ศึกจิตรเมืองนนท์ ในวันเสาร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2568 จัดขึ้นที่เวทีมวยจิตรเมืองนนท์ อตก.3 จังหวัดนนทบุรี ถือเป็นหนึ่งในรายการมวยไทยที่แฟนหมัดมวยให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นเวทีที่รวบรวมทั้งมวยเด็ก มวยเยาวชน และมวยอาชีพพิกัดปอนด์มาไว้ในรายการเดียว โดยกำหนดเวลาชกตั้งแต่ 16.30 น. ถึง 18.00 น. ทำให้บรรยากาศช่วงเย็นคึกคักไปด้วยเสียงเชียร์และความตื่นเต้นจากคู่มวยทั้งหมด 9 คู่ที่ขึ้นสังเวียนในศึกจิตรเมืองนนท์ ครั้งนี้

โปรแกรมมวย ศึกจิตรเมืองนนท์ 22 พฤศจิกายน 2568 เวทีมวยจิตรเมืองนนท์ อตก.3 นนทบุรี

ภาพรวมศึกจิตรเมืองนนท์ วันเสาร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2568

บรรยากาศของศึกจิตรเมืองนนท์ ที่เวทีมวยจิตรเมืองนนท์ อตก.3 นนทบุรี ในวันเสาร์นี้ เต็มไปด้วยสีสันจากนักมวยหลายช่วงวัย เริ่มต้นจากมวยเด็กพิกัดกิโลกรัมที่ลงเวทีเพื่อสั่งสมประสบการณ์ ไปจนถึงมวยอาชีพพิกัด 100–139 ปอนด์ที่พร้อมวัดศักดิ์ศรีค่ายมวยและฝีมือกันแบบไม่มีใครยอมใคร แฟนมวยที่ติดตามศึกจิตรเมืองนนท์ จึงได้ชมเกมการต่อสู้ที่หลากหลายสไตล์ ทั้งความน่ารักของมวยเด็ก ความดุดันของมวยดาวรุ่ง และความหนักแน่นของมวยใหญ่ในบัตรเดียว

ด้วยช่วงเวลาการแข่งขันที่ชัดเจนตั้งแต่ 16.30–18.00 น. ทำให้ศึกจิตรเมืองนนท์ เป็นรายการที่เหมาะสำหรับแฟนมวยที่ต้องการใช้เวลาช่วงเย็นไปกับการชมศิลปะแม่ไม้มวยไทย ผู้ชมสามารถวางแผนการเดินทางมาที่เวทีหรือเตรียมตัวสำหรับรับชมผ่านหน้าจอได้อย่างสะดวก ขณะเดียวกันการรวบรวมคู่มวยถึง 9 คู่ในรายการเดียวก็ช่วยให้ค่ำคืนของวันเสาร์เต็มไปด้วยความมันส์อย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงมาตรฐานการจัดศึกจิตรเมืองนนท์ ที่ยังคงรักษาคุณภาพของรายการได้อย่างสม่ำเสมอ

ตารางการแข่งขัน ศึกจิตรเมืองนนท์ เวทีมวยจิตรเมืองนนท์ อตก.3

ก่อนเข้าสู่การวิเคราะห์รูปมวยเชิงลึกของแต่ละคู่ เรามาดูตารางโปรแกรมการแข่งขันของศึกจิตรเมืองนนท์ ประจำวันเสาร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2568 กันก่อน เพื่อให้เห็นภาพรวมว่าในช่วงเวลา 16.30–18.00 น. นี้มีคู่ใดขึ้นชก พิกัดเท่าไร และผลการชั่งน้ำหนักเป็นอย่างไรบ้าง ตารางต่อไปนี้จะช่วยให้แฟนมวยสามารถใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงได้ทั้งก่อนรับชม ระหว่างลุ้นผล และหลังจบศึกจิตรเมืองนนท์ เพื่อย้อนดูภาพรวมของทั้งรายการได้อย่างเป็นระบบ

คู่ที่ มุมแดง พิกัด (หน่วย) ชั่งได้ มุมน้ำเงิน พิกัด (หน่วย) ชั่งได้ หมายเหตุ
1 กัปตัน ศิษย์มวยทูเดย์ 23.0 กก. ตามพิกัด ทองพะเนียด บอสชายมีตังค์เจมส์ 23.0 กก. ตามพิกัด มวยเด็กเปิดหัว ศึกจิตรเมืองนนท์
2 ยอดกุมาร ป.ไทยสงค์ 34.0 กก. ตามพิกัด เด่นมุสลิม ศักดืวารุณ 34.0 กก. ตามพิกัด มวยเยาวชนพิกัด 34 กก.
3 มนตรีน้อย เพชรสุภานันท์ 100.0 ปอนด์ ตามพิกัด แก้วฟ้าน้อย ศิษย์อาจารย์เก่ง 100.0 ปอนด์ ตามพิกัด มวยพิกัดเล็ก ฝีมือจัดจ้าน
4 หนึ่งล้านเล็ก ป.ไทยสงค์ 100.0 ปอนด์ ลด 0.2 ปอนด์ เพชรภาคภูมิ ณภัทรมวยไทย 100.0 ปอนด์ ตามพิกัด มวยคุณภาพ ศึกจิตรเมืองนนท์ ช่วงกลางรายการ
5 เพชรนรินทร์ ป.ประวิทย์ 139.0 ปอนด์ ลด 0.2 ปอนด์ เพชรสีคิ้ว ก.กัมปนาท 139.0 ปอนด์ ตามพิกัด คู่พิกัดใหญ่ 139 ปอนด์
6 แสงตะวัน ลูกเขาขวาง 109.0 ปอนด์ ตามพิกัด แสนเอก ส.ราชภูมิ 109.0 ปอนด์ ตามพิกัด มวยสมดุล ทั้งสองตามพิกัด
7 ตี๋ใหญ่ ศิษย์บุญมี 108.0 ปอนด์ ลด 0.2 ปอนด์ มนตรีเล็ก เพชรสุภานันท์ 108.0 ปอนด์ ตามพิกัด ค่ายเพชรสุภานันท์มี 2 นักมวยในบัตร
8 เนรัญนิด พีบุญหลาย 115.0 ปอนด์ ลด 1.8 ปอนด์ นกหวีด ลูกถ้ำเสือ 115.0 ปอนด์ ตามพิกัด คู่พิกัดกลาง เน้นความเร็วดุดัน
9 พยัคฆ์เล็ก ส.สกาวรัตน์ 100.0 ปอนด์ ลด 1.0 ปอนด์ แสนเก่ง ส.พลายแก้ว 100.0 ปอนด์ ตามพิกัด คู่ปิดท้ายศึกจิตรเมืองนนท์

จากตารางการแข่งขันจะเห็นได้ว่า ศึกจิตรเมืองนนท์ ครั้งนี้มีการจัดคู่มวยอย่างหลากหลาย ทั้งมวยเด็กพิกัดกิโลกรัมในคู่ที่ 1 และ 2 ต่อเนื่องด้วยมวยอาชีพพิกัดปอนด์หลายระดับที่เรียงลำดับตั้งแต่ 100 ไปจนถึง 139 ปอนด์ ช่วยสร้างจังหวะการรับชมที่ไล่ระดับความเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะเดียวกันข้อมูลเรื่องผลการชั่งน้ำหนักในศึกจิตรเมืองนนท์ ก็สะท้อนให้เห็นความพร้อมของนักมวยแต่ละคน และเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องนำมาพิจารณาในการวิเคราะห์รูปมวยทุกคู่

วิเคราะห์คู่มวย ศึกจิตรเมืองนนท์ 22 พฤศจิกายน 2568

การวิเคราะห์คู่มวยในศึกจิตรเมืองนนท์ เป็นส่วนที่ช่วยเพิ่มอรรถรสให้กับการรับชมอย่างมาก เพราะไม่ใช่แค่รู้ว่ามีใครชกกับใครเท่านั้น แต่ยังเป็นการมองลึกถึงพิกัด แรงปลาย สภาพร่างกายหลังชั่ง น้ำหนักที่ต้องลดหรือการชั่งตามพิกัด และสไตล์การชกของนักมวยแต่ละคน เมื่อข้อมูลเหล่านี้ถูกร้อยเรียงเข้ากับประสบการณ์การชมมวยของแฟน ๆ ก็ยิ่งทำให้ศึกจิตรเมืองนนท์ เป็นรายการที่ทั้งดูสนุกและวิเคราะห์เกมได้อย่างเพลิดเพลินไปพร้อมกัน

คู่ที่ 1 กัปตัน ศิษย์มวยทูเดย์ vs ทองพะเนียด บอสชายมีตังค์เจมส์ (พิกัด 23 กก.)

คู่เปิดหัวของศึกจิตรเมืองนนท์ เป็นการพบกันของมวยเด็กพิกัด 23 กิโลกรัม ระหว่าง กัปตัน ศิษย์มวยทูเดย์ และ ทองพะเนียด บอสชายมีตังค์เจมส์ทั้งสองชั่งได้ตามพิกัดเป๊ะ แสดงถึงการเตรียมตัวที่ดีของทั้งนักมวยและทีมงานค่ายมวย การแข่งขันในพิกัดเด็กแบบนี้มักเต็มไปด้วยความสด ความกล้า และความตั้งใจมากเป็นพิเศษ เพราะศึกจิตรเมืองนนท์ ถือเป็นเวทีสำคัญที่ช่วยปลูกปั้นประสบการณ์ให้กับเยาวชนที่อยากเดินเส้นทางมวยไทยอย่างจริงจังตั้งแต่ยังเล็ก

ในแง่รูปเกม คู่มวยเด็กมักจะมีการเดินเข้าหากันอย่างไม่กลัวเจ็บ ออกอาวุธแบบรวดเร็วและต่อเนื่อง แม้อาวุธจะไม่หนักหน่วงเท่ามวยรุ่นใหญ่แต่ก็มักสร้างความสนุกให้ผู้ชมได้อย่างดี กัปตันอาจมีจุดเด่นเรื่องความขยันออกแข้งและหมัด ขณะที่ทองพะเนียดอาจเน้นลูกเตะและการเดินกดดัน ซึ่งในศึกจิตรเมืองนนท์ ไฟต์นี้จะเป็นเวทีให้ทั้งสองคนได้เรียนรู้การต่อสู้ท่ามกลางสายตาแฟนมวยจำนวนมาก ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ประสบการณ์ครั้งนี้ย่อมเป็นก้าวสำคัญของเส้นทางมวยเด็กทั้งสองคนอย่างแน่นอน

คู่ที่ 2 ยอดกุมาร ป.ไทยสงค์ vs เด่นมุสลิม ศักดืวารุณ (พิกัด 34 กก.)

คู่ที่สองยังคงเป็นมวยเยาวชนแต่ขยับขึ้นมาในพิกัด 34 กิโลกรัม โดยเป็นการพบกันระหว่าง ยอดกุมาร ป.ไทยสงค์ และ เด่นมุสลิม ศักดืวารุณ ทั้งสองชั่งได้ตามพิกัดเช่นกัน ทำให้ปัจจัยด้านน้ำหนักไม่ใช่อุปสรรคในการปล่อยของบนเวทีศึกจิตรเมืองนนท์ ครั้งนี้ มวยเยาวชนในพิกัดนี้เริ่มมีความชัดเจนในสไตล์การชกมากขึ้น ทั้งเชิงมวย การออกอาวุธ และการยืนระยะที่ดีขึ้นกว่าในรุ่นมวยเด็ก ทำให้เกมการชกมีความจริงจังและเข้มข้นมากขึ้นตามวัยของนักมวย

ยอดกุมารจากค่าย ป.ไทยสงค์ มีโอกาสเป็นมวยที่ถูกวางให้เดินหน้าเพื่อเก็บประสบการณ์บนสังเวียนใหญ่ ขณะที่เด่นมุสลิม ศักดืวารุณ อาจโดดเด่นด้านความแข็งแรงและความกล้าเข้าปะทะ โดยในศึกจิตรเมืองนนท์ ไฟต์นี้ ปัจจัยสำคัญคือใครจะสามารถรักษาความนิ่งและฟังเสียงครูมุมได้ดีกว่ากัน หากใครหลุดสมาธิหรือปล่อยให้ความกดดันจากเวทีใหญ่ครอบงำมากเกินไป ก็อาจส่งผลให้รูปเกมเปลี่ยนไปได้ในพริบตา แม้จะเป็นมวยเยาวชนแต่ไฟต์นี้ก็มีความดุเดือดที่ไม่ควรมองข้าม

คู่ที่ 3 มนตรีน้อย เพชรสุภานันท์ vs แก้วฟ้าน้อย ศิษย์อาจารย์เก่ง (พิกัด 100 ปอนด์)

เข้าสู่คู่ที่สามของศึกจิตรเมืองนนท์ ซึ่งเป็นมวยอาชีพพิกัด 100 ปอนด์ ระหว่าง มนตรีน้อย เพชรสุภานันท์ และ แก้วฟ้าน้อย ศิษย์อาจารย์เก่ง ทั้งคู่ชั่งได้ตามพิกัดอย่างเรียบร้อย แสดงถึงการเตรียมร่างกายที่ลงตัวและไม่ต้องเค้นน้ำหนักจนเกินไป ทำให้แฟนมวยคาดหวังได้ว่าจะได้เห็นเกมการชกที่เต็มไปด้วยพลังและความคล่องตัว มวยพิกัดเล็กแบบนี้มักเน้นความเร็วจังหวะ การโยกหลบ และการออกอาวุธเป็นชุด ซึ่งเหมาะกับแฟนมวยที่ชอบเกมเร็วและไม่เน้นการยืนประจันหนัก ๆ มากนัก

มนตรีน้อยจากค่ายเพชรสุภานันท์ มีชื่อเสียงว่ามักเป็นมวยที่ขยันและมีหัวจิตหัวใจสู้เต็มร้อย ขณะที่แก้วฟ้าน้อย ศิษย์อาจารย์เก่ง มีพื้นฐานเชิงมวยดีตามแบบฉบับมวยค่ายครูบาอาจารย์ ในศึกจิตรเมืองนนท์ ไฟต์นี้จึงมีโอกาสได้เห็นการปะทะระหว่างความขยันเดินและการเล่นเชิงที่แพรวพราว หากมนตรีน้อยสามารถกดดันไม่ให้แก้วฟ้าน้อยเล่นเชิงได้ถนัดก็น่าลุ้นว่าจะทำคะแนนสะสมได้ดี แต่หากแก้วฟ้าน้อยใช้ลูกถีบและจังหวะโต้กลับได้แม่นยำ เกมก็อาจพลิกในสายตากรรมการได้เช่นกัน

คู่ที่ 4 หนึ่งล้านเล็ก ป.ไทยสงค์ vs เพชรภาคภูมิ ณภัทรมวยไทย (พิกัด 100 ปอนด์)

คู่ที่สี่ในศึกจิตรเมืองนนท์ ยังคงเป็นพิกัด 100 ปอนด์ แต่เพิ่มความน่าสนใจด้วยการที่ หนึ่งล้านเล็ก ป.ไทยสงค์ ต้องลดน้ำหนัก 0.2 ปอนด์ ขณะที่ เพชรภาคภูมิ ณภัทรมวยไทย ชั่งได้ตามพิกัด แม้ตัวเลข 0.2 ปอนด์จะดูไม่มาก แต่นั่นก็สะท้อนว่าหนึ่งล้านเล็กมีการกดน้ำหนักลงเล็กน้อยในช่วงก่อนชั่ง ซึ่งอาจมีผลต่อความสดของร่างกายในช่วงปลายยกเล็กน้อย ด้านเพชรภาคภูมิที่ชั่งตามพิกัดอย่างสบายตัวอาจมีความมั่นใจในเรื่องแรงปลายมากกว่าเมื่อเกมถูกลากยาวในศึกจิตรเมืองนนท์ ไฟต์นี้

หนึ่งล้านเล็กจากค่าย ป.ไทยสงค์ มักถูกมองว่าเป็นมวยที่ครบเครื่อง มีทั้งแข้ง หมัด และวงในที่แข็งแรง ส่วนเพชรภาคภูมิ ณภัทรมวยไทย นั้นมีชื่อเสียงด้านความเหนียวแน่นและการออกอาวุธที่รัดกุม หากหนึ่งล้านเล็กเลือกเดินบี้ตั้งแต่ต้นยกเพื่อเก็บคะแนนและหวังให้เพชรภาคภูมิต้องถอย รับอาวุธ ก็อาจทำให้เกมเข้าทาง แต่ถ้าเพชรภาคภูมิสามารถใช้ความนิ่งและจังหวะหักเหลี่ยมได้ดี ศึกจิตรเมืองนนท์ คู่นี้ก็มีโอกาสลงเอยด้วยคะแนนแบบสูสีจนต้องลุ้นถึงเสียงระฆังสุดท้าย

คู่ที่ 5 เพชรนรินทร์ ป.ประวิทย์ vs เพชรสีคิ้ว ก.กัมปนาท (พิกัด 139 ปอนด์)

คู่ที่ห้าถือเป็นหนึ่งในคู่พิกัดใหญ่ของศึกจิตรเมืองนนท์ ด้วยพิกัด 139 ปอนด์ระหว่าง เพชรนรินทร์ ป.ประวิทย์ และ เพชรสีคิ้ว ก.กัมปนาท เพชรนรินทร์ต้องลดน้ำหนัก 0.2 ปอนด์ ขณะที่เพชรสีคิ้วชั่งได้ตามพิกัด จึงมีเรื่องความสดและการฟื้นตัวหลังลดน้ำหนักเล็กน้อยที่ต้องจับตา มวยพิกัดใหญ่เช่นนี้มักเน้นแรงปะทะและพละกำลังเป็นหลัก ทำให้ทุกจังหวะหมัดเข่าและแข้งมีโอกาสเปลี่ยนเกมได้ตลอดเวลาในศึกจิตรเมืองนนท์ ไฟต์นี้

เพชรนรินทร์ ป.ประวิทย์ เป็นมวยที่ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแรงและลูกบู๊เดินชน หากอยู่ในสภาพร่างกายที่สมบูรณ์ก็ถือว่าน่ากลัวในช่วงกลางถึงปลายยก ส่วนเพชรสีคิ้ว ก.กัมปนาท มักมีจุดเด่นเรื่องการออกอาวุธที่หนักและแม่นยำ รวมถึงลูกศอกและเข่าที่ใช้เปลี่ยนจังหวะเกมได้ดี ในศึกจิตรเมืองนนท์ คู่นี้จึงมีแนวโน้มเป็นไฟต์ที่แฟนมวยต้องลุ้นทุกยก เพราะหากใครพลาดโดนอาวุธหนัก ๆ เพียงครั้งเดียวก็อาจทำให้รูปมวยเปลี่ยนไปแบบสิ้นเชิงในเวลาไม่กี่วินาที

คู่ที่ 6 แสงตะวัน ลูกเขาขวาง vs แสนเอก ส.ราชภูมิ (พิกัด 109 ปอนด์)

คู่ที่หกในศึกจิตรเมืองนนท์ เป็นการพบกันของ แสงตะวัน ลูกเขาขวาง และ แสนเอก ส.ราชภูมิ ในพิกัด 109 ปอนด์ โดยทั้งคู่ชั่งได้ตามพิกัดอย่างสมบูรณ์ ทำให้ไม่มีฝ่ายใดต้องเผชิญการลดน้ำหนักจนตึงตัวมากเกินไป ปัจจัยสำคัญของไฟต์นี้จึงอยู่ที่แผนการฝึกซ้อมและการวางเกมของค่ายมวยแต่ละฝ่ายเป็นหลักมวยพิกัด 109 ปอนด์มักผสมผสานทั้งความเร็วและพละกำลัง ทำให้เกมการชกดูสนุกและมีลูกเล่นหลากหลายบนเวทีศึกจิตรเมืองนนท์

แสงตะวัน ลูกเขาขวาง อาจมีจุดเด่นในเรื่องลูกเตะและการเดินประกบคู่ต่อสู้ ขณะที่แสนเอก ส.ราชภูมิ อาจเน้นเชิงมวยและการออกอาวุธฉลาด ๆ ตามสไตล์มวยค่ายดังสายภาคใต้ ในไฟต์นี้แฟนมวยควรจับตาดูว่าใครจะสามารถกำหนดรูปเกมได้ก่อนระหว่างการเดินแล้วออกของของแสงตะวันกับการรอจังหวะโต้ของแสนเอก เพราะในการแข่งขันศึกจิตรเมืองนนท์ ที่คู่มวยสูสีแบบนี้ มักตัดสินกันที่ความนิ่งและการอ่านจังหวะเพียงเสี้ยววินาที

คู่ที่ 7 ตี๋ใหญ่ ศิษย์บุญมี vs มนตรีเล็ก เพชรสุภานันท์ (พิกัด 108 ปอนด์)

คู่ที่เจ็ดคือการปะทะกันในพิกัด 108 ปอนด์ระหว่าง ตี๋ใหญ่ ศิษย์บุญมี ที่ต้องลดน้ำหนัก 0.2 ปอนด์ และ มนตรีเล็ก เพชรสุภานันท์ ที่ชั่งได้ตามพิกัด แม้การลดเพียงเล็กน้อยจะไม่โหดเท่าคู่พิกัดกลางหรือใหญ่ แต่ก็เป็นอีกตัวแปรหนึ่งที่อาจส่งผลต่อความสดในช่วงปลายยกหากเกมถูกลากยาว ความน่าสนใจอีกประการคือค่ายเพชรสุภานันท์มีนักมวยขึ้นชกถึงสองคนในศึกจิตรเมืองนนท์ รายการนี้ ทั้งมนตรีน้อยในคู่ที่สามและมนตรีเล็กในคู่นี้ จึงเป็นการลุ้นผลงานของค่ายไปพร้อมกัน

ตี๋ใหญ่ ศิษย์บุญมี มักเป็นมวยที่หัวจิตหัวใจสู้และพร้อมเดินเข้าใส่เพื่อสร้างความกดดัน ส่วนมนตรีเล็ก เพชรสุภานันท์ อาจมีความรัดกุมด้านเชิงมวยมากกว่า ในไฟต์นี้ของศึกจิตรเมืองนนท์ หากตี๋ใหญ่เดินบี้แบบไม่เกรงใจและสามารถจับจังหวะออกหมัดเข่าได้อย่างต่อเนื่อง ก็มีลุ้นทำให้มนตรีเล็กต้องถอยตั้งรับ แต่หากมนตรีเล็กใช้จุดแข็งด้านเชิงมวยและการเคลื่อนไหวหลบหลีกได้ดี ก็มีโอกาสเก็บคะแนนแบบเนียน ๆ และพลิกความกดดันกลับไปยังมุมแดงได้เช่นกัน

คู่ที่ 8 เนรัญนิด พีบุญหลาย vs นกหวีด ลูกถ้ำเสือ (พิกัด 115 ปอนด์)

คู่ที่แปดถือเป็นหนึ่งในคู่ที่ต้องจับตามองในศึกจิตรเมืองนนท์ เนื่องจาก เนรัญนิด พีบุญหลาย ต้องลดน้ำหนักถึง 1.8 ปอนด์ ในพิกัด 115 ปอนด์ ขณะที่ นกหวีด ลูกถ้ำเสือ ชั่งได้ตามพิกัดอย่างสบายตัว การเค้นน้ำหนักในระดับเกือบสองปอนด์ย่อมส่งผลต่อการฟื้นตัวและความสดของร่างกายอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะเมื่อต้องยืนระยะหลายยกในไฟต์ที่ใช้แรงปะทะสูง เรื่องนี้ทำให้แฟนมวยจำนวนมากจับตาดูว่าระหว่างความได้เปรียบด้านพละกำลังสด ๆ ของนกหวีด กับความตั้งใจพิสูจน์ตัวเองของเนรัญนิด ใครจะเป็นฝ่ายทำได้ดีกว่ากัน

เนรัญนิด พีบุญหลาย อาจต้องอาศัยความชำนาญและเชิงมวยเข้าช่วย ลดการปะทะที่ไม่จำเป็นและเน้นการออกอาวุธแบบมีประสิทธิภาพที่สุดเพื่อลดการใช้พลังงาน ขณะที่นกหวีด ลูกถ้ำเสือ หากรู้ว่าตัวเองสดกว่าเพราะชั่งได้ตามพิกัด ก็น่าจะเลือกวิธีเดินเกมเร็ว กดดันให้เนรัญนิดต้องถอยและออกอาวุธโต้กลับในจังหวะที่ไม่ถนัด ในบริบทของศึกจิตรเมืองนนท์ ไฟต์นี้จึงมีโอกาสเป็นตัวขโมยซีนของรายการ หากรูปเกมออกมาสูสีและมีการพลิกไปมาระหว่างความเหนียวของฝ่ายลดน้ำหนักกับความสดของฝ่ายตามพิกัด

คู่ที่ 9 พยัคฆ์เล็ก ส.สกาวรัตน์ vs แสนเก่ง ส.พลายแก้ว (พิกัด 100 ปอนด์)

คู่ที่เก้าคือคู่ปิดท้ายศึกจิตรเมืองนนท์ ในพิกัด 100 ปอนด์ระหว่าง พยัคฆ์เล็ก ส.สกาวรัตน์ ซึ่งต้องลดน้ำหนัก 1.0 ปอนด์ และ แสนเก่ง ส.พลายแก้ว ที่ชั่งได้ตามพิกัด การเป็นคู่ส่งท้ายโดยมีนักมวยที่เค้นน้ำหนักค่อนข้างมากหนึ่งคนกับอีกคนที่สบายตัวตามพิกัดทำให้ไฟต์นี้เต็มไปด้วยคำถามเชิงแท็กติก
ว่าแสนเก่งจะใช้ข้อได้เปรียบด้านแรงปลายกดดันอย่างไร และพยัคฆ์เล็กจะสามารถใช้จุดเด่นด้านสไตล์การชกมาชดเชยการลดน้ำหนักที่หนักหน่วงในศึกจิตรเมืองนนท์ ได้มากน้อยเพียงใด

พยัคฆ์เล็กอาจเป็นมวยที่เดินบู๊และพยายามปิดเกมให้ไว เพื่อไม่ให้ร่างกายต้องยืนระยะจนแสดงอาการล้า ขณะที่แสนเก่งอาจเลือกวิธีเล่นเกมยาว เน้นความแน่นอนของอาวุธและรอให้คู่ต่อสู้เสียเปรียบด้านความอึดในช่วงท้าย จุดเด่นของศึกจิตรเมืองนนท์ คือคู่ปิดท้ายมักถูกวางไว้ให้เป็นไฟต์ดุเดือดและสร้างความประทับใจส่งท้ายให้แฟนมวย ดังนั้นไฟต์ระหว่างพยัคฆ์เล็กและแสนเก่งจึงน่าจะเป็นอีกคู่ที่ทำให้ผู้ชมต้องลุ้นกันแบบหยดสุดท้าย

เจาะลึกผลชั่งน้ำหนักและผลต่อเกม ศึกจิตรเมืองนนท์

เมื่อมองภาพรวมของผลการชั่งน้ำหนักในศึกจิตรเมืองนนท์ ครั้งนี้ จะเห็นว่ามีนักมวยหลายคนที่ต้องลดน้ำหนักก่อนชั่ง อาทิ หนึ่งล้านเล็ก เพชรนรินทร์ ตี๋ใหญ่ เนรัญนิด และพยัคฆ์เล็ก ซึ่งแต่ละรายมีระดับการลดน้ำหนักตั้งแต่ 0.2 ปอนด์ไปจนถึง 1.8 ปอนด์ ขณะที่นักมวยอีกหลายคนสามารถชั่งได้ตามพิกัดอย่างสบายตัว สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงตัวเลขบนกระดาษ แต่ยังบ่งบอกถึงวิธีเตรียมร่างกาย ความเข้มข้นของการคุมน้ำหนัก และความสามารถในการฟื้นตัวก่อนขึ้นเวทีในศึกจิตรเมืองนนท์ อย่างชัดเจน

โดยทั่วไปแล้ว นักมวยที่ต้องลดน้ำหนักมากมักเสี่ยงต่ออาการแห้งน้ำและความล้าของกล้ามเนื้อ หากการฟื้นฟูหลังชั่งไม่ดีพอ อาจเห็นผลชัดเจนในช่วงยกสี่หรือห้าที่แรงเริ่มตก ส่วนผู้ที่ชั่งได้ตามพิกัดมักมีความมั่นใจเรื่องแรงปลายมากกว่า และกล้าเลือกใช้แผนเกมแบบลากยาวเพื่อให้คู่ต่อสู้ที่ลดน้ำหนักมากกว่าเกิดอาการล้า ในศึกจิตรเมืองนนท์ ครั้งนี้ จึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับแฟนมวยสายวิเคราะห์ที่จะใช้ข้อมูลผลชั่งน้ำหนักมาเป็นส่วนหนึ่งในการประเมินแนวโน้มของรูปมวยแต่ละคู่ ไม่ใช่มองแค่ชื่อชั้นหรือความดังของนักมวยเพียงอย่างเดียว

แนะนำค่ายมวยและสังกัดของนักมวยในศึกจิตรเมืองนนท์

อีกมิติหนึ่งที่ทำให้ศึกจิตรเมืองนนท์ น่าสนใจ คือการที่รายการนี้รวบรวมค่ายมวยหลากหลายสังกัดมาร่วมสร้างสีสันให้เวทีเดียวกัน เราจะเห็นชื่อค่ายอย่าง ป.ไทยสงค์ เพชรสุภานันท์ ณภัทรมวยไทย ป.ประวิทย์ ก.กัมปนาท ส.ราชภูมิ ส.พลายแก้ว พีบุญหลาย ลูกถ้ำเสือ รวมถึงค่ายที่มีความเป็นเอกลักษณ์อย่าง ศิษย์มวยทูเดย์ บอสชายมีตังค์เจมส์ และ ศักดืวารุณ ค่ายเหล่านี้ล้วนทำงานเบื้องหลังอย่างหนัก ทั้งด้านการซ้อม การคุมอาหาร และการวางแผน ก่อนจะส่งนักมวยขึ้นชกบนเวทีศึกจิตรเมืองนนท์ ให้แฟนมวยได้รับชมกันอย่างเต็มอิ่ม

ศิษย์มวยทูเดย์ และบอสชายมีตังค์เจมส์ สายปั้นมวยเด็ก

กัปตัน ศิษย์มวยทูเดย์ และ ทองพะเนียด บอสชายมีตังค์เจมส์ ในคู่แรกของศึกจิตรเมืองนนท์ แสดงให้เห็นว่าค่ายมวยและผู้สนับสนุนจากท้องถิ่นมีบทบาทสำคัญในการผลักดันมวยเด็กขึ้นเวทีใหญ่ ค่ายลักษณะนี้มักทุ่มเทให้กับการปลูกฝังพื้นฐานมวยไทยที่ดี ทั้งเรื่องวินัย ความอดทน และการให้เกียรติคู่ต่อสู้ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของศิลปะแม่ไม้มวยไทย การได้ขึ้นเวทีในรายการคุณภาพอย่างศึกจิตรเมืองนนท์ ตั้งแต่วัยเด็กจึงเป็นประสบการณ์ล้ำค่าทั้งต่อเจ้าตัวนักมวยและค่ายต้นสังกัด ที่ได้เห็นผลของการฝึกฝนชัดเจนบนสังเวียนจริง

ป.ไทยสงค์ และ ศักดืวารุณ ค่ายสายเยาวชนและมวยพิกัดเล็ก

ในศึกจิตรเมืองนนท์ รอบนี้ ค่าย ป.ไทยสงค์ ส่งทั้ง ยอดกุมาร ในพิกัด 34 กิโลกรัม และ หนึ่งล้านเล็ก ในพิกัด 100 ปอนด์ ขึ้นชก ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าค่ายมีการวางโครงสร้างการสร้างมวยตั้งแต่ระดับเยาวชนไปจนถึงระดับอาชีพ ขณะที่ค่าย ศักดืวารุณ ที่ส่ง เด่นมุสลิม ลงชกในพิกัด 34 กิโลกรัม ก็มีจุดเด่นในการปลุกปั้นมวยเยาวชนสายมุสลิมและมวยท้องถิ่น เมื่อทั้งสองค่ายมาปะทะกันในศึกจิตรเมืองนนท์ จึงกลายเป็นการวัดมาตรฐานการฝึกสอนเยาวชนจากสองสายสร้างที่มีแนวทางแตกต่างกันอย่างน่าสนใจ

เพชรสุภานันท์ และ ศิษย์อาจารย์เก่ง กับสายมวย 100 ปอนด์

ค่ายเพชรสุภานันท์มีนักมวยขึ้นเวทีศึกจิตรเมืองนนท์ ครั้งนี้ถึงสองคน ได้แก่ มนตรีน้อย ในคู่ที่สาม และ มนตรีเล็ก ในคู่ที่เจ็ด สิ่งนี้สะท้อนถึงความแข็งแรงของค่ายที่มีฐานนักมวยในพิกัดเล็กและกลางอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ แก้วฟ้าน้อย ศิษย์อาจารย์เก่ง ก็เป็นตัวแทนค่ายสายครูบาอาจารย์ที่เน้นการปลูกฝังเชิงมวยและระเบียบวินัยเป็นสำคัญ การที่นักมวยจากสองค่ายนี้ได้มาวัดกันในพิกัด 100 ปอนด์บนเวทีศึกจิตรเมืองนนท์ จึงทำให้แฟนมวยได้เห็นการปะทะกันของสไตล์ฝีมือที่แตกต่างแต่มีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง

ณภัทรมวยไทย ป.ประวิทย์ ก.กัมปนาท ส.ราชภูมิ ส.พลายแก้ว พีบุญหลาย และ ลูกถ้ำเสือ

นอกจากนี้ ยังมีค่าย ณภัทรมวยไทย ที่ส่งเพชรภาคภูมิขึ้นชก ค่าย ป.ประวิทย์ ของเพชรนรินทร์ ค่าย ก.กัมปนาท ตัวแทนโดยเพชรสีคิ้ว ค่าย ส.ราชภูมิ ที่มีแสนเอกลงสนาม ค่าย ส.พลายแก้ว ของแสนเก่ง รวมถึง พีบุญหลาย ของเนรัญนิด และ ลูกถ้ำเสือ ของนกหวีด ที่ต่างก็มีมุมมองการสร้างมวยเฉพาะตัว เมื่อทั้งหมดมาร่วมกันโชว์ฝีมือในศึกจิตรเมืองนนท์ จึงยิ่งเพิ่มความหลากหลายของสไตล์การชกให้กับรายการ ไม่ว่าจะเป็นมวยบู๊เดินชน มวยเข่าล้วน หรือมวยฝีมือคม ๆ แฟนมวยก็ได้ชมอย่างครบถ้วนในเวทีเดียว

ข้อมูลสำคัญสำหรับแฟนมวยที่ต้องการติดตามศึกจิตรเมืองนนท์

สำหรับแฟนมวยที่ต้องการเดินทางไปชมศึกจิตรเมืองนนท์ ถึงเวทีมวยจิตรเมืองนนท์ อตก.3 จังหวัดนนทบุรี ควรวางแผนการเดินทางให้ถึงเวทีล่วงหน้าเล็กน้อยก่อนเวลาเริ่มชก 16.30 น. เพื่อให้มีเวลาจัดการเรื่องบัตร ที่นั่ง และการเตรียมตัวต่าง ๆ ให้เรียบร้อย บริเวณ อตก.3 มักมีผู้คนคึกคักในช่วงเย็น ดังนั้นการเผื่อเวลาเรื่องการจราจรและที่จอดรถจะช่วยให้ไม่พลาดคู่แรกของรายการ และยังสามารถซึมซับบรรยากาศก่อนเริ่มศึกจิตรเมืองนนท์ ได้อย่างเต็มอรรถรส

ส่วนแฟนมวยที่สะดวกติดตามศึกจิตรเมืองนนท์ จากที่บ้าน ก็สามารถใช้ข้อมูลจากบทความนี้เป็นแนวทางในการเลือกคู่ที่อยากชมเป็นพิเศษ ทั้งในแง่พิกัด คู่ที่ต้องลดน้ำหนักมาก คู่พิกัดใหญ่ หรือคู่มวยเด็กที่น่ารักน่าลุ้น การรู้รายละเอียดล่วงหน้าช่วยให้การรับชมสนุกมากขึ้น เพราะไม่ใช่เพียงการดูนักมวยแลกหมัดเข่ากันเท่านั้น แต่ยังได้ตามไปกับเรื่องราวของค่ายมวย การเตรียมตัว และความหมายของการได้ขึ้นเวทีในศึกจิตรเมืองนนท์ สำหรับนักมวยแต่ละคนอีกด้วย

สรุปไฮไลต์ศึกจิตรเมืองนนท์ 22 พฤศจิกายน 2568

เมื่อสรุปภาพรวมทั้งหมด ศึกจิตรเมืองนนท์ วันเสาร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2568 ณ เวทีมวยจิตรเมืองนนท์ อตก.3 จังหวัดนนทบุรี ถือเป็นรายการที่อัดแน่นไปด้วยความหลากหลายของคู่มวย ทั้งมวยเด็ก 23–34 กิโลกรัม และมวยอาชีพพิกัด 100–139 ปอนด์ รวมทั้งหมด 9 คู่ภายในช่วงเวลา 16.30–18.00 น. การจัดลำดับคู่มวยจากเบาไปหนัก และจากเยาวชนไปสู่อาชีพ ทำให้ศึกจิตรเมืองนนท์ รอบนี้มีจังหวะอารมณ์ที่ไต่ระดับขึ้นเรื่อย ๆ สร้างความต่อเนื่องของความสนุกแบบไม่สะดุดเลยแม้แต่น้อย

คู่ไฮไลต์ที่แฟนมวยไม่ควรมองข้าม ได้แก่ คู่ที่ 5 ระหว่างเพชรนรินทร์ ป.ประวิทย์ กับเพชรสีคิ้ว ก.กัมปนาท ในพิกัด 139 ปอนด์ที่เป็นไฟต์พลังปะทะเต็มรูปแบบ คู่ที่ 8 เนรัญนิด พีบุญหลาย กับนกหวีด ลูกถ้ำเสือ ซึ่งมีความน่าสนใจจากความต่างด้านการลดน้ำหนัก และคู่ที่ 9 พยัคฆ์เล็ก ส.สกาวรัตน์ กับแสนเก่ง ส.พลายแก้ว ที่รับหน้าที่ปิดท้ายรายการ ศึกจิตรเมืองนนท์ ครั้งนี้จึงไม่เพียงเป็นเวทีพิสูจน์ฝีมือของนักมวย แต่ยังเป็นเวทีที่สะท้อนการทำงานหนักของค่ายมวยและทีมงานทุกคนที่อยู่เบื้องหลังอีกด้วย

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับศึกจิตรเมืองนนท์ (FAQ)

ศึกจิตรเมืองนนท์ วันที่ 22 พฤศจิกายน 2568 เริ่มชกกี่โมง?

ศึกจิตรเมืองนนท์ ในวันเสาร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2568 มีกำหนดเริ่มการแข่งขันตั้งแต่เวลา 16.30 น. ไปจนถึงประมาณ 18.00 น. ภายในช่วงเวลานี้จะมีคู่มวยทั้งหมด 9 คู่สลับกันขึ้นชกอย่างต่อเนื่อง แฟนมวยที่ต้องการชมครบทุกคู่จึงควรจัดสรรเวลาให้ดี หากเดินทางไปชมที่เวทีเวทีมวยจิตรเมืองนนท์ อตก.3 ควรถึงก่อนเวลาเริ่มชกเล็กน้อยเพื่อไม่ให้พลาดคู่เปิดหัว ส่วนผู้ที่ชมจากบ้านก็ควรเตรียมตัวให้ทันช่วงเริ่มศึกจิตรเมืองนนท์ เช่นกัน

ศึกจิตรเมืองนนท์ จัดขึ้นที่ไหน?

ศึกจิตรเมืองนนท์ จัดขึ้นที่เวทีมวยจิตรเมืองนนท์ ภายในพื้นที่ อตก.3 จังหวัดนนทบุรี ซึ่งถือเป็นเวทีที่แฟนมวยหลายคนคุ้นเคยเป็นอย่างดี เนื่องจากมีการจัดศึกมวยไทยรายการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง และเป็นจุดรวมของนักมวยจากค่ายดังหลายสังกัดทั่วประเทศ การเดินทางมายังเวทีมวยจิตรเมืองนนท์ จึงไม่เพียงเพื่อรับชมการแข่งขันเท่านั้น แต่ยังเป็นการสัมผัสบรรยากาศมวยไทยแท้ ๆ ที่มีทั้งเสียงเชียร์และความเข้มข้นของเกมการชกในศึกจิตรเมืองนนท์ ทุกครั้งที่มีรายการ

ศึกจิตรเมืองนนท์ วันนี้มีกี่คู่ และมีพิกัดอะไรบ้าง?

ศึกจิตรเมืองนนท์ ในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2568 มีโปรแกรมการแข่งขันทั้งหมด 9 คู่ โดยเริ่มจากมวยเด็กพิกัด 23 กิโลกรัมและ 34 กิโลกรัมในสองคู่แรก จากนั้นขยับขึ้นเป็นมวยอาชีพพิกัด 100 ปอนด์หลายคู่ รวมถึงพิกัด 108 ปอนด์ 109 ปอนด์ 115 ปอนด์ และไฮไลต์พิกัดใหญ่ 139 ปอนด์ในคู่ที่ห้า การกระจายพิกัดในลักษณะนี้ทำให้แฟนมวยได้ชมสไตล์การชกที่หลากหลายทั้งด้านความเร็ว ความหนักหน่วง และแท็กติกที่แตกต่างกันไปในศึกจิตรเมืองนนท์ รายการเดียว

คู่ไหนในศึกจิตรเมืองนนท์ วันนี้น่าจับตามองเป็นพิเศษ?

หากพูดถึงคู่ที่น่าจับตามองในศึกจิตรเมืองนนท์ รอบนี้ หลายสายตามักโฟกัสไปที่คู่ที่ 5 ระหว่างเพชรนรินทร์ ป.ประวิทย์ กับเพชรสีคิ้ว ก.กัมปนาท ในพิกัด 139 ปอนด์ ซึ่งเป็นไฟต์พิกัดใหญ่ที่เต็มไปด้วยแรงปะทะ นอกจากนี้คู่ที่ 8 ระหว่างเนรัญนิด พีบุญหลาย ที่ต้องลดน้ำหนักถึง 1.8 ปอนด์ กับนกหวีด ลูกถ้ำเสือ ที่ชั่งตามพิกัด ก็มีประเด็นเรื่องความสดและแรงปลายให้ลุ้น รวมถึงคู่ปิดท้ายระหว่างพยัคฆ์เล็ก ส.สกาวรัตน์ กับแสนเก่ง ส.พลายแก้ว ที่มักถูกคาดหวังว่าจะมอบความมันส์ส่งท้ายศึกจิตรเมืองนนท์ ให้แฟนมวยได้อย่างสมศักดิ์ศรีเวทีดัง