเต็มที่ แฟนมวยจึงมั่นใจได้ว่าจะได้ชมการชกที่สนุก ดุเดือด และเต็มไปด้วยความมันส์ในทุกยกอย่างแน่นอน