โปรแกรมศึกป่าตองไฟท์ไนท์ 13 พฤศจิกายน 2568 ณ สนามมวยป่าตองไสน้ำเย็น จังหวัดภูเก็ต ถือเป็นหนึ่งในรายการมวยที่ได้รับความนิยมสูงจากแฟนมวยทั้งชาวไทยและต่างชาติ เพราะความหลากหลายของคู่มวยที่ผสมผสานระหว่างนักชกไทยและนักชกต่างชาติ ประกอบกับบรรยากาศของจังหวัดภูเก็ตที่เป็นเมืองท่องเที่ยว ทำให้เวทีมวยกลับมามีชีวิตชีวาในทุก ๆ ค่ำคืน โดยเฉพาะในรอบวันพฤหัสบดีที่มักมีผู้ชมแน่นขนัดจนเต็มความจุของสนามมวยอย่างต่อเนื่อง รายการนี้จะเริ่มแข่งขันตั้งแต่เวลา 21.00 น. เป็นต้นไป และแต่ละคู่มีผลชั่งน้ำหนักที่น่าสนใจจนต้องวิเคราะห์อย่างละเอียด
ตารางสรุปโปรแกรมรวมศึกป่าตองไฟท์ไนท์
| คู่ที่ | แดง | น้ำเงิน | พิกัด | ชั่งได้ (แดง) | ชั่งได้ (น้ำเงิน) | หมายเหตุ |
|---|---|---|---|---|---|---|
| 1 | แสงจันทร์ | เพชรสายรุ้ง | 106/105 | 105.4 | 104.6 | หญิง |
| 2 | อรุณแสง | ลูกแก้ว | 105 | 104 | 105.8 | หญิง |
| 3 | เพชรเงิน | ซูฮาอิล | 169 | 169 | 172 | ต่างชาติ |
| 4 | ณัฐพล | โมฮัมหมัด | 138/140 | 137.8 | 140 | ไทย–ต่างชาติ |
| 5 | มาวิน | ชาลี | 134/136 | 133.8 | 136 | ไทย–ฝรั่งเศส |
| 6 | ประกายเพชร | ยอดนที | 110/112 | 109.2 | 111.8 | ไทย–ไทย |
วิเคราะห์คู่มวยแบบเจาะลึก
คู่ที่ 1: แสงจันทร์ ก.เจริญศักดิ์ vs เพชรสายรุ้ง ศ.วีระชัย
| แดง | น้ำเงิน |
|---|---|
| แสงจันทร์ – 105.4 ป. | เพชรสายรุ้ง – 104.6 ป. |
คู่เปิดสนามเป็นมวยหญิงที่มีความเร็วสูงทั้งคู่ สไตล์ของแสงจันทร์เป็นมวยตั้งรับดักจังหวะ
มีลูกเตะตัดล่างและหมัดคมเป็นอาวุธเด่น แม้ชั่งได้ขาดน้ำหนัก 0.6 ปอนด์ แต่ก็ได้เปรียบทางพิกัดเพราะต่อน้ำหนัก 1 ปอนด์ให้คู่ชก
ขณะที่เพชรสายรุ้งแม้ขาดเพียง 0.4 ปอนด์ แต่รูปเกมอาจต้องเน้นความว่องไวเพื่อชิงพื้นที่กลางเวที
หากเพชรสายรุ้งเร่งเกมมากไปเสี่ยงเข้าทางสวนกลับของแสงจันทร์ เกมนี้จึงต้องอาศัยความนิ่งและแม่นในจังหวะออกอาวุธมากเป็นพิเศษ
คู่ที่ 2: อรุณแสง โยธารักษ์มวยไทย vs ลูกแก้ว ช.เหล็กเพชร
| แดง | น้ำเงิน |
|---|---|
| อรุณแสง – 104 ป. | ลูกแก้ว – 105.8 ป. |
มวยหญิงคู่นี้มีความต่างที่พละกำลังชัดเจน อรุณแสงชั่งได้ต่ำกว่าพิกัดถึง 1 ปอนด์
อาจทำให้พลังปะทะเสียเปรียบ แต่มีความว่องไวและการตั้งรับดี ส่วนลูกแก้วที่ต้องลดน้ำหนัก 0.8 ปอนด์
อาจมีผลต่อแรงปลายเล็กน้อย แต่ยังมีจุดเด่นคือการเดินหน้าทำเกมอย่างต่อเนื่อง
การพบกันครั้งนี้น่าจะเป็นการแลกแข้งแลกหมัดที่รวดเร็ว โดยผู้ที่สามารถยืนระยะได้ดีกว่าในยกสองและสาม
จะมีโอกาสชนะคะแนนในท้ายที่สุด
คู่ที่ 3: เพชรเงิน ช.สุขมายิมส์ vs Suhayl Omran (Australia)
| แดง | น้ำเงิน |
|---|---|
| เพชรเงิน – 169 ป. | ซูฮาอิล – 172 ป. |
คู่มวยรุ่นใหญ่ที่มีความแตกต่างด้านพละกำลังชัดเจน เพชรเงินชั่งได้ตรงพิกัดพอดี
แสดงถึงความพร้อมทั้งเรื่องแรงและความแม่นยำในการออกอาวุธ ส่วนซูฮาอิลจากออสเตรเลียต้องลดน้ำหนักถึง 3 ปอนด์
แสดงว่าในช่วงก่อนชั่งอาจมีภาระเรื่องการจัดการร่างกาย แต่เขายังมีจุดเด่นคือพลังหมัดหนักและสไตล์การชกแบบลูกผสม
ซึ่งมักสร้างปัญหาให้นักมวยไทยหลายราย
หากเพชรเงินยังคงรักษาระยะและเน้นเตะตัดขาเพื่อหยุดความแรงของซูฮาอิล มีโอกาสคุมเกมได้มากขึ้น
คู่ที่ 4: ณัฐพล โยธารักษ์มวยไทย vs Mohammad Monayssir (Morocco)
| แดง | น้ำเงิน |
|---|---|
| ณัฐพล – 137.8 ป. | โมฮัมหมัด – 140 ป. |
คู่มวยไทย–ต่างชาติที่น่าติดตาม เนื่องจากแต้มต่อของน้ำหนักอยู่ที่ฝ่ายโมฮัมหมัดจากโมร็อคโค
ซึ่งชั่งได้ตามพิกัดเป๊ะ ในด้านเทคนิคถือว่าเป็นนักมวยที่มีฝีมือแพรวพราวและเดินเกมเร็ว
ส่วนณัฐพลที่ขาด 0.2 ปอนด์และต่อน้ำหนักถึง 2 ปอนด์ ต้องใช้ความไวและลูกเตะหน้าเพื่อหยุดเกมรุกของคู่ต่อสู้
ไฟต์นี้จะวัดกันที่ความทนทานและชั้นเชิงของทั้งสองฝ่ายโดยแท้จริง
หากณัฐพลสามารถตั้งกำแพงป้องกันและใช้ลูกถีบคุมเกมได้ดี มีลุ้นสร้างเซอร์ไพรส์ชนะคะแนนได้เช่นกัน
คู่ที่ 5: มาวิน โยธารักษ์มวยไทย vs Charly Eot (France)
| แดง | น้ำเงิน |
|---|---|
| มาวิน – 133.8 ป. | ชาลี – 136 ป. |
ไฟต์นี้เป็นการเจอกันของสไตล์ที่แตกต่าง มาวินเป็นมวยที่ได้ชื่อว่า “อาวุธครบเครื่อง”
และมีจังหวะเตะต่อยที่แม่นยำ แม้จะชั่งขาดเพียง 0.2 ปอนด์ แต่ยังถือว่าสมบูรณ์
ขณะที่ชาลีจากฝรั่งเศสเป็นมวยที่แข็งแรง ชกดุดัน ใช้หมัดต่อเนื่องเป็นอาวุธหลัก
เกมนี้น่าจะเป็นภาพของนักมวยไทยตั้งรับดักจังหวะสวนกับความรุนแรงของนักมวยต่างชาติ
ต้องดูว่ามาวินจะรักษาระยะปลอดภัยได้ดีหรือไม่ เพราะถ้าถูกบีบเข้ามุมอาจเสียเปรียบได้ทันที
คู่ที่ 6: ประกายเพชร สดบินหลายิมส์ vs ยอดนที ส.เจริญวุฒิ
| แดง | น้ำเงิน |
|---|---|
| ประกายเพชร – 109.2 ป. | ยอดนที – 111.8 ป. |
คู่ปิดท้ายของรายการถือว่าสมศักดิ์ศรี เพราะทั้งสองเป็นนักมวยที่มีทักษะและความเร็วสูง
ประกายเพชรขาด 0.8 ปอนด์และต่อน้ำหนักถึง 2 ปอนด์ ทำให้ต้องใช้การตั้งรับคุมจังหวะมากขึ้น
ขณะที่ยอดนทีแม้ขาดแค่ 0.2 ปอนด์ แต่มีพลังหมัดและแรงปะทะที่มากกว่า
หากประกายเพชรใช้ความไวและการฉีกมุมเพื่อหลีกเลี่ยงแรงปะทะได้ดี
ไฟต์นี้อาจกลายเป็นเกมที่สูสีจนต้องวัดกันถึงคะแนนสุดท้าย
จุดเด่นของเวทีป่าตองไสน้ำเย็นในการแข่งขันครั้งนี้
เวทีมวยป่าตองไสน้ำเย็นมีชื่อเสียงในฐานะเวทีมวยแห่งการท่องเที่ยว
ที่ผสานความสนุกแบบมวยไทยเข้ากับบรรยากาศของเมืองท่องเที่ยวระดับโลกอย่างภูเก็ต
ที่นี่เต็มไปด้วยแสง สี เสียง และผู้ชมจากทุกมุมโลก ทำให้การแข่งขันมวยมีความเร้าใจเป็นพิเศษ
นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้นักมวยหญิงและนักมวยต่างชาติเข้าร่วมมากขึ้น
ทำให้เวทีมีความหลากหลายและเพิ่มสีสันให้วงการมวยไทยอย่างมาก
แฟนมวยที่ได้เข้าชมสดจะสัมผัสได้ถึงความใกล้ชิดและความดุดันแบบไม่เหมือนที่อื่น
FAQ – คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับศึกป่าตองไฟท์ไนท์
ดูสดศึกป่าตองไฟท์ไนท์ได้ทางไหน?
สามารถรับชมได้ผ่านช่อง YouTube อย่างเป็นทางการของสนามมวยป่าตอง หรือผ่าน Facebook Live ของผู้จัดไฟท์ในวันแข่งขัน
รายการนี้จัดขึ้นบ่อยแค่ไหน?
ป่าตองไฟท์ไนท์จัดเป็นประจำทุกสัปดาห์ โดยเฉพาะวันอังคาร พฤหัสบดี เสาร์ และอาทิตย์ ทำให้แฟนมวยเลือกชมได้ตามความสะดวก
เวทีมวยไสน้ำเย็นดีอย่างไร?
จุดเด่นคือบรรยากาศเร้าใจ มาตรฐานสากล เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว และมักมีคู่มวยนานาชาติเข้าร่วมอย่างสม่ำเสมอ
สรุปภาพรวม
ศึกป่าตองไฟท์ไนท์ประจำวันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 เป็นหนึ่งในรายการที่มีความหลากหลายของคู่มวยอย่างยิ่ง
ไม่ว่าจะเป็นมวยหญิง มวยต่างชาติ หรือมวยไทยสายบู๊ที่แฟนมวยคุ้นเคย
แต่ละคู่มีผลการชั่งน้ำหนักที่แตกต่าง ส่งผลให้รูปแบบการชกมีความน่าติดตามมากยิ่งขึ้น
แฟนมวยที่ชอบความมันส์แบบต่อเนื่องรับรองว่าคืนนี้จะเป็นอีกหนึ่งค่ำคืนที่ประทับใจ
ที่เวทีมวยป่าตองไสน้ำเย็นจังหวัดภูเก็ต
