ศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ ในวันอังคารที่ 25 พฤศจิกายน 2568 ถือเป็นอีกหนึ่งค่ำคืนมวยไทยที่แฟนกำปั้นทั่วประเทศไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง
เพราะเป็นการผสานพลังของสองสายจัดรายการมวยที่ขึ้นชื่อเรื่องความมันส์และการคัดคู่มวยคุณภาพมาชนกันบนเวทีเดียว
โดยศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ ครั้งนี้จัดขึ้นที่เวทีมวยนานาชาติรังสิต จังหวัดปทุมธานี เริ่มชกตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป
พร้อมเสิร์ฟความดุเดือดถึง 10 คู่เต็มรายการ ครบทั้งมวยอาชีพพิกัดปอนด์และมวยเยาวชนพิกัดกิโลกรัม ที่จะผลัดกันขึ้นมาให้แฟนมวยได้ลุ้นกันแบบยกต่อยก
ภาพรวมศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ 25 พฤศจิกายน 2568
สำหรับภาพรวมของศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ ในค่ำคืนวันอังคารนี้ ต้องบอกว่าเป็นรายการที่สะท้อนให้เห็นถึงความจริงจังของผู้จัดในการรวบรวมนักมวยจากหลากหลายค่ายทั่วประเทศมาประชันฝีมือกัน
เวทีมวยนานาชาติรังสิตถือเป็นสังเวียนสำคัญที่รองรับทั้งการถ่ายทอดสดและการจัดศึกใหญ่ระดับประเทศมาแล้วหลายครั้ง
เมื่อผนวกเข้ากับแบนด์ของศึกมวยมันส์สนั่นเมืองและสายสร้าง ภ.หลักบุญ จึงไม่น่าแปลกใจที่บัตรมวยในวันนี้เต็มไปด้วยคู่มวยที่สมดุลทั้งเชิงฝีมือและความมันส์
เปิดโอกาสให้แฟนมวยได้ชมศิลปะแม่ไม้มวยไทยในรูปแบบที่ครบทุกมิติอย่างแท้จริง
โปรแกรมของศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ ครั้งนี้ประกอบด้วย 10 คู่ เริ่มตั้งแต่มวยเยาวชนพิกัด 29 กิโลกรัม ไปจนถึงมวยเยาวชน 45 กิโลกรัม
และมวยอาชีพพิกัด 101–116 ปอนด์ ทำให้ค่ำคืนนี้มีความหลากหลายทั้งด้านสรีระ น้ำหนักตัว และสไตล์การชกที่แตกต่างกัน
แฟนมวยจะได้เห็นตั้งแต่ความรวดเร็วคล่องตัวของมวยเด็ก ไปจนถึงความหนักหน่วงของมวยปอนด์ที่ฟอร์มจัดจ้าน
ศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ จึงไม่ใช่แค่ศึกมวยธรรมดา แต่เป็นเวทีที่รวมทั้งดาวรุ่งและนักมวยชื่อคุ้นหูจากหลายค่ายมาอยู่ในค่ำคืนเดียวอย่างลงตัว
ตารางการแข่งขัน ศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ เวทีมวยนานาชาติรังสิต
ก่อนจะเข้าสู่ส่วนวิเคราะห์เจาะลึก เรามาดูภาพรวมของโปรแกรมมวยในศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ ผ่านตารางโปรแกรมที่รวบรวมรายชื่อคู่ชก พิกัดน้ำหนัก และผลการชั่งน้ำหนักกันก่อน
ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้แฟนมวยใช้ประกอบการวิเคราะห์ได้อย่างมีหลักการมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการประเมินความได้เปรียบเสียเปรียบด้านน้ำหนัก การฟื้นตัวของนักมวยหลังลดน้ำหนัก
หรือการมองภาพรวมว่าคู่ไหนน่าจะเป็นเกมเร็ว คู่ไหนมีโอกาสกลายเป็นสงครามยืดเยื้อบนสังเวียน
ตารางต่อไปนี้จึงเป็นหัวใจสำคัญของการเตรียมตัวก่อนชมศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ อย่างแท้จริง
| คู่ที่ | มุมแดง | พิกัด | ชั่งได้ | มุมน้ำเงิน | พิกัด | ชั่งได้ | หมายเหตุ |
|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 1 | เสกสรร เกียรติชูไทย | 45.0 กก. | ตามพิกัด | สิงห์น้อย ศิษย์ประไพ | 45.0 กก. | ลด 0.3 กก. | คู่เปิดหัว มวยเยาวชน 45 กก. |
| 2 | เพลิงพยัคฆ์ พยัคฆ์ภูหลวง | 116.0 ปอนด์ | ขาด 0.3 ปอนด์ | ดาวอุดรเล็ก หจก.กรุ๊ปกุ๊ปสุทธิ | 116.0 ปอนด์ | ลด 0.4 ปอนด์ | มวยปอนด์พิกัดกลาง 116 ปอนด์ |
| 3 | ยอดโพธิ์ทอง ภ.หลักบุญ | 101.0 ปอนด์ | ตามพิกัด | ฤทธิเดช ช.ชนะสิงห์ | 101.0 ปอนด์ | ตามพิกัด | คู่เด่นสาย ภ.หลักบุญ |
| 4 | ดีเซลเล็ก สิงห์เดชา | 102.0 ปอนด์ | ตามพิกัด | เพชรประกาย ศิษย์หลวงพี่น้ำฝน | 102.0 ปอนด์ | ตามพิกัด | มวยปอนด์ 102 ปอนด์ สูสี |
| 5 | ซุปเปอร์บาส ท.เทพซุนกวน | 108.0 ปอนด์ | ตามพิกัด | จ้าวพายุ ลูกเจ้าแม่ไทรทอง | 108.0 ปอนด์ | ลด 1.2 ปอนด์ | มวยร้อนพิกัด 108 ปอนด์ |
| 6 | ฉลามดำ เทวฤทธิ์มวยไทย | 29.0 กก. | ลด 0.1 กก. | ลูกรัก เอกปัตตานี | 29.0 กก. | ขาด 0.1 กก. | มวยเด็กพิกัด 29 กก. |
| 7 | เด่นเมืองลาว ยุทธการมวยไทย | 43.5 กก. | ขาด 0.1 กก. | เหลี่ยมพลอย ครูเอมวยไทยยิม | 43.5 กก. | ขาด 0.1 กก. | มวยเยาวชนพิกัด 43.5 กก. |
| 8 | ยอดริมมูล ศิษย์อ๊อดพิบูลย์ | 34.5 กก. | ขาด 0.1 กก. | เพชรธารปลิว เปิ้ลนคร | 34.5 กก. | ลด 1.1 กก. | มวยเด็กเกมเร็ว 34.5 กก. |
| 9 | ยอดโพธิ์เงิน ศิษย์อาจารย์ภิรมย์ | 36.0 กก. | ขาด 0.2 กก. | ซุปเปอร์บอย ส.สุจิมาวิทย์ | 36.0 กก. | ขาด 0.3 กก. | มวยเยาวชน 36 กก. ดุเดือดแน่นอน |
| 10 | เพชร25 ศ.พรานทะเลมวยไทยยิม | 102.0 ปอนด์ | ตามพิกัด | มรกตดำ ส.เปรมบุตร | 102.0 ปอนด์ | ลด 1.2 ปอนด์ | คู่ปิดท้ายพิกัด 102 ปอนด์ |
จากข้อมูลในตารางจะเห็นว่า ศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ รอบนี้มีทั้งคู่มวยที่ชั่งได้ตามพิกัดแบบพอดี และคู่มวยที่มีการลดน้ำหนักหรือขาดน้ำหนักเล็กน้อยแตกต่างกันไป
โดยเฉพาะคู่ที่มีการลดน้ำหนักเยอะอย่างจ้าวพายุ ลูกเจ้าแม่ไทรทอง ที่ลดถึง 1.2 ปอนด์ และมรกตดำ ส.เปรมบุตร ที่ลดเท่ากันในพิกัด 102 ปอนด์
ส่วนในฝั่งมวยเยาวชนก็มีเพชรธารปลิว เปิ้ลนคร ที่ลดถึง 1.1 กิโลกรัม ซึ่งล้วนเป็นตัวเลขที่สามารถส่งผลต่อความฟิตและแรงปลายในช่วงท้ายยกได้อย่างเห็นภาพ
การทำความเข้าใจผลชั่งน้ำหนักเหล่านี้ถือเป็นหัวใจหนึ่งของการวิเคราะห์เกมในศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ อย่างมืออาชีพ
วิเคราะห์คู่มวย ศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ 25 พฤศจิกายน 2568
การวิเคราะห์คู่มวยในศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ จะช่วยให้แฟนมวยมองเห็นแนวโน้มของเกมการชกแต่ละคู่ได้ชัดเจนขึ้น
โดยจะพิจารณาจากปัจจัยสำคัญอย่างพิกัด น้ำหนักชั่งจริง การลดหรือขาดน้ำหนัก รูปร่างสรีระ รวมถึงความน่าจะเป็นของสไตล์มวยไม่ว่าจะเป็นมวยเดินบู๊ มวยฝีมือ หรือมวยเข่าล้วน
แม้ว่ารายละเอียดเชิงลึกเรื่องฟอร์มหลังล่าสุดบางส่วนอาจต้องอ้างอิงจากข้อมูลภายนอก แต่เพียงแค่ข้อมูลพื้นฐานจากศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ ก็สามารถสร้างกรอบการวิเคราะห์ที่น่าสนใจให้แฟนมวยได้อย่างแน่นอน
คู่ที่ 1 เสกสรร เกียรติชูไทย vs สิงห์น้อย ศิษย์ประไพ (พิกัด 45 กก.)
คู่เปิดหัวของศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ เป็นมวยเยาวชนพิกัด 45 กิโลกรัมระหว่าง เสกสรร เกียรติชูไทย ในมุมแดง ที่ชั่งได้ตามพิกัดเป๊ะ
กับ สิงห์น้อย ศิษย์ประไพ ในมุมน้ำเงินที่ต้องลดน้ำหนัก 0.3 กิโลกรัม ก่อนชั่งผ่าน การชั่งได้ตามพิกัดของเสกสรรสะท้อนว่าร่างกายอยู่ในจุดที่ไม่ตึงจนเกินไป
ขณะที่สิงห์น้อยแม้จะลดน้ำหนักไม่มากแต่ก็ต้องใช้ความระวังเรื่องการฟื้นตัว โดยเฉพาะเมื่อเป็นมวยเยาวชนที่เกมการชกมักจะไหลเร็วและใช้แรงต่อเนื่องในทุกยก
เชิงมวยแล้ว เสกสรร เกียรติชูไทย น่าจะใช้พื้นฐานเชิงมวยที่ดีในการตั้งรับและโต้กลับอย่างมีวินัย หากสามารถอ่านเกมของสิงห์น้อยได้แม่นและใช้แข้งหน้าดักได้บ่อยครั้ง
โอกาสในการเก็บคะแนนแบบเรื่อย ๆ ในสายตากรรมการย่อมสูง ส่วนสิงห์น้อย ศิษย์ประไพ น่าจะมาในสไตล์มวยบู๊พอสมควร เดินเข้าหา พยายามใช้ความขยันและความแข็งแรงของร่างกายกดดันคู่ต่อสู้
ศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ คู่นี้จึงมีความน่าสนใจตรงที่เป็นไฟต์เปิดรายการที่น่าจะปลุกอารมณ์คนดูได้ตั้งแต่ยกแรก ด้วยเกมแลกหมัดแลกแข้งที่เข้มข้นแม้จะเป็นมวยเยาวชนก็ตาม
คู่ที่ 2 เพลิงพยัคฆ์ พยัคฆ์ภูหลวง vs ดาวอุดรเล็ก หจก.กรุ๊ปกุ๊ปสุทธิ (พิกัด 116 ปอนด์)
คู่ที่สองในศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ ขยับมาที่พิกัด 116 ปอนด์ระหว่าง เพลิงพยัคฆ์ พยัคฆ์ภูหลวง ที่ชั่งได้ขาด 0.3 ปอนด์ กับ ดาวอุดรเล็ก หจก.กรุ๊ปกุ๊ปสุทธิ ที่ต้องลด 0.4 ปอนด์
เพลิงพยัคฆ์มีความได้เปรียบเล็กน้อยในแง่สรีระจากการชั่งขาด น้ำหนักไม่ตึงและมีโอกาสเคลื่อนที่คล่องตัวกว่า
ส่วนดาวอุดรเล็กที่ลดน้ำหนักลงมาพอสมควรจำเป็นต้องมีทีมงานช่วยฟื้นฟูร่างกายให้ดี เพื่อให้สามารถยืนระยะครบยกได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ คู่นี้
ในเชิงสไตล์ เพลิงพยัคฆ์อาจใช้ความเร็วและจังหวะเข้าทำแบบสั้น ๆ เน้นเก็บคะแนนด้วยแข้งซ้ายจังหวะสองหรือหมัดชุดที่แม่นยำ
ขณะที่ดาวอุดรเล็กน่าจะมาพร้อมลูกบู๊เดินลุย หวังใช้แรงปะทะและการบีบพื้นที่คุมเกมไม่ให้เพลิงพยัคฆ์ได้ขยับเล่นมากนัก
ถ้าเพลิงพยัคฆ์สามารถรักษาระยะได้ดีและไม่โดนดาวอุดรเล็กล็อกเข้าในจุดที่เสียเปรียบ ศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ คู่นี้ก็มีโอกาสออกมาเป็นเกมมวยที่สวยงาม ชิงไหวชิงพริบกันอย่างสูสีในทุกยก
คู่ที่ 3 ยอดโพธิ์ทอง ภ.หลักบุญ vs ฤทธิเดช ช.ชนะสิงห์ (พิกัด 101 ปอนด์)
คู่ที่สามถือเป็นหนึ่งในคู่สำคัญที่สะท้อนชื่อ “ภ.หลักบุญ” อยู่ในศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ โดยตรง
ยอดโพธิ์ทอง ภ.หลักบุญ พบกับ ฤทธิเดช ช.ชนะสิงห์ ในพิกัด 101 ปอนด์ ทั้งสองชั่งได้ตามพิกัดเป๊ะ ๆ แสดงว่าฝั่งทีมงานคุมร่างกายกันมาดีทั้งคู่
เมื่อไม่มีฝ่ายใดได้เปรียบหรือเสียเปรียบจากการลดหรือขาดน้ำหนักอย่างเห็นได้ชัด ทำให้จุดชี้ขาดของไฟต์นี้อยู่ที่เชิงมวยและการวางแผนล้วน ๆ
ยอดโพธิ์ทอง จากสาย ภ.หลักบุญ มีโอกาสเป็นมวยที่ถูกวางบทบาทให้โชว์ฝีมืออย่างเต็มที่ในรายการนี้ เน้นจังหวะเตะ ต่อย และการเล่นเชิงวงนอกที่มีแบบแผน
ส่วนฤทธิเดช ช.ชนะสิงห์ ก็น่าจะมีการเตรียมตัวมาไม่แพ้กัน จากชื่อค่ายที่เน้นสายมวยชนะด้วยการออกอาวุธหนักแน่นและไม่ยอมถอยง่าย ๆ
ศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ คู่นี้จึงน่าจะเป็นการวัดฝีมือแบบเน้นเทคนิคและความละเอียดทางเชิงมวย โดยเฉพาะในช่วงยกสามเป็นต้นไปที่ทั้งสองฝ่ายจะเปิดหน้าแลกแล้ววัดกันให้เห็นแบบชัด ๆ ว่าใครคือของจริงในพิกัดนี้
คู่ที่ 4 ดีเซลเล็ก สิงห์เดชา vs เพชรประกาย ศิษย์หลวงพี่น้ำฝน (พิกัด 102 ปอนด์)
คู่ที่สี่ในศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ เป็นการชกในพิกัด 102 ปอนด์ระหว่าง ดีเซลเล็ก สิงห์เดชา กับ เพชรประกาย ศิษย์หลวงพี่น้ำฝน
ทั้งสองชั่งได้ตามพิกัดแบบไม่ต้องลดหรือขาด ทำให้แฟนมวยสามารถตัดประเด็นเรื่องน้ำหนักตึงหรือความสดออกไปได้พอสมควร
ในสถานการณ์เช่นนี้ สิ่งที่น่าจับตามองคือสไตล์การชกและแผนการเล่นที่ทั้งสองค่ายเตรียมมา โดยเฉพาะในเกมมวยปอนด์ระดับนี้ที่เน้นทั้งความเร็วและการออกอาวุธแบบต่อเนื่องเพื่อครองคะแนน
ดีเซลเล็ก สิงห์เดชา มีชื่อที่ชวนให้นึกถึงมวยเดินบู๊สายแรง ที่พร้อมจะเดินกดดันและปล่อยหมัดศอกแบบไม่เกรงใจคู่ต่อสู้
ส่วนเพชรประกาย ศิษย์หลวงพี่น้ำฝน อาจมีจุดเด่นที่ความแม่นยำและการเลือกจังหวะเข้าออก โดยเน้นการเก็บคะแนนด้วยอาวุธที่ชัดเจนและไม่เปิดช่องให้โดนสวนง่าย
หากดีเซลเล็กเร่งเกมมากเกินไปจนเปิดการ์ด ก็อาจกลายเป็นโอกาสทองของเพชรประกาย ในทางกลับกัน ถ้าเพชรประกายถอยเยอะเกินจนปล่อยให้ดีเซลเล็กเดินกดดันตลอด ศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ คู่นี้ก็อาจเข้าทางมุมแดงไปเต็ม ๆ
คู่ที่ 5 ซุปเปอร์บาส ท.เทพซุนกวน vs จ้าวพายุ ลูกเจ้าแม่ไทรทอง (พิกัด 108 ปอนด์)
คู่ที่ห้าในพิกัด 108 ปอนด์ เป็นอีกคู่ที่น่าจับตาในศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ เพราะมีความแตกต่างด้านน้ำหนักอย่างชัดเจน
ซุปเปอร์บาส ท.เทพซุนกวน ชั่งได้ตามพิกัด 108 ปอนด์ ขณะที่ จ้าวพายุ ลูกเจ้าแม่ไทรทอง ต้องลดน้ำหนักมากถึง 1.2 ปอนด์
ตัวเลขนี้ถือว่าไม่น้อยสำหรับมวยพิกัดดังกล่าว และอาจส่งผลต่อแรงปลายในช่วงยกท้าย ๆ หากการฟื้นฟูไม่สมบูรณ์แบบ
อย่างไรก็ตาม หากการเตรียมตัวมาดี จ้าวพายุก็ยังสามารถใช้ประสบการณ์และความดุดันของตัวเองสร้างปัญหาให้อีกฝ่ายได้เช่นกัน
ซุปเปอร์บาส ท.เทพซุนกวน อาจเลือกใช้ความสมดุลด้านสภาพร่างกายเป็นข้อได้เปรียบ พยายามเดินเกมอย่างมีระบบ ไม่เร่งไม่ช้า เน้นให้คู่ต่อสู้ที่ลดน้ำหนักเยอะเป็นฝ่ายเหนื่อยก่อน
ส่วนจ้าวพายุ ลูกเจ้าแม่ไทรทอง จากชื่อก็ชวนให้นึกถึงมวยบู๊ที่พร้อมเปิดเกมแลกตั้งแต่เสียงระฆังดัง
ในศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ คู่นี้ ถ้าจ้าวพายุสามารถใช้ช่วงต้นยกสร้างความเสียหายและเก็บคะแนนนำไว้พอสมควร ก็มีโอกาสรักษาผลได้จนจบไฟต์
แต่ถ้าปล่อยให้เกมค้างอยู่แบบสูสีจนถึงยกสี่หรือห้า ความสดของซุปเปอร์บาสอาจเป็นตัวแปรสำคัญที่เปลี่ยนผลการชกได้ในที่สุด
คู่ที่ 6 ฉลามดำ เทวฤทธิ์มวยไทย vs ลูกรัก เอกปัตตานี (พิกัด 29 กก.)
คู่ที่หกเป็นมวยเด็กพิกัด 29 กิโลกรัมระหว่าง ฉลามดำ เทวฤทธิ์มวยไทย ที่ต้องลดน้ำหนัก 0.1 กิโลกรัม และ ลูกรัก เอกปัตตานี ที่ชั่งได้ขาด 0.1 กิโลกรัม
มวยเด็กในศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ มักมีสไตล์การชกที่เต็มไปด้วยความกล้าหาญ กล้าออกอาวุธและไม่กลัวเจ็บ
แม้จะยังไม่สมบูรณ์แบบทั้งด้านแรงปะทะและเทคนิคเหมือนมวยอาชีพ แต่กลับมีเสน่ห์ตรงที่ความเป็นธรรมชาติและความพยายามจะทำให้ดีตามคำสั่งครูมุม
ทำให้ไฟต์ประเภทนี้มักได้รับเสียงเชียร์สนั่นจากคนดูในสนามเสมอ
ฉลามดำ เทวฤทธิ์มวยไทย อาจใช้ความแข็งแกร่งของพื้นฐานและวิธีการเดินเกมบุกเข้าใส่เพื่อบีบให้ลูกรัก เอกปัตตานี ต้องยืนสู้แบบแลกกันตรง ๆ
ส่วนลูกรักที่ชั่งขาดเล็กน้อยมีโอกาสใช้ความคล่องตัวและการเคลื่อนที่รอบเวทีในการเอาตัวรอดและโต้กลับในจังหวะที่ฉลามดำเดินเข้ามา
ศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ คู่นี้จึงเป็นเวทีที่ให้เด็กทั้งสองได้สะสมประสบการณ์ และให้แฟนมวยได้เห็นเมล็ดพันธุ์มวยไทยรุ่นใหม่ที่อาจเติบโตเป็นดาวเด่นในอนาคต
คู่ที่ 7 เด่นเมืองลาว ยุทธการมวยไทย vs เหลี่ยมพลอย ครูเอมวยไทยยิม (พิกัด 43.5 กก.)
คู่ที่เจ็ดในพิกัด 43.5 กิโลกรัมระหว่าง เด่นเมืองลาว ยุทธการมวยไทย กับ เหลี่ยมพลอย ครูเอมวยไทยยิม เป็นมวยเยาวชนอีกคู่หนึ่งในศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ
ทั้งสองชั่งได้ขาดเท่ากันที่ 0.1 กิโลกรัม ซึ่งหมายความว่าจุดต่างด้านน้ำหนักไม่ใช่ประเด็นหลักของไฟต์นี้
สิ่งที่น่าจับตาจึงกลายเป็นการอ่านเกมและการฟังคำสั่งจากครูมุมว่าใครจะสามารถถ่ายทอดสิ่งที่ฝึกมาจริงในค่ายสู่เวทีได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่ากัน
เด่นเมืองลาวจากยุทธการมวยไทยอาจมีสไตล์การชกที่บู๊ดุดัน ใช้การเดินเข้าหาและปล่อยอาวุธแบบไม่กลัวโดนตอบโต้
ส่วนเหลี่ยมพลอย ครูเอมวยไทยยิม จากชื่อก็บอกอยู่ในตัวว่าเน้นความ “เหลี่ยม” ความแพรวพราวทางเชิงมวยและการใช้มุมมองอ่านทางคู่ต่อสู้
ศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ คู่นี้จึงเป็นการวัดกันระหว่างความแข็งแกร่งตรง ๆ กับเชิงมวยที่อาจแพรวพราวกว่า ซึ่งเป็นสีสันที่ทำให้มวยเยาวชนดูสนุกไม่แพ้ไฟต์ของมวยอาชีพเลยทีเดียว
คู่ที่ 8 ยอดริมมูล ศิษย์อ๊อดพิบูลย์ vs เพชรธารปลิว เปิ้ลนคร (พิกัด 34.5 กก.)
คู่ที่แปดในพิกัด 34.5 กิโลกรัมเป็นการพบกันของ ยอดริมมูล ศิษย์อ๊อดพิบูลย์ ที่ชั่งได้ขาด 0.1 กิโลกรัม และ เพชรธารปลิว เปิ้ลนคร ที่ต้องลดน้ำหนักมากถึง 1.1 กิโลกรัม
ตัวเลขดังกล่าวทำให้ไฟต์นี้ในศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ มีความน่าสนใจเป็นพิเศษในแง่สภาพร่างกายของเพชรธารปลิวว่า
การลดน้ำหนักระดับนี้จะส่งผลต่อแรงและความสดของร่างกายหรือไม่ โดยเฉพาะเมื่อเป็นมวยเยาวชนที่การฟื้นตัวอาจไม่ได้มีระบบรองรับเหมือนมวยอาชีพระดับสูง
ยอดริมมูลมีข้อได้เปรียบในแง่ความสบายตัวจากการชั่งขาดเล็กน้อย อาจใช้แผนการเดินเกมแบบเน้นความต่อเนื่องและความฟิตให้เป็นประโยชน์
ขณะที่เพชรธารปลิว หากสามารถเคลียร์สภาพร่างกายหลังลดน้ำหนักได้ดี ก็ยังมีโอกาสใช้สไตล์การชกที่ดุดันและลูกหมัดลูกเตะที่หนักแน่นสร้างแรงกดดันให้อีกฝ่ายได้
ศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ คู่นี้จึงอาจกลายเป็นตัวชี้วัดว่าการคุมอาหารและลดน้ำหนักของมวยเยาวชนจากแต่ละค่ายมีความเป็นมืออาชีพมากน้อยเพียงใด
คู่ที่ 9 ยอดโพธิ์เงิน ศิษย์อาจารย์ภิรมย์ vs ซุปเปอร์บอย ส.สุจิมาวิทย์ (พิกัด 36 กก.)
คู่ที่เก้าในศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ เป็นมวยเยาวชนพิกัด 36 กิโลกรัมระหว่าง ยอดโพธิ์เงิน ศิษย์อาจารย์ภิรมย์ ที่ขาด 0.2 กิโลกรัม กับ ซุปเปอร์บอย ส.สุจิมาวิทย์ ที่ขาด 0.3 กิโลกรัม
ทั้งสองตัวไม่ตึงน้ำหนักเลยแม้แต่น้อย ทำให้คาดเดาได้ว่ารูปแบบไฟต์นี้จะเป็นเกมเร็ว วิ่งเข้าใส่กันอย่างต่อเนื่อง มีการออกอาวุธแบบสด ๆ ไหลลื่นตลอดทั้งยก
ถือเป็นอีกคู่หนึ่งที่สะท้อนให้เห็นว่าศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ ให้ความสำคัญกับการปั้นมวยเยาวชนอย่างจริงจัง
ยอดโพธิ์เงิน อาจได้เปรียบเล็กน้อยในด้านสรีระ หากมีช่วงแขนและช่วงขาที่ยาวกว่า ก็จะช่วยคุมระยะและเตะดักได้เป็นระยะ ขณะที่ซุปเปอร์บอยอาจเน้นการบุกแบบต่อเนื่อง ใช้ความขยันและการออกหมัดชุดเข้าแลกเพื่อให้คู่ต่อสู้ตั้งรับไม่ทัน
เกมในไฟต์นี้จึงน่าจะเป็นการวัดกันระหว่างมวยที่เล่นจังหวะวงนอกกับมวยที่เน้นบุกเข้าแลกในระยะประชิด ซึ่งเป็นคู่มวยที่แฟนมวยไม่ควรมองข้ามในศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ ครั้งนี้
คู่ที่ 10 เพชร25 ศ.พรานทะเลมวยไทยยิม vs มรกตดำ ส.เปรมบุตร (พิกัด 102 ปอนด์)
คู่ปิดท้ายของศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ คือไฟต์ในพิกัด 102 ปอนด์ระหว่าง เพชร25 ศ.พรานทะเลมวยไทยยิม ที่ชั่งได้ตามพิกัดพอดี กับ มรกตดำ ส.เปรมบุตร ที่ต้องลดน้ำหนักมากถึง 1.2 ปอนด์
ในมุมของสรีระ เพชร25 ได้เปรียบตรงที่ร่างกายไม่ถูกเค้นมากจนเกินไป มีแนวโน้มว่าความฟิตและแรงปลายจะมีความเสถียรมากกว่า
ขณะที่มรกตดำแม้จะมีตัวเลขการลดน้ำหนักที่ดูหนัก แต่หากมีระบบการฟื้นฟูที่ดีจากทีมงานก็มักมาพร้อมความมุ่งมั่นและความดุดันที่พร้อมแลกเพื่อเรียกความได้เปรียบเช่นกัน
เพชร25 น่าจะใช้แผนมวยฝีมือในการเก็บคะแนนทีละจุด โดยเข้าทำในจังหวะที่แน่ใจและหลบเลี่ยงการยืนระยะแลกหมัดแลกเข่ากับมรกตดำมากเกินไป
ส่วนมรกตดำอาจเลือกเดินเกมเร่งเพื่อไม่ให้เพชร25ได้ใช้ความสดเล่นเกมตามแบบแผนของตัวเอง
หากมรกตดำสามารถบีบให้ไฟต์กลายเป็นเกมปะทะหนัก ๆ ได้ตั้งแต่ต้น ศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ คู่นี้ก็มีโอกาสจบลงด้วยความมันส์แบบสมชื่อรายการ และทำให้คนดูพูดถึงคู่ปิดท้ายอย่างยาวนานแน่นอน
เจาะลึกผลชั่งน้ำหนักและผลต่อเกมในศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ
หากมองในภาพรวมของผลชั่งน้ำหนักในศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ จะพบว่ามีนักมวยจำนวนหนึ่งที่ต้องลดน้ำหนักในระดับที่ควรจับตามอง
เช่น ตำนานไทยที่ลดถึง 1.8 ปอนด์ จ้าวพายุและมรกตดำที่ต่างลด 1.2 ปอนด์ รวมถึงเพชรธารปลิวที่ลดถึง 1.1 กิโลกรัม
ตัวเลขเหล่านี้แม้ว่าจะไม่สูงในสายตามือใหม่ แต่สำหรับวงการมวยอาชีพการลดน้ำหนักระดับ 1–2 หน่วยก่อนชั่งสามารถส่งผลอย่างมากต่อความฟิต ความทนทาน และภาวะสมดุลของร่างกายภายในไฟต์เดียว
ในทางกลับกัน นักมวยที่ชั่งได้ตามพิกัดหรือขาดเล็กน้อย เช่น เสกสรร ยอดโพธิ์ทอง ดีเซลเล็ก ซุปเปอร์บาส และเพชร25 มักได้รับการมองว่ามีข้อได้เปรียบด้านความสบายตัว
เพราะไม่ต้องฝืนร่างกายให้เค้นน้ำหนักลงมามากจนเกินไป ทำให้โอกาสที่จะรักษาความเข้มของเกมได้ตลอดทั้งไฟต์มีสูงกว่า
แฟนมวยที่ติดตามศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ จึงสามารถใช้ข้อมูลการลดหรือขาดน้ำหนักเป็นหนึ่งในจิ๊กซอว์ประกอบกับข้อมูลเรื่องฟอร์มล่าสุดและสไตล์การชก
เพื่อคาดเดาแนวโน้มว่าคู่ไหนอาจพลิกล็อกจากความล้า คู่ไหนมีโอกาสเร่งเกมในช่วงท้ายได้เหนือกว่าคู่ต่อสู้
แนะนำค่ายมวยและสังกัดของนักมวยในศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ
อีกด้านหนึ่งที่ทำให้ศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ น่าสนใจคือการที่รายการนี้รวบรวมค่ายมวยจากหลายทิศทางทั้งในเมืองและต่างจังหวัด
มีทั้งค่ายใหญ่ที่แฟนมวยคุ้นชื่อดีและค่ายท้องถิ่นที่กำลังผลักดันนักมวยรุ่นใหม่ขึ้นสู่เวทีระดับประเทศ
ค่ายอย่าง ภ.หลักบุญ ศ.พรานทะเลมวยไทยยิม พยัคฆ์ภูหลวง สิงห์เดชา เปิ้ลนคร เอกปัตตานี แบงค์ทองคำใต้เพชรบุรี และ นายกเอท่าศาลา
ล้วนเป็นตัวแทนของกลุ่มคนที่มีใจรักมวยไทยและลงทุนลงแรงในการสร้างนักมวยในยุคปัจจุบันให้มีเวทีแสดงฝีมือบนศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ อย่างแท้จริง
สาย ภ.หลักบุญ และสายสร้าง “ยอดโพธิ์” สองพี่น้องบนสังเวียน
สำหรับสาย ภ.หลักบุญ นอกจากยอดโพธิ์ทองที่ขึ้นชกในพิกัด 101 ปอนด์แล้ว ยังมีนักมวยที่ใช้ชื่อตระกูล “ยอดโพธิ์” อย่างยอดโพธิ์เงิน จากศิษย์อาจารย์ภิรมย์ร่วมอยู่ในรายการด้วย
สะท้อนถึงความต่อเนื่องในการสร้างแบรนด์นักมวยภายใต้คอนเซ็ปต์เดียวกัน
การที่ศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ เปิดพื้นที่ให้มวยในสายนี้ได้โชว์ฝีมืออย่างเต็มที่ ยิ่งตอกย้ำให้เห็นว่าผู้จัดให้ความสำคัญกับการสร้างตัวตนของค่ายและตัวนักมวยไปพร้อมกัน
ทั้งในเชิงภาพลักษณ์และความสำเร็จบนเวทีจริง
สายเอกปัตตานี เปิ้ลนคร และค่ายสายใต้ที่ผลักดันมวยเยาวชน
ค่ายจากภาคใต้อย่าง เอกปัตตานี แบงค์ทองคำใต้เพชรบุรี และ นายกเอท่าศาลา ต่างก็มีบทบาทในศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ ผ่านการส่งนักมวยเยาวชนอย่าง ลูกรัก เพชรบ่วงแก้ว และคฑาเพชร ขึ้นชกในพิกัดกิโลกรัม
สะท้อนให้เห็นว่าพื้นที่ภาคใต้ยังคงเป็นแหล่งเพาะเมล็ดพันธุ์มวยไทยที่สำคัญของประเทศ
โดยมีผู้สนับสนุนในชุมชน เช่น ผู้ประกอบการท้องถิ่นหรือผู้นำองค์กร ต่างช่วยกันผลักดันให้เด็ก ๆ ได้มีเวทีสำคัญอย่างเวทีมวยนานาชาติรังสิตให้ยืนหยัดอย่างภาคภูมิใจ
สายรถสวยจ่าเจต และค่ายสายเทคนิคอย่างศิษย์ประไพ ครูเอมวยไทยยิม
สายรถสวยจ่าเจต เป็นหนึ่งในสายสร้างที่แฟนมวยยุคใหม่คุ้นชื่อกันดีจากการส่งนักมวยสไตล์บู๊พร้อมเดินชนอย่างเต็มที่
ในศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ รอบนี้ เราได้เห็นชื่อของรถถังน้อยและเอฟ18 ขึ้นมาวาดลวดลายบนสังเวียน
ขณะที่ค่ายสายเทคนิคอย่าง ศิษย์ประไพ และ ครูเอมวยไทยยิม ก็ส่งสิงห์น้อยและเหลี่ยมพลอยมาชนกับคู่ต่อสู้จากสายบู๊อย่างน่าสนใจ
ภาพรวมนี้ทำให้เห็นว่าศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ ไม่ใช่แค่การจับคู่แบบใครก็ได้มาเจอกัน แต่มีการออกแบบเชิงสไตล์เพื่อให้เกมออกมาสนุกที่สุดในสายตาคนดู
ข้อมูลสำคัญสำหรับแฟนมวยที่ต้องการติดตามศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ
แฟนมวยที่ต้องการตามดูศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ ให้ครบทุกคู่ควรวางแผนเวลาให้ดี เพราะรายการเริ่มชกตั้งแต่เวลา 18.00 น. และมีคู่มวยเยาวชนเปิดหัวตั้งแต่คู่แรก
หากตั้งใจเดินทางไปชมที่เวทีมวยนานาชาติรังสิต ควรเผื่อเวลาเดินทางในช่วงค่ำซึ่งอาจมีการจราจรหนาแน่น
การไปถึงเวทีก่อนเวลาสักเล็กน้อยจะทำให้คุณมีโอกาสเลือกมุมที่นั่งที่ถูกใจ ได้ทักทายเพื่อนแฟนมวย และไม่พลาดบรรยากาศตั้งแต่คู่แรกของศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ
สำหรับผู้ที่เลือกติดตามศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ จากหน้าจอทีวีหรือออนไลน์
การจดโปรแกรมคู่ชกและพิกัดน้ำหนักแต่ละคู่ไว้ล่วงหน้าจะช่วยให้การรับชมมีอรรถรสมากขึ้น เพราะไม่ใช่แค่ดูว่าใครชนะหรือแพ้เท่านั้น
แต่ยังได้ลุ้นตามแผนที่ตัวเองคาดการณ์ว่ามวยที่ลดเยอะจะยุบไหม มวยที่ขาดเล็กน้อยจะคล่องจนทำให้เกมพลิกหรือเปล่า
เมื่อผสมผสานข้อมูลจากตารางในบทความนี้เข้ากับการชมจริง ศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ ก็จะกลายเป็นค่ำคืนมวยไทยที่สนุกและได้สาระไปพร้อมกัน
สรุปไฮไลต์ศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ 25 พฤศจิกายน 2568
เมื่อประมวลภาพรวมทั้งหมดแล้ว ศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ ในวันอังคารที่ 25 พฤศจิกายน 2568 ณ เวทีมวยนานาชาติรังสิต
คือบัตรมวยที่ออกแบบมาอย่างใส่ใจทั้งด้านความมันส์และการพัฒนามวยเยาวชน
ตั้งแต่มวยเด็กพิกัด 29–36 กิโลกรัม ไปจนถึงมวยปอนด์พิกัด 101–116 ปอนด์ ล้วนมีจุดเด่นในตัวเอง
ไม่ว่าจะเป็นชื่อชั้นค่ายมวย รูปร่างน้ำหนัก สไตล์การชก หรือความสำคัญในมุมของสายสร้างอย่าง ภ.หลักบุญ ที่ต้องการใช้รายการนี้เป็นเวทีโชว์ศักยภาพของนักมวยในสังกัด
คู่ที่น่าจับตามองเป็นพิเศษ เช่น ยอดโพธิ์ทอง ภ.หลักบุญ vs ฤทธิเดช ช.ชนะสิงห์ ในพิกัด 101 ปอนด์
ที่เป็นเหมือนคู่เอกเชิงสัญลักษณ์ของสาย ภ.หลักบุญ, ตำนานไทย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม vs เพชรเจ้าพระยา ศิษย์กำนันเหน่ง ในพิกัด 126 ปอนด์ ที่ทั้งคู่ลดน้ำหนักพอสมควร
และคู่ของซุปเปอร์บาส vs จ้าวพายุ และเพชร25 vs มรกตดำ ที่น่าจะมีดราม่าเรื่องแรงปลายให้ลุ้นกันจนนั่งไม่ติดเก้าอี้
ทั้งหมดนี้ทำให้ศึกมวยมันส์สนั่นเมือง+ภ.หลักบุญ กลายเป็นค่ำคืนมวยไทยที่เต็มไปด้วยพลัง ความตั้งใจ และความบันเทิงอย่างแท้จริงสำหรับแฟนมวยทุกคน
