ศึกมวยไทยพันธมิตร ในวันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2568 ถือเป็นอีกหนึ่งรายการสำคัญของวงการมวยไทยที่แฟนมวยสายจริงจังจับตามองกันอย่างใกล้ชิด เพราะเป็นการรวมตัวของหลายค่ายมวยทั่วประเทศ นำเด็กสร้างและนักมวยอาชีพมาขึ้นเวทีเดียวกันที่เวทีมวยเวิล์ด สยาม สเตเดี้ยม โดยศึกมวยไทยพันธมิตร ครั้งนี้เริ่มชกตั้งแต่เวลา 18.00 น. ยาวไปจนถึงประมาณ 20.30 น. มีโปรแกรมให้ชมกันจุใจถึง 9 คู่ ครบทั้งมวยพิกัดปอนด์และมวยเยาวชนพิกัดกิโลกรัมที่น่าจับตามองในอนาคต
ภาพรวมศึกมวยไทยพันธมิตร วันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2568
สำหรับภาพรวมของศึกมวยไทยพันธมิตร ในค่ำคืนวันจันทร์นี้ บรรยากาศโดยรวมถูกวางให้เป็นรายการมวยไทยเต็มรูปแบบที่ตอบโจทย์ทั้งแฟนมวยขาประจำและคนที่เริ่มสนใจมวยไทยมากขึ้น เวทีมวยเวิล์ด สยาม สเตเดี้ยม ถือเป็นสังเวียนยุคใหม่ที่รองรับทั้งงานถ่ายทอดสดและการจัดอีเวนต์อย่างเป็นระบบ จึงเหมาะอย่างยิ่งกับการเป็นเจ้าภาพของศึกมวยไทยพันธมิตร ด้วยช่วงเวลา 18.00–20.30 น. ทำให้แฟนมวยสามารถเลิกงานแล้วเดินทางมาชมสดหรือเปิดหน้าจอติดตามรายการได้ทัน พร้อมลุ้นกันแบบคู่ต่อคู่อย่างเต็มอิ่ม
จำนวนคู่มวยในศึกมวยไทยพันธมิตร ครั้งนี้ทั้งหมด 9 คู่ ถูกจัดเรียงอย่างมีจังหวะตั้งแต่มวยพิกัดเล็ก 36.5–44 กิโลกรัมในกลุ่มมวยเยาวชน ไปจนถึงมวยอาชีพพิกัด 101–126 ปอนด์ มีทั้งนักชกจากค่ายดังในกรุงเทพฯ เช่น พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม ศิษย์ขุนทัพ รถสวยจ่าเจตสายพริ้ว และค่ายต่างจังหวัด เช่น แบงค์ทองคำใต้เพชรบุรี นายกเอท่าศาลา ธนพลรีสอร์ท ฯลฯ จึงไม่ใช่เพียงแค่ศึกธรรมดา แต่ศึกมวยไทยพันธมิตร ยังเป็นเวทีที่สะท้อนการจับมือของพันธมิตรในวงการมวยเพื่อผลักดันนักมวยรุ่นใหม่ให้มีพื้นที่แสดงฝีมือบนเวทีคุณภาพมากยิ่งขึ้น
ตารางการแข่งขัน ศึกมวยไทยพันธมิตร เวิล์ด สยาม สเตเดี้ยม
เพื่อให้แฟนมวยมองเห็นภาพได้ชัดเจนว่าศึกมวยไทยพันธมิตร คืนวันจันทร์นี้มีคู่มวยใดขึ้นชกบ้าง และในแต่ละคู่มีพิกัดน้ำหนักและผลการชั่งอย่างไร ตารางด้านล่างนี้จะสรุปข้อมูลสำคัญให้ครบถ้วนทั้งชื่อมุมน้ำเงิน มุมแดง ค่ายมวย พิกัด และสถานะการชั่ง น้ำหนักลดหรือขาดเท่าไร ข้อมูลเหล่านี้ถือเป็นพื้นฐานสำหรับการวิเคราะห์รูปมวยและแนวโน้มเกมบนเวทีของศึกมวยไทยพันธมิตร ได้อย่างเป็นระบบสำหรับแฟนมวยสายวิเคราะห์ทุกคน
| คู่ที่ | มุมแดง | พิกัด | ชั่งได้ | มุมน้ำเงิน | พิกัด | ชั่งได้ | หมายเหตุ |
|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 1 | เชอร์รี่ ต.แย้มสวน | 107.0 ปอนด์ | ลด 0.2 ปอนด์ | เขาล้านเล็ก ศิษย์ขุนทัพ | 107.0 ปอนด์ | ขาด 0.3 ปอนด์ | คู่เปิดหัว พิกัด 107 ปอนด์ |
| 2 | เหนือดวง ว.ธีระวัฒน์ | 105.0 ปอนด์ | ลด 0.2 ปอนด์ | พยัคฆ์มณี สวนจากคาเฟ่ | 105.0 ปอนด์ | ลด 0.8 ปอนด์ | มวยเล็กเกมเร็ว 105 ปอนด์ |
| 3 | แก่นคูณ ศ.สกุลเพชร | 122.0 ปอนด์ | ขาด 0.2 ปอนด์ | เอ็กซ์ตร้า สิงห์นครแว่น | 122.0 ปอนด์ | ตามพิกัด | คู่พิกัด 122 ปอนด์ สูสี |
| 4 | ตำนานไทย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม | 126.0 ปอนด์ | ลด 1.8 ปอนด์ | เพชรเจ้าพระยา ศิษย์กำนันเหน่ง | 126.0 ปอนด์ | ลด 0.6 ปอนด์ | คู่ใหญ่พิกัด 126 ปอนด์ |
| 5 | ก้องพิภพ ธนพลรีสอร์ท | 101.0 ปอนด์ | ลด 0.4 ปอนด์ | ปูลม กอล์ฟพระเครื่องหาดใหญ่ | 101.0 ปอนด์ | ตามพิกัด | มวยเล็กศึกมวยไทยพันธมิตร |
| 6 | เก้าทัพ ศิษย์ขุนทัพ | 40.0 กก. | ขาด 0.2 กก. | เกล็ดเพชร ศักดิ์อินเตอร์ | 40.0 กก. | ตามพิกัด | มวยเยาวชนพิกัด 40 กก. |
| 7 | ชาตินักรบ ว.วัฒนะ | 43.0 กก. | ลด 0.1 กก. | รถถังน้อย รถสวยจ่าเจตสายพริ้ว | 43.0 กก. | ตามพิกัด | มวยเด็กอนาคตไกล |
| 8 | เอฟ18 รถสวยจ่าเจต | 44.0 กก. | ขาด 0.2 กก. | เมืองฟ้าเล็ก พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม | 44.0 กก. | ลด 0.4 กก. | ศึกสายสร้างเยาวชน 44 กก. |
| 9 | เพชรบ่วงแก้ว แบงค์ทองคำใต้เพชรบุรี | 36.5 กก. | ตามพิกัด | คฑาเพชร นายกเอท่าศาลา | 37.5 กก. | ขาด 0.1 กก. | คู่ปิดท้ายมวยเด็กศึกพันธมิตร |
จากตารางการแข่งขันจะเห็นได้ว่าศึกมวยไทยพันธมิตร รอบนี้มีสีสันครบถ้วนทั้งมวยรุ่นเล็ก มวยพิกัดกลาง และมวยเยาวชนในน้ำหนักกิโลกรัม ผลการชั่งน้ำหนักมีทั้งนักมวยที่ต้องลดน้ำหนักเล็กน้อย เช่น ตำนานไทย พยัคฆ์มณี และก้องพิภพ รวมถึงนักมวยที่ชั่งได้ขาดเล็กน้อยอย่างเขาล้านเล็ก แก่นคูณ และเอฟ18 ประเด็นด้านน้ำหนักเหล่านี้จึงเป็นข้อมูลสำคัญที่ช่วยบอกใบ้ถึงระดับความสดของร่างกายและความได้เปรียบเสียเปรียบในเกม ซึ่งแฟนมวยที่ติดตามศึกมวยไทยพันธมิตร อย่างจริงจังไม่ควรมองข้ามอย่างยิ่ง
วิเคราะห์คู่มวย ศึกมวยไทยพันธมิตร 24 พฤศจิกายน 2568
การวิเคราะห์คู่มวยในศึกมวยไทยพันธมิตร ครั้งนี้ จะเน้นทั้งปัจจัยด้านน้ำหนัก ผลชั่ง พิกัด สไตล์การชก และภาพรวมของค่ายมวยที่อยู่เบื้องหลัง เพราะรายการที่ใช้ชื่อ “พันธมิตร” มักเป็นการร่วมมือกันของหลายฝ่ายในการจัดคู่มวยให้สนุกและสูสี ทำให้รายละเอียดเล็กน้อยอย่างการลดหรือขาดน้ำหนักมีความหมายต่อรูปเกมมากขึ้น เมื่อแฟนมวยเข้าใจบริบทเหล่านี้แล้ว การลุ้นผลมวยในศึกมวยไทยพันธมิตร ก็จะยิ่งสนุกและมีมิติยิ่งกว่าเพียงการดูผลแพ้ชนะอย่างเดียว
คู่ที่ 1 เชอร์รี่ ต.แย้มสวน vs เขาล้านเล็ก ศิษย์ขุนทัพ (พิกัด 107 ปอนด์)
คู่เปิดหัวของศึกมวยไทยพันธมิตร เป็นการพบกันของ เชอร์รี่ ต.แย้มสวน และ เขาล้านเล็ก ศิษย์ขุนทัพ ในพิกัด 107 ปอนด์เท่ากัน
เชอร์รี่ชั่งได้ลด 0.2 ปอนด์ แปลว่าเกินพิกัดเล็กน้อยแล้วเค้นน้ำหนักลงมา ส่วนเขาล้านเล็กชั่งได้ขาด 0.3 ปอนด์ ซึ่งหมายถึงตัวไม่ตึงน้ำหนักและน่าจะคล่องตัวสูง
ในภาพรวมแล้ว เกมคู่นี้ของศึกมวยไทยพันธมิตร มีแนวโน้มจะเป็นการวัดกันระหว่างความหนักแน่นจากฝ่ายลดน้ำหนักเล็กน้อยกับความเบาสบายและคล่องตัวของฝ่ายที่ชั่งขาด
เชอร์รี่ ต.แย้มสวน มีโอกาสใช้ความแข็งแกร่งและจังหวะออกอาวุธแบบเน้นศอกและเข่าบดบี้คู่ต่อสู้ หากสามารถปักหลักบังแข้งแล้วเดินบี้เข้าหาได้ต่อเนื่อง
ด้านเขาล้านเล็ก ศิษย์ขุนทัพ มักมีภาพของมวยที่ปราดเปรียว ใช้การโยกหลบและดักเตะดักต่อยได้ดี เมื่อบวกกับการชั่งขาดเล็กน้อยที่ช่วยให้ตัวเบากว่า ก็ยิ่งเพิ่มศักยภาพด้านความเร็วในศึกมวยไทยพันธมิตร คู่นี้
จุดเด่นของไฟต์นี้จึงอยู่ที่ว่าใครจะสามารถดึงสไตล์ตัวเองออกมาได้ก่อน ระหว่างความดุดันของเชอร์รี่กับความคล่องแคล่วของเขาล้านเล็ก
คู่ที่ 2 เหนือดวง ว.ธีระวัฒน์ vs พยัคฆ์มณี สวนจากคาเฟ่ (พิกัด 105 ปอนด์)
คู่ที่สองของศึกมวยไทยพันธมิตร ในพิกัด 105 ปอนด์ เป็นการดวลกันของ เหนือดวง ว.ธีระวัฒน์ ที่ลดน้ำหนัก 0.2 ปอนด์ กับ พยัคฆ์มณี สวนจากคาเฟ่ ที่ต้องลดถึง 0.8 ปอนด์
ในเชิงตัวเลข พยัคฆ์มณีถือว่าเค้นน้ำหนักมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งอาจมีผลต่อความฟิตเมื่อเข้าสู่ยกสี่และห้า หากเกมถูกลากยาว
ด้วยความที่ทั้งคู่เป็นมวยเล็กในศึกมวยไทยพันธมิตร เกมการชกจึงมีแนวโน้มว่าจะเต็มไปด้วยความเร็ว การเข้าแลกเป็นชุด และการชิงจังหวะที่รวดเร็วจนผู้ชมต้องตามให้ทัน
เหนือดวง ว.ธีระวัฒน์ น่าจะมีสไตล์มวยที่ค่อนข้างครบเครื่อง หากใช้จังหวะและสเต็ปเท้าดี ๆ ก็มีโอกาสคุมเกมและเก็บคะแนนได้อย่างต่อเนื่อง
ส่วนพยัคฆ์มณี สวนจากคาเฟ่ แม้จะลดน้ำหนักมากกว่าแต่ถ้าฟื้นตัวได้ดี ก็สามารถใช้ความดุดันและใจสู้เดินบวกเข้าหาเพื่อสร้างความลำบากให้เหนือดวงได้
ศึกมวยไทยพันธมิตร คู่นี้จึงอยู่ที่ว่าพยัคฆ์มณีจะสามารถลงทุนบุกหนักในช่วงต้นแล้วขอประคองปลาย หรือเหนือดวงจะใช้ความสดและความแน่นอนของอาวุธพลิกสถานการณ์ขึ้นนำในช่วงท้ายได้หรือไม่
คู่ที่ 3 แก่นคูณ ศ.สกุลเพชร vs เอ็กซ์ตร้า สิงห์นครแว่น (พิกัด 122 ปอนด์)
ในคู่ที่สามของศึกมวยไทยพันธมิตร แก่นคูณ ศ.สกุลเพชร พบกับ เอ็กซ์ตร้า สิงห์นครแว่น ในพิกัด 122 ปอนด์
แก่นคูณชั่งได้ขาด 0.2 ปอนด์ แปลว่าตัวเบาและอาจมีความคล่องตัวสูง ขณะที่เอ็กซ์ตร้าชั่งได้ตามพิกัดที่ 122 ปอนด์เต็ม ๆ ทำให้เขาน่าจะมีความแน่นของมวลร่างกายและแรงปะทะที่เต็มเม็ดเต็มหน่วย
พิกัดกลางอย่าง 122 ปอนด์ทำให้ทั้งคู่มีสมดุลทั้งด้านความเร็วและความหนักหน่วง ทำให้ไฟต์นี้ในศึกมวยไทยพันธมิตร มีโอกาสสูงที่จะเป็นหนึ่งในคู่สนุกที่สุดของรายการ
แก่นคูณ ศ.สกุลเพชร อาจใช้จุดเด่นด้านความคล่องและความเร็วของแข้งเป็นตัวนำเกม พยายามใช้การเข้าออกเร็วและไม่ยืนแลกนานเพื่อหลบข้อเสียเปรียบด้านมวลร่างกาย
ส่วนเอ็กซ์ตร้า สิงห์นครแว่น ที่ตัวเต็มพิกัดมีโอกาสใช้ลูกเตะหนักและเกมเข้าปะทะประชิด หากจับจังหวะล็อกคอแล้วใส่เข่าได้ต่อเนื่องก็อาจทำให้แก่นคูณเริ่มล้า
ศึกมวยไทยพันธมิตร คู่นี้จึงเป็นการวัดกันอย่างแท้จริงว่าพลังหรือความเร็วจะเป็นฝ่ายชี้ขาดชัยชนะบนเวทีในค่ำคืนนี้
คู่ที่ 4 ตำนานไทย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม vs เพชรเจ้าพระยา ศิษย์กำนันเหน่ง (พิกัด 126 ปอนด์)
คู่ที่สี่ในพิกัด 126 ปอนด์ระหว่าง ตำนานไทย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม กับ เพชรเจ้าพระยา ศิษย์กำนันเหน่ง ถือเป็นหนึ่งในคู่ไฮไลต์ของศึกมวยไทยพันธมิตร
เพราะทั้งสองมาจากค่ายชื่อดังและมีสไตล์การชกที่ถูกใจแฟนมวย โดยตำนานไทยต้องลดน้ำหนักถึง 1.8 ปอนด์ ขณะที่เพชรเจ้าพระยาลด 0.6 ปอนด์
แสดงให้เห็นว่าทั้งคู่มีการเค้นน้ำหนักก่อนชั่งพอสมควร โดยเฉพาะฝ่ายตำนานไทยที่อาจต้องใช้เวลาและพลังงานในการปรับรูปร่างมากกว่า
ตำนานไทย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม ในด้านชื่อเสียงมักถูกคาดหวังว่าจะเป็นมวยฝีมือครบเครื่อง ใช้ลูกเตะ ลูกต่อย และเกมวงในได้อย่างหลากหลาย
หากการฟื้นตัวหลังลดน้ำหนักผ่านไปได้ดี เขาก็ยังคงเป็นมวยที่น่าเกรงขาม ขณะที่เพชรเจ้าพระยา ศิษย์กำนันเหน่ง อาจเน้นสายบู๊เดินบดใส่ ใช้ลูกเกาะตีและปล้ำตีในวงในเพื่อบั่นทอนคู่ต่อสู้
ศึกมวยไทยพันธมิตร คู่นี้จึงเป็นเหมือนการวัดคุณภาพการเตรียมตัวระหว่างสองค่ายดัง และเป็นไฟต์ที่แฟนมวยจำนวนมากน่าจะตั้งตารอเป็นพิเศษ
คู่ที่ 5 ก้องพิภพ ธนพลรีสอร์ท vs ปูลม กอล์ฟพระเครื่องหาดใหญ่ (พิกัด 101 ปอนด์)
คู่ที่ห้าในพิกัด 101 ปอนด์ เป็นการชกของ ก้องพิภพ ธนพลรีสอร์ท ที่ต้องลดน้ำหนัก 0.4 ปอนด์ และ ปูลม กอล์ฟพระเครื่องหาดใหญ่ ที่ชั่งได้ตามพิกัดพอดี
ในมุมของสภาพร่างกาย ปูลมอาจมีความสบายตัวมากกว่าเพราะไม่ต้องเค้นน้ำหนักลง ขณะที่ก้องพิภพอาจรู้สึกถึงผลของการลดอยู่บ้างแต่ยังไม่ถึงขั้นหนักหนา
พิกัด 101 ปอนด์ในศึกมวยไทยพันธมิตร เป็นน้ำหนักที่สไตล์การชกจะเน้นไปที่ความเร็ว การเดินเข้าทำเป็นชุด และการเล่นคะแนนที่ต้องละเอียดและไม่พลาดง่าย
ก้องพิภพ ธนพลรีสอร์ท น่าจะต้องใช้ช่วงยกแรกและยกสองในการพิสูจน์ว่าการลดน้ำหนักไม่กระทบแรงมากเกินไป โดยอาจเลือกใช้จุดเด่นด้านอาวุธหนักหรือจังหวะบุกอย่างมั่นใจ
ส่วนปูลม กอล์ฟพระเครื่องหาดใหญ่ ที่ไม่ต้องลดน้ำหนักมากอาจเน้นความแน่นอนของจังหวะ อาศัยการอ่านเกมและรอโต้กลับในจุดที่คู่ต่อสุ้เผลอ
เมื่อทั้งสองสไตล์มาปะทะกันในศึกมวยไทยพันธมิตร คู่นี้จึงมีโอกาสเป็นเกมแลกที่สูสีจนต้องตัดสินกันที่รายละเอียดเล็ก ๆ ในสายตากรรมการ
คู่ที่ 6 เก้าทัพ ศิษย์ขุนทัพ vs เกล็ดเพชร ศักดิ์อินเตอร์ (พิกัด 40 กก.)
เข้าสู่โซนมวยเยาวชนในศึกมวยไทยพันธมิตร กับคู่ที่หกในพิกัด 40 กิโลกรัมระหว่าง เก้าทัพ ศิษย์ขุนทัพ ที่ชั่งได้ขาด 0.2 กิโลกรัม และ เกล็ดเพชร ศักดิ์อินเตอร์ ที่ชั่งตามพิกัดพอดี
มวยเด็กพิกัดนี้มักมีเอกลักษณ์เรื่องความกล้าและความรวดเร็วของเกมการชก ซึ่งแฟนมวยหลายคนชื่นชอบเพราะได้เห็นพัฒนาการจากพื้นฐานการฝึกที่ค่ายมวยต่าง ๆ วางไว้ให้เด็ก ๆ อย่างจริงจัง
ศึกมวยไทยพันธมิตร จึงไม่ได้มีแต่ความดุเดือดของมวยอาชีพเท่านั้น แต่ยังเป็นเวทีให้เยาวชนได้เรียนรู้และเก็บประสบการณ์ครั้งสำคัญบนเวทีจริง
เก้าทัพ ศิษย์ขุนทัพ อาจใช้ความเบาตัวจากการชั่งขาดเป็นข้อได้เปรียบในด้านความเร็ว ขณะที่เกล็ดเพชร ศักดิ์อินเตอร์ ที่ตัวเต็มพิกัดย่อมมีแรงปะทะในการแลกแข้งมากกว่า
เกมในคู่มวยเด็กลักษณะนี้ของศึกมวยไทยพันธมิตร มักแลกกันชนิดไม่มีใครกลัวใคร แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังอยู่ภายใต้การควบคุมของครูมวยและกรรมการอย่างใกล้ชิด
ทำให้แฟนมวยสามารถสนุกไปกับเกมบนเวที พร้อมกับเห็นก้าวแรกของนักมวยตัวจิ๋วที่อาจเติบโตไปเป็นดาวเด่นในอนาคต
คู่ที่ 7 ชาตินักรบ ว.วัฒนะ vs รถถังน้อย รถสวยจ่าเจตสายพริ้ว (พิกัด 43 กก.)
คู่ที่เจ็ดในศึกมวยไทยพันธมิตร เป็นมวยเยาวชนพิกัด 43 กิโลกรัมระหว่าง ชาตินักรบ ว.วัฒนะ ที่ต้องลด 0.1 กิโลกรัม และ รถถังน้อย รถสวยจ่าเจตสายพริ้ว ที่ชั่งตามพิกัด
ชื่อของทั้งสองคนสะท้อนสไตล์การชกที่น่าจะมีทั้งความดุดันและความพริ้วไหว โดยเฉพาะฝั่งรถถังน้อยจากสายรถสวยจ่าเจตซึ่งขึ้นชื่อด้านการปั้นมวยเดินบู๊และมวยเยาวชนที่มีหัวจิตหัวใจสู้ไม่ถอย
ในมุมของแฟนมวย ศึกมวยไทยพันธมิตร คู่นี้คือหนึ่งในไฟต์ที่ใช้ดูแนวโน้มอนาคตของมวยเด็กระดับ 40 กก. ปลาย ๆ ได้เป็นอย่างดี
ชาตินักรบ ว.วัฒนะ น่าจะนำสไตล์บู๊สนุกแบบไม่กลัวเจ็บมาใช้ในการต่อสู้ครั้งนี้ พยายามเดินเข้าหาและออกอาวุธอย่างต่อเนื่องเพื่อไม่ให้รถถังน้อยได้เล่นเกมสบาย ๆ
ด้านรถถังน้อย รถสวยจ่าเจตสายพริ้ว ก็อาจเลือกเดินเข้าหาเช่นกันแต่ใช้ความพริ้วและลูกเตะที่หลากหลายในการสร้างจังหวะได้เปรียบ
เมื่อสองสไตล์ที่พร้อมเดินเข้าหากันมาเจอกันในศึกมวยไทยพันธมิตร คู่นี้จึงมีโอกาสกลายเป็นคู่ที่ผู้ชมต้องลุกขึ้นเชียร์ตั้งแต่ยกแรกจนถึงยกสุดท้ายอย่างแน่นอน
คู่ที่ 8 เอฟ18 รถสวยจ่าเจต vs เมืองฟ้าเล็ก พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม (พิกัด 44 กก.)
คู่ที่แปดเป็นการเจอกันของสองสายสร้างเยาวชนระดับแถวหน้าของวงการในศึกมวยไทยพันธมิตร คือ เอฟ18 รถสวยจ่าเจต กับ เมืองฟ้าเล็ก พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม ในพิกัด 44 กิโลกรัม
เอฟ18ชั่งได้ขาด 0.2 กิโลกรัม ทำให้ตัวเบาและมีความคล่องตัวสูง ขณะที่เมืองฟ้าเล็กต้องลด 0.4 กิโลกรัม ซึ่งแม้ไม่เยอะมากแต่ก็สะท้อนว่ามีการควบคุมและจัดการน้ำหนักก่อนชั่งพอสมควร
ไฟต์นี้จึงเป็นเหมือนการดวลกันของสองสำนักสร้างมวยชื่อดังที่ใช้ศึกมวยไทยพันธมิตร เป็นเวทีทดสอบผลงานของระบบการฝึกซ้อมเยาวชนในค่ายของตัวเอง
เอฟ18 รถสวยจ่าเจต น่าจะมีรูปแบบการชกที่คล่องและเกมรุกที่ไม่หยุดนิ่งตามสไตล์มวยจากสายค่ายรถสวยจ่าเจตที่ชื่นชอบการปั้นมวยเดินบู๊สุดมันส์
ส่วนเมืองฟ้าเล็ก พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม น่าจะมีพื้นฐานเชิงมวยแน่นและการออกอาวุธที่เป็นระบบตามมาตรฐานค่ายระดับโลก
หากเอฟ18เร่งบุกมากเกินไป ก็อาจเปิดช่องให้เมืองฟ้าเล็กใช้เชิงมวยและจังหวะโต้พลิกเกมได้เช่นกัน ทำให้ศึกมวยไทยพันธมิตร คู่นี้มีความน่าสนใจทั้งในเชิงเทคนิคและในเชิงภาพลักษณ์ของค่ายมวย
คู่ที่ 9 เพชรบ่วงแก้ว แบงค์ทองคำใต้เพชรบุรี vs คฑาเพชร นายกเอท่าศาลา (พิกัด 36.5–37.5 กก.)
คู่สุดท้ายของศึกมวยไทยพันธมิตร เป็นมวยเด็กพิกัดเล็กในช่วง 36.5–37.5 กิโลกรัม ระหว่าง เพชรบ่วงแก้ว แบงค์ทองคำใต้เพชรบุรี ที่ชั่งได้ตามพิกัด 36.5 กิโลกรัม
กับ คฑาเพชร นายกเอท่าศาลา ที่ขึ้นพิกัด 37.5 กิโลกรัมแต่ชั่งได้ขาด 0.1 กิโลกรัม
แม้จะเป็นมวยเด็กตัวเล็กแต่ไฟต์ลักษณะนี้มักสร้างความสนุกให้แฟนมวยได้มากเกินคาด เพราะเต็มไปด้วยความตั้งใจจริงของนักชกตัวน้อยที่อยากพิสูจน์ตัวเองบนเวทีศึกมวยไทยพันธมิตร ครั้งสำคัญ
เพชรบ่วงแก้วจากสายแบงค์ทองคำใต้เพชรบุรี มีบทบาทเป็นตัวแทนของมวยเด็กจากภาคใต้ที่มักขึ้นชื่อเรื่องความใจสู้และความแข็งแกร่งตั้งแต่วัยเยาว์
ส่วนคฑาเพชร นายกเอท่าศาลา ก็เป็นตัวแทนอีกหนึ่งสายสร้างจากพื้นที่เดียวกัน ทำให้ไฟต์นี้ในศึกมวยไทยพันธมิตร มีอารมณ์คล้าย ๆ กับศึกศักดิ์ศรีของมวยเด็กสายใต้ที่ถูกดึงขึ้นมาโชว์บนเวทีระดับใหญ่
แม้ผลแพ้ชนะจะสำคัญในระดับหนึ่ง แต่สิ่งที่มีค่ามากสำหรับไฟต์นี้คือประสบการณ์และความมั่นใจที่เด็กทั้งสองจะได้รับกลับไปเพื่อใช้ต่อยอดในเส้นทางมวยไทยในอนาคต
เจาะลึกผลชั่งน้ำหนักและผลต่อเกม ศึกมวยไทยพันธมิตร
เมื่อวิเคราะห์ภาพรวมของผลการชั่งน้ำหนักในศึกมวยไทยพันธมิตร จะพบว่ามีนักมวยจำนวนไม่น้อยที่ต้องลดน้ำหนักก่อนชั่ง เช่น ตำนานไทยที่ลดถึง 1.8 ปอนด์
สิงห์ดำที่ลด 1.3 ปอนด์ และพยัคฆ์มณีที่ลด 0.8 ปอนด์ ขณะที่อีกหลายคนชั่งได้ตามพิกัดหรือขาดเล็กน้อย เช่น เอ็กซ์ตร้า ปูลม เกล็ดเพชร และเพชรบ่วงแก้ว
ในเชิงวิทยาศาสตร์การกีฬา การลดน้ำหนักแบบเร่งด่วนอาจส่งผลกระทบต่อความฟิตและความอึด หากไม่ได้รับการฟื้นฟูอย่างถูกวิธีหลังชั่งน้ำหนักแล้ว
จุดนี้จึงกลายเป็นตัวแปรสำคัญที่อาจทำให้เกมพลิกได้ในยกที่สี่หรือห้าของหลายคู่ในศึกมวยไทยพันธมิตร ครั้งนี้
ในทางกลับกัน นักมวยที่ชั่งได้ขาดเพียงเล็กน้อยหรือชั่งได้ตามพิกัดมักมีข้อได้เปรียบด้านความสบายตัวและความมั่นใจในเรื่องแรงปลาย
อย่างเช่น เอ็กซ์ตร้า สิงห์นครแว่น ปูลม กอล์ฟพระเครื่องหาดใหญ่ และอุดมเล็ก ณุ.ปราณบุรี
แฟนมวยที่ติดตามศึกมวยไทยพันธมิตร จึงควรใช้ข้อมูลผลชั่งน้ำหนักเป็นหนึ่งในองค์ประกอบของการวิเคราะห์ร่วมกับปัจจัยอื่น ๆ เช่น รูปร่าง ฟอร์มหลังล่าสุด และเชิงมวย
เพราะเมื่อคู่มวยมีความใกล้เคียงกันในด้านฝีมือแล้ว เรื่องน้ำหนักและการฟื้นตัวของร่างกายอาจเป็นปัจจัยที่ตัดสินผลแพ้ชนะได้อย่างชัดเจนที่สุดในเวทีจริง
แนะนำค่ายมวยและสังกัดของนักมวยในศึกมวยไทยพันธมิตร
อีกมิติที่น่าสนใจของศึกมวยไทยพันธมิตร คือการได้เห็นค่ายมวยหลากหลายสังกัดร่วมกันส่งนักมวยขึ้นเวทีเดียวกัน
ไม่ว่าจะเป็นค่ายสายเวทีใหญ่ในกรุงเทพฯ อย่าง พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม ศิษย์ขุนทัพ รถสวยจ่าเจตสายพริ้ว หรือค่ายสายภูธรอย่าง แบงค์ทองคำใต้เพชรบุรี ธนพลรีสอร์ท นายกเอท่าศาลา
การที่ค่ายเหล่านี้นำลูกทีมมาวัดฝีมือกันในรายการเดียว ทำให้ศึกมวยไทยพันธมิตร กลายเป็นเหมือนเวทีโชว์ผลงานของสายสร้างจากทั่วประเทศ และสร้างสีสันให้แฟนมวยได้เห็นสไตล์ที่หลากหลายบนเวทีเดียวกัน
ค่าย ต.แย้มสวน ว.ธีระวัฒน์ ศ.สกุลเพชร และ ว.วัฒนะ
กลุ่มค่ายอย่าง ต.แย้มสวน ว.ธีระวัฒน์ ศ.สกุลเพชร และ ว.วัฒนะ ที่ส่งเชอร์รี่ เหนือดวง แก่นคูณ และชาตินักรบ ขึ้นชกในศึกมวยไทยพันธมิตร
สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทของค่ายมวยระดับกลางที่มุ่งเน้นการปลุกปั้นนักมวยให้ขึ้นสู่เวทีใหญ่ทีละก้าว
นักมวยจากค่ายเหล่านี้มักมีพื้นฐานเชิงมวยดี ฟิตซ้อมเต็มที่ และใช้รายการอย่างศึกมวยไทยพันธมิตร เป็นเวทีพิสูจน์ว่าพร้อมหรือไม่สำหรับการก้าวสู่ไฟต์ที่สำคัญมากขึ้นในอนาคต
ศิษย์ขุนทัพ ศักดิ์อินเตอร์ และสายเยาวชนพิกัดกิโลกรัม
สายค่ายเยาวชนอย่าง ศิษย์ขุนทัพ และ ศักดิ์อินเตอร์ รับหน้าที่ดูแลเด็กสร้างในศึกมวยไทยพันธมิตร อย่างเขาล้านเล็ก เก้าทัพ และเกล็ดเพชร
การส่งมวยเด็กพิกัด 40 กิโลกรัมขึ้นสังเวียนแสดงให้เห็นว่าค่ายเหล่านี้จริงจังกับการวางรากฐานตั้งแต่วัยเยาว์
โดยใช้เวทีนี้เป็นสนามให้เด็กได้เรียนรู้ทั้งการรับแรงกดดันจากคนดู การปฏิบัติตามคำสั่งครูมุม และการควบคุมอารมณ์บนเวที ซึ่งล้วนเป็นทักษะสำคัญของการเป็นนักมวยอาชีพในอนาคต
พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม และ รถสวยจ่าเจตสายพริ้ว สองสายสร้างคนละสไตล์
ค่ายดังอย่าง พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม และสายสร้างชื่อดังอย่าง รถสวยจ่าเจตสายพริ้ว ต่างส่งนักมวยขึ้นสังเวียนในศึกมวยไทยพันธมิตร หลายคน
ทั้งตำนานไทย เมืองฟ้าเล็ก และรถถังน้อย เอฟ18 ต่างเป็นตัวอย่างของมวยรุ่นใหม่ที่ได้รับการดูแลฝึกซ้อมอย่างเป็นระบบ
พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิมมักเน้นมวยฝีมือครบเครื่อง ส่วนรถสวยจ่าเจตมักเปลี่ยนมวยของตนเองให้พร้อมเดินบู๊สนุกถูกใจคนดู
เมื่อสองสไตล์มาพบกันบ่อยครั้งในศึกมวยไทยพันธมิตร จึงทำให้เกิดไฟต์คุณภาพที่มีทั้งความมันส์และเชิงมวยในเวลาเดียวกัน
ธนพลรีสอร์ท กอล์ฟพระเครื่องหาดใหญ่ แบงค์ทองคำใต้เพชรบุรี และ นายกเอท่าศาลา
ค่ายมวยที่มีชื่อสปอนเซอร์ท้องถิ่นติดอยู่ เช่น ธนพลรีสอร์ท กอล์ฟพระเครื่องหาดใหญ่ แบงค์ทองคำใต้เพชรบุรี และ นายกเอท่าศาลา
สะท้อนให้เห็นมิติของการสนับสนุนมวยไทยจากภาคธุรกิจและผู้มีจิตศรัทธาตามพื้นที่ต่าง ๆ ในภูมิภาค
การที่นักมวยอย่างก้องพิภพ ปูลม เพชรบ่วงแก้ว และคฑาเพชร ได้ขึ้นชกในศึกมวยไทยพันธมิตร จึงไม่ใช่เพียงการสร้างชื่อเสียงให้ตนเองเท่านั้น
แต่ยังเป็นการโปรโมตพื้นที่และค่ายมวยท้องถิ่นให้แฟนมวยทั่วประเทศได้รู้จักมากขึ้นอีกด้วย
ข้อมูลสำคัญสำหรับแฟนมวยที่ต้องการติดตามศึกมวยไทยพันธมิตร
แฟนมวยที่ต้องการเดินทางไปชมศึกมวยไทยพันธมิตร ถึงเวทีมวยเวิล์ด สยาม สเตเดี้ยม ควรวางแผนการเดินทางให้ถึงก่อนเวลาเริ่มชกสักเล็กน้อย
เพราะคู่แรกเริ่มขึ้นเวลา 18.00 น. และมีมวยเด็กพิกัดกิโลกรัมตั้งแต่ต้นรายการ หากไปสายอาจพลาดชมฟอร์มของดาวรุ่งตัวน้อยที่น่าสนใจ
การไปถึงเวทีล่วงหน้าจะทำให้มีเวลาเลือกที่นั่ง ปรับตัวกับบรรยากาศ และเตรียมตัวเก็บรายละเอียดเกมการชกของศึกมวยไทยพันธมิตร ได้แบบไม่เร่งรีบ
สำหรับแฟนมวยที่สะดวกติดตามจากที่บ้าน ก็สามารถใช้ข้อมูลจากบทความนี้เป็นแนวทางในการเลือกคู่ที่อยากชมเป็นพิเศษ
ไม่ว่าจะเป็นคู่ใหญ่พิกัด 126 ปอนด์ คู่มวยเยาวชน 44 กิโลกรัม หรือคู่ปิดท้ายพิกัด 36.5–37.5 กิโลกรัม
การรู้ล่วงหน้าว่าคู่ไหนมีใครเจอกับใคร น้ำหนักใครลดหรือขาดเท่าไร จะช่วยให้การชมศึกมวยไทยพันธมิตร มีมิติและอรรถรสมากกว่าการดูมวยแบบผ่าน ๆ ไป
เพราะจะได้ร่วมลุ้นเกมตามข้อมูลที่เตรียมไว้ พร้อมวิเคราะห์ไปด้วยว่าผลที่เห็นบนเวทีตรงกับที่คาดการณ์ไว้หรือไม่
สรุปไฮไลต์ศึกมวยไทยพันธมิตร 24 พฤศจิกายน 2568
เมื่อมองภาพรวมทั้งหมด ศึกมวยไทยพันธมิตร ในวันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2568 ณ เวทีมวยเวิล์ด สยาม สเตเดี้ยม
ถือเป็นบัตรมวยที่อัดแน่นด้วยคุณภาพคู่ชก ทั้งในระดับมวยอาชีพพิกัดปอนด์และมวยเยาวชนพิกัดกิโลกรัม
การจัดคู่ให้มีตั้งแต่น้ำหนัก 36.5 กิโลกรัมเรื่อยไปจนถึง 126 ปอนด์ ทำให้แฟนมวยได้เห็นความแตกต่างของสไตล์การชกในแต่ละช่วงน้ำหนักอย่างชัดเจน
บวกกับความหลากหลายของค่ายมวยที่เข้าร่วม ทำให้ศึกมวยไทยพันธมิตร ชุดนี้มีความครบเครื่องและน่าติดตามแทบทุกคู่
ไฮไลต์สำคัญของรายการ ได้แก่ คู่ที่ 3 ระหว่างแก่นคูณ ศ.สกุลเพชร กับเอ็กซ์ตร้า สิงห์นครแว่น ในพิกัด 122 ปอนด์ที่มีความสมดุลทั้งด้านฝีมือและแรงปะทะ
คู่ที่ 4 ตำนานไทย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม พบ เพชรเจ้าพระยา ศิษย์กำนันเหน่ง ที่มีประเด็นเรื่องการลดน้ำหนักเยอะทั้งสองฝ่าย
และคู่เยาวชนอย่าง เอฟ18 รถสวยจ่าเจต พบ เมืองฟ้าเล็ก พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม รวมถึงคู่ปิดท้ายระหว่างเพชรบ่วงแก้ว กับคฑาเพชร
ซึ่งล้วนเป็นไฟต์ที่สะท้อนความตั้งใจของผู้จัดศึกมวยไทยพันธมิตร ในการสร้างเวทีให้ทั้งมวยอาชีพและมวยเด็กได้เปล่งประกายบนสังเวียนอย่างแท้จริง
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับศึกมวยไทยพันธมิตร (FAQ)
ศึกมวยไทยพันธมิตร วันที่ 24 พฤศจิกายน 2568 เริ่มชกกี่โมง?
ศึกมวยไทยพันธมิตร ในวันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2568 มีกำหนดเริ่มชกคู่แรกตั้งแต่เวลา 18.00 น. และคาดว่าจะจบรายการประมาณ 20.30 น.
แฟนมวยที่อยากชมครบทุกคู่ควรจัดสรรเวลาให้ดี หากจะเดินทางไปชมที่เวทีแนะนำให้เผื่อเวลาเดินทางล่วงหน้า
ส่วนผู้ที่ชมทางบ้านก็ควรเปิดหน้าจอเตรียมรอช่วงก่อนหกโมงเย็นเพื่อไม่ให้พลาดมวยเด็กและมวยเล็กต้นรายการที่มักชกกันสนุกเกินคาดในศึกมวยไทยพันธมิตร
ศึกมวยไทยพันธมิตร จัดที่ไหน?
รายการศึกมวยไทยพันธมิตร จัดขึ้นที่เวทีมวยเวิล์ด สยาม สเตเดี้ยม ซึ่งเป็นเวทีมวยยุคใหม่ที่รองรับทั้งการจัดแข่งขันและการถ่ายทอดสดอย่างครบวงจร
เวทีแห่งนี้มีระบบแสง สี เสียง และพื้นที่รองรับผู้ชมที่ทันสมัย เหมาะสมกับการเป็นสังเวียนของศึกมวยไทยพันธมิตร ที่ต้องการสร้างประสบการณ์ชมมวยที่เข้มข้นและสนุกสนานให้แฟนมวยทั้งในสนามและทางบ้าน
ศึกมวยไทยพันธมิตร วันนี้มีกี่คู่ และมีพิกัดอะไรบ้าง?
ในศึกมวยไทยพันธมิตร วันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2568 มีโปรแกรมการแข่งขันทั้งหมด 9 คู่
ประกอบด้วยมวยพิกัดปอนด์ในรุ่น 101 105 107 122 และ 126 ปอนด์ และมวยเยาวชนพิกัดกิโลกรัมในรุ่น 40 43 44 และ 36.5–37.5 กิโลกรัม
การจัดพิกัดแบบนี้ทำให้แฟนมวยได้เห็นทั้งความเร็วจัดของมวยเด็ก ความพลิ้วของมวยเล็ก และความหนักแน่นของมวยรุ่นกลางในศึกมวยไทยพันธมิตร รายการเดียวอย่างครบถ้วน
คู่ไหนในศึกมวยไทยพันธมิตร วันนี้น่าจับตามองเป็นพิเศษ?
คู่ที่น่าจับตามองในศึกมวยไทยพันธมิตร รอบนี้ ได้แก่ แก่นคูณ ศ.สกุลเพชร พบ เอ็กซ์ตร้า สิงห์นครแว่น ในพิกัด 122 ปอนด์ ซึ่งเป็นการปะทะกันของมวยครบเครื่องสองสไตล์
คู่ตำนานไทย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม พบ เพชรเจ้าพระยา ศิษย์กำนันเหน่ง ในพิกัด 126 ปอนด์ ซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างลดน้ำหนักค่อนข้างเยอะแต่ยังต้องมาแลกกันในเวทีใหญ่
รวมถึงคู่เยาวชนระหว่าง เอฟ18 รถสวยจ่าเจต พบ เมืองฟ้าเล็ก พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม และคู่ปิดท้ายระหว่างเพชรบ่วงแก้ว กับคฑาเพชร
แฟนมวยที่ไม่อยากพลาดความมันส์และการเห็นว่าดาวรุ่งคนไหนมีโอกาสขึ้นสู่ระดับแถวหน้าในอนาคต ควรติดตามทุกคู่เหล่านี้ในศึกมวยไทยพันธมิตร ให้ครบถ้วน
